แผนของบริษัทรถยนต์ต่างๆต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(BEV)ในประเทศไทย พ.ศ.2565

กระทู้ข่าว
แผนของบริษัทรถยนต์ต่างๆต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(BEV)ในประเทศไทย พ.ศ.2565
.
การผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากแพ็กเกจอีวีของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมครม.เรียบร้อย โดยมีมาตรการสนับสนุน ทั้งการลดภาษี และการให้เงินอุดหนุน
.
จนถึงปัจจุบัน มีค่ายรถยนต์หลายค่ายให้ความสนใจและลงนามข้อตกลง เข้าร่วมโครงการสนับสนุน ev จากภาครัฐหลายแบรนด์ ทั้ง Greatwall , MG และ Toyota โดย 2 รายแรกนั้น ได้เริ่มวางจําหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แพกเกจสนับสนุนแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมยอดจําหน่ายทั้ง 2 แบรนด์กว่า 3500 คัน ขณะที่โตโยต้าคาดว่าจะเริ่มวางจําหน่ายรถไฟฟ้ารุ่น Bz4x ภายในสิ้นปีนี้ในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท
.
ค่ายรถจีนเร่งทําคะแนน
.
แม้ว่าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน จะส่งผลให้ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนสามารถนําเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจําหน่ายโดยไม่เสียภาษีอากรอยู่แล้วนั้น การเข้ามาลงทุนเพื่อตั้งฐานผลิตในประเทศไทยยังนับว่าเป็นสิ่งที่จําเป็น เพื่อเพิ่มความมั่นใจของลูกค้า ใช้ประเทศไทยเป็นฐานส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวา และที่สําคัญ เข้ารับสิทธิ์รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ ส่งผลให้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนต่างเร่งเข้ามาลงทุนตั้งฐานผลิตในประเทศไทยเป็นจํานวนมาก ทั้ง MG , Greatwall และ BYD โดยสําหรับ BYD แล้ว ในฐานะบริษัทอีวีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะเป็นการตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศครั้งแรก ด้วยเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท พร้อมจับมือพันธมิตรท้องถิ่นที่มีประสบการณ์อย่างเครือสยามกลการ คาดว่าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมออกมาเร็วๆนี้
.
ค่ายญี่ปุ่นจี้ตาม ไม่ยอมเสียตลาดสําคัญง่ายๆ
.
โตโยต้า บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของประเทศไทยมานานหลายสิบปี ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้ตลาดนี้หลุดไปจากมือง่ายๆ ได้ส่งอีวีเรือธงรุ่น BZ4X เข้ามาทําตลาด โดยรถไฟฟ้ารุ่นนี้ มีสเปคต่างๆที่สร้างมาเพื่อที่จะว่ากันว่าล้มบัลลังค์ของ Tesla เลยทีเดียว จุดเด่นของโตโยต้าที่มีมาอย่างยาวนานอย่างคุณภาพการประกอบและบริการหลังการขายที่สร้างความเชื่อใจกับคนไทยมากว่าครึ่งศัตวรรษคาดว่าจะทําให้โตโยต้าขึ้นเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวไม่น้อยสําหรับค่ายรถยนต์รายใหม่ๆ ความเคลื่อนไหวของโตโยต้าตรงกันข้ามกับค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดหรือไม่แสดงความเคลื่อนไหวใดๆ
.
ค่ายยุโรปลังเล เบนซ์ เริ่มผลิต แต่ยังไม่เข้าร่วมโครงการ
.
บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย หลังจากเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EQS ไปได้ไม่นาน ได้เตรียมพร้อมไลน์ประกอบรถยนต์ไฟฟ้าไว้เป็นที่เรียบร้อย ผ่านการลงทุนกว่า 4000 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ภายใต้ บริษัท ธนบุรีเอ็นเนอร์ยี่สตอเรจแมนูแฟคเจอริ่ง (TESM) เพื่อป้อนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ทั้งรถปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลต่างๆรวมถึงข้อผูกมัดกรณีที่ตามมาจากการเข้าร่วมโครงการ  ไปทางด้าน BMW ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาบริษัทแม่สําหรับนํารถไฟฟ้าเข้ามาประกอบ โดยตอนนี้เน้นนําเข้ามาจําหน่ายก่อน
.
แจ้งเกิดค่ายรถยนต์ไทย EA นํา / ปตท. เร่งจับมือสตาร์ทอัพ
.
สิ่งที่คาดไม่ถึงมากที่สุดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในปัจจุบันคือการเข้ามามีส่วนร่วมของบริษัทไทย  Nexpoint นําโดยเครือพลังงานบริสุทธิ์ได้เริ่มเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาภายใต้แบรนด์ NEX และ Minemobility  ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการหลายราย ปัจจุบันบริษัทวางจําหน่ายรถโดยสารและรถบรรทุกประเภทต่างๆ รวมถึงในอนาคตมีแผนที่จะนํารถตู้และรถกระบะเข้ามาเสริมทัพอีกด้วย  ด้าน ปตท. ไม่น้อยหน้า เร่งหาสถานที่ตั้งโรงงานร่วมทุนระหว่างบริษัทอรุณพลัส ในเครือ ปตท. และหงไห่พริซิชั่น หรือ Foxconn เพื่อสร้างฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ OEM (รับจ้างผลิต) ให้กับสตาร์ทอัพรถไฟฟ้าที่สนใจ ปัจจุบันได้ลงนามกับสตาร์ทอัพสัญชาติจีนอย่าง NETA และอยู่ระหว่างหารือกับลูกค้าทั้งในสหรัฐและยุโรปกว่า 5-6 ราย
.
เมื่อสรุปแล้ว คาดว่าในปีนี้จะมียอดจําหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกว่า 1 หมื่นคัน ซึ่งหากเทียบกับยอดขายรถยนต์เฉลี่ยทั้งปีใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ 1 ล้านคันต่อปี จะคิดเป็นประมาณ 1% ของยอดขายทั้งหมด หรือรถอีวี 1 คันต่อรถน้ำมันทุกๆ 99 คัน นับว่ายังห่างไกลจากผู้นําโลกด้านรถไฟฟ้า เช่นฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร แต่ก็ถือว่านําหน้าเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศ นับเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป...
.
---------------------------------------------------------------------------
ที่มา...
Thailand Development Report หรือ TDR เป็นบล็อกข่าวและข้อมูลที่ทำขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นในการนำเสนอข่าวและบทความด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
ช่องทางการติดตาม
Facebook : facebook.com/ThaiDevReport
Website : thdevelopmentreport.blogspot.com
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพจ
E-mail : thdevelopmentreport@gmail.com


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่