ล. วิลิศมาหรา

ผมเป็นคนที่หลงใหลในประสาทหินของขอมโบราณมาก โดยเฉพาะรูปแกะสลักหินของนางอัปสร ผมได้เดินทางไปเที่ยวชมประติมากรรมแบบนี้หลายแห่ง ทั้งที่ในประเทศไทยและที่ประเทศเขมร ศึกษาเรื่องราวของนางอัปสร จนรู้ว่านางอัปสรถือว่าเป็นนางฟ้าจำพวกหนึ่ง บังเกิดขึ้นเมื่อครั้งกวนเกษียรสมุทร เพื่อเอาน้ำอมฤตขึ้นมา นิกายไศวะในศาสนาฮินดู ประธานในการกวนจะเป็นพระศิวะ แต่ถ้าเป็นทางพุทธ ประธานจะเป็นพระอินทร์ สิ่งที่ได้ตามมาอย่างหนึ่งจากการกวนเกษียณสมุทรก็คือเหล่านางอัปสรที่รูปงาม มีน้ำเสียงอันไพเราะ ชอบการฟ้อนรำและเล่นดนตรี รวมทั้งมีอำนาจแปลงกายได้ 

ในราชสำนักของพระอินทร์มีนางอัปสรอยู่ยี่สิบหกตน แต่ละตนมีความสามารถในเชิงศิลปะต่าง ๆ กัน บางตำนานกล่าวต่อไปว่า นางอัปสรนั้นเป็นชายาของคนธรรพ์ ซึ่งเป็นนักดนตรีในสวรรค์ โดยนางจะเต้นรำไปตามจังหวะดนตรีที่สามีของตนบรรเลง โดยทั่วไปมีความเชื่อว่านางอัปสรเป็นเครื่องหมายแห่งความเจริญงอกงาม แต่บางถิ่นก็เชื่อว่าอัปสรมีอำนาจแห่งความชั่วร้ายอยู่ด้วย

ในปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา มีการสลักภาพนางอัปสรไว้มากมาย โดยที่แต่ละรูปมีใบหน้า ท่าทาง และการแต่งกายที่แตกต่างกันไป บางตำนานเล่าว่ารูปภาพแกะสลักที่อยู่ตามปราสาทขอมโบราณเกิดจากการแกะสลักจากหญิงที่ถูกจับมาเป็นเชลยศึก นางใดที่ขัดขืนจะถูกประหารชีวิตด้วยการจองจำวิญญาณไว้ยังรูปสลักนางอัปสรานั้นตราบกาลปวสาน เหตุนี้จึงทำให้รูปนางอัปสรเหล่านี้ จึงดูราวกับจักสามารถออกมาร่ายรำในคืนพระจันทร์เต็มดวงได้

ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสไปชมปราสาทหินแห่งหนึ่ง ไปเห็นภาพแกะสลักของนางอัปสรที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุด ดูพลางก็จินตนาการถึงเหล่านางฟ้านางสวรรค์ที่กำลังร่ายรำอยู่ในมหาสมุทร หรือเริงระบำอยู่บนท้องฟ้าด้วยความเบิกบานสำราญใจ

ระหว่างเดินชมภาพสลักหินของนางอัปสรเหล่านั้นอยู่ ผมก็มองไปเห็นเศษหินชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่ง หล่นอยู่บนพื้น มันกระทบสายตาของผมเข้าอย่างจัง

คุณผมคนนี้เมื่อเจอชิ้นส่วนของปราสาทแล้วเขาจะทำยังไงต่อ ติดตามได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ  https://youtu.be/mOV_K4TIXJA