ขอสอบถามเป็นความคิดเห็นหน่อยคะ่

คุณแม่ เป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ ครั้งแรกเข้า รพ. มีอาการพูดไม่ได้อย่างเดียว แขนขามีแรงปกติ ไปรพ. เร็ว หมอวินิฉัย ว่าเส้นตีบฝั่งซ้าย ได้ให้ยาละลายลิ่มเลือด และพักฟื้น ดูอาการ แม่สามารถพูดได้ แต่ยังช้าบ้าง แต่มีอาการเพิ่มเติม คือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นเร็ว ทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ 

ได้พักรักษาตัว จนกลับมาบ้านได้ โดยมียามากิน ทั้งความดัน หัวใจ ยาละลายลิ่ม มาพักอยู่บ้าน 2 วันครึ่ง

แม่มีอาการแขนขาขวา หมดแรง และพูดไมไ่ด้ เกิดอาการซึม เลยรีบไป รพ.อีกรอบ ในวันที่ 28/4/2565 หมอสแกนสมอง พบว่า มีเลือดออกตรงจุดตีบเดิม
วิธีการรักษา คือให้ วิตามิน K เพื่อให้เลือดหยุดไหล ไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากแม่มีการกินยาละลายลิ่มไปเมื่อคืน 27/4 แล้ว

จนเช้าวันที่ 29/4 เกิดอาการสมองฝั่งซ้าย บวม เกือบทั้งซีก เนื่องจากขาดเลือด จนต้องรีบผ่าตัดเพื่อเปิดกะโหลก ลดความดันและความบวมของสมอง 
และยาละลายก็ไม่สามารถให้ได้ เนื่องจากยังมีจุดเลือดออกอยู่

การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ไม่มีอะไรแทรกซ้อน จนถึง วันนี้

อาการแม่ทรงตัว ลืมตาบ้างเวลาพยาบาลเรียก และรู้สึกเจ็บตัว สะดุ้งเวลาพยาบาลทำอะไรให้ ความดันปกติ และอัตราการเต้นหัวใจ ยังให้ยาคุมอยู่ แม่ยังตื่นรู้สึกตัวยังไม่ดี ยังทำตามสั่งไม่ได้ หมอวินิจฉัย ว่าต้องเจาะคอเพื่อช่วยเหลือหายใจ จะได้ดูแลง่ายขึ้น ดูดเสมหะง่ายขึ้น เนื่องจากท่อช่วยหายใจได้ใส่มาตั้งแต่ 29/4 แล้ว ซึ่งใส่นานๆๆ มีโอกาสติดเชื้อได้ด้วย

แต่ตอนนี้ครอบครัวมีความลังเล ว่าจะเจาะดีหรือไม่เจาะดี เพราะตอนนี้สมองแม่เสียหายค่อนข้างเยอะ การตอบสนองยังต้องใช้เวลาพอสมควร
อยากได้ความคิดเห็น หรือชี้แนะจากผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ หรือหมอที่เข้ามาอ่านเจอกระทู้ ช่วยชี้แนะหน่อยคะ่ ว่าสมควรทำอย่างไรดี