[CR] เที่ยว Chicago กับเพื่อนต่างชาติ ช่วง Spring Break 5 วัน 4 คืน

สวัสดีทู๊กคนนนนน เราป๊อบนะ เรามาเรียนต่อปริญญาโทที่อเมกา เอกสาขาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ปีนี้เข้าปีที่สี่แล้ว เราเรียนอยู่ที่ รัฐ Minnesota เมือง Winona ตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่ได้อะไรดีๆ มาเยอะแยะมากมาย ได้ทั้งเรียน ทำงาน ท่องเที่ยว ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ หลายสัญชาติ ได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนอเมริกาเหนือและความเป็นอยู่ที่แตกต่างจากบ้านเรามากๆ 
 
         วันนี้จะขอมา แชร์ประสบการณ์มันส์ๆ กับการไปเที่ยวกับเพื่อนชาวต่างชาติครั้งแรกที่ไม่มีเพื่อนคนไทยไปด้วยเลย มีแค่เราคนเดียวที่เป็นคนไทย ช่วงแรกๆ ที่มายังต้องมีเพื่อนหรือรุ่นพี่คนไทยไปด้วยกันตลอด (มีคนพูดไทยได้อยู่ด้วยก็สบายใจดี) ตอนนี้เราอยู่นี่มา 3 ปีแล้ว หลังจากฝึกวิชา จนชำนาญทั้งภาษา สำเนียง การตบมุกหรือจังหวะรับส่งบท และวัฒนธรรม ก็เลยชวนเพื่อนต่างชาติที่สนิทกันไปเที่ยวช่วง Spring Break เป็นระยะเวลา 5 วัน 4 คืน เรามุ่งหน้าไปกันที่ “Chicago!!!” (ตื่นเต้นสุดๆ) “ทริปแรกของเด็กต่างชาติและเพื่อนต่างชาติในต่างประเทศ รวมหลากหลายวัฒนธรรมในทริปนี้” ต่างคนต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา ต่างเชื้อชาติ ต่าง Personality 
 
         สมาชิกในทริปมี 4 คน คนแรกมาจากญี่ปุ่น ชื่อ โฮโนกะ (น่าร๊าก นิสัยก็น่าร๊าก มารยาทก็น่าร๊าก) I like her because she is very good at setting up boundary คนที่2 มาจาก พม่า ชื่อ อี้(Trip manager) คนที่3 เป็น แอฟริกันอเมริกัน ชื่ออีวาน (เฮฮาปาจิงโกะตลอดทริป555) และคนสุดท้ายคือป๊อบเองที่อายุเยอะสุดในทริป ทำหน้าที่ผู้อาวุโส ให้คำปรึกษาเวลาเด็กๆไม่สามารถตัดสินใจได้ 555 โฮโนกะ น้องเล็กสุดของทริป อายุห่างจากเราถึง 8 ปี แต่แน่นอน อายุเป็นเพียงตัวเลข 555 ใจเด็กสะอย่าง
 
         ป๊อบเป็นคนเลือกเมืองและทุกคนตกลง เพราะป๊อบคิดว่าเมืองนี้ไปสะดวก มีอะไรน่าสนใจเยอะ บวกกับคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆมาแล้ว และทุกคนรับด้ายยยย
 
         เราใช้เงินทริปนี้ไปทั้งหมด $784.55 [ขอบอกว่าตัวเลขนี้รวมทุกอย่างแล้วจ้า ค่ากิน ค่าเดินทาง (ค่ารถไฟ,รถบัส, และ ค่า Lyft) และค่าตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ] แต่ถ้าเพื่อนๆไม่เน้นกินตัวเลขอาจจะอยู่ที่ประมาณ 500-600 ดอล
 
ข้อตกลง: ทุกคนในทริปสามารถใช้สิทธิเลือกสถานที่ที่ตนเองสนใจและอยากไปได้ คนละ1สถานที่ สรุป 4 สถานที่ ไฮไลท์ที่ถูกเลือก
1. Field Museum,
2. Chicago Architecture Tour,
3. Chicago Skydeck &
4. Chicago 360 tilt or 360 Chicago Observation Deck.
 
นอกเหนือจากนี้ เรามีได้แพลนสำรองไว้ด้วยยย คือ  The bean (Could Gate), China Town, H mart, Starbucks Roastery Chicago, จิงๆพวกเราแพลนจะไป Navy Pier ด้วย แต่ด้วยสภาพอากาศ 8~องศาและ google mapที่ไม่เอื้ออำนวยเอาสะเล้ย~ พวกเราเลยยกเลิก Navy Pier ไป (T^T)
ที่อเมริกา เค้าจะเอาเดือนขึ้นก่อน ตามด้วยวัน และปี อันนี้เป็นตารางที่เราแพลนกันคร่าวๆ ว่าวันไหนเราจะไปไหนกันบ้าง แต่มีบางที่เราก็ไม่ได้ไปจริงๆ ตามตาราง จ้า รูปในทริปนี้จะมีแต่รูปที่เราได้ไปกันจริงๆ ส่วน H Mart เป็น Asian Supermarket ซึ่งพวกเราช้อปกันจนลืมถ่ายรูปมาฝาก T^T

รายละเอียดสถานที่ที่เราจะไปเที่ยว และเวลาที่ห่างจากที่พัก
ค่าที่พักและค่าเดินทาง
         เราเริ่มนั่งรถไฟจาก เมือง Winona มาถึง Chicago Union Station ใช้เวลาทั้งหมด 5 ชม. ตารางรถไฟจริงต้องออก 10 โมงเช้า และจะถึง Chicago Union Station ประมาณบ่ายสามโมง แต่รถไฟเลทจ้า สรุปเราได้ขึ้นรถไฟตอนเที่ยง ไปถึง Chicago Union Station ตอน5โมงเย็น บนรถไฟจะมีร้านอาหารเล็กๆ อยู่ที่ชั้นล่างสุด โบกี้สุดท้าย สามารถซื้ออะไรกินรองท้องเล็กๆน้อยๆได้ แต่ละคนใช้งบกับการกินอะไรรองท้อง เล็กๆน้อยไปคนละ ไม่เกิน$10โดยประมาณ พอไปถึง Chicago Union Station เราเรียก Lyft (คล้ายๆ เรียกTaxi, Uber) ไปยังที่พัก เราแยกไปกันคันละ 2 คน เราไปกับโฮโนกะ ตกอยู่ที่ คนละ $8 ถือว่าคุ้มค่าเพราะกระเป๋าแต่ละคนหนักม๊ากกก เราเลือกที่พักแถว Chicago Downtown เพราะเป็นจุดที่สะดวก ง่าย และรวดเร็วต่อการเดินทางไปเที่ยวที่สุดแล้ว 
รายละเอียดสถานที่พัก และรถไฟ Amtrak

          จุดพีค คือ อี้ (Trip manager) ของเรา ได้จองตั๋ว ซ้ำกัน2ใบจ้า คือ Winona>Chicago & Winona>Chicago ขากลับพวกเราเลย ยกเลิกตั๋วรถไฟและซื้อตั๋วรถบัสแต่ราคาเท่ากันจ้า




เด็กเอเชีย อร่อยมากับผงงง 555 ดูจากในรูปก็รู้มีแต่ถ้วยมาม่าจ้า

ดู๊วววว กระเป๋าแต่ละคนนน
มาถึงChicago Union Station แล้วจ้าาา
นี่คือหน้าตาที่พักของพวกเรา พวกเราจองที่พักใน Air BNB ราคาเลยไม่แพงมาก
กำลังหารหัสเข้าจ้า 
เข้ามาแล้วโอ้โหววววประทับใจ พอใจ สามห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว
ห้องนี้คือห้องนอนของเราเองงง กว้างสบาย โสดอย่างเรานอนคนเดียวเหงาเลย5555
สวัสดีเช้าวันจันทร์ เอ้ยไม่ช่ายย ตรงนี้เป็น common area ที่เราชอบมาซดโซจูกันก่อนนอนหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน มองออกไปเป็นวิวเมือง สวยไปอีกแบบ

สถานที่แรกที่เราเลือกไปกันคือ Chicago Skydeck
จุดไฮไลท์ของที่นี่คือกล่องกระจกใสที่ยื่นออกไปข้างนอก หรือที่เรียกว่า The Ledge พวกเราถ่ายรูปกันไม่หยุด เอาทุกมุมทุกวิวที่คิดว่าเจ๋ง โพสกันมันมากๆ พีคสุดคือกระโดดด้วยจ้า เพื่อนพม่าของเราแค่จะก้าวไปแต่ยังจะเป็นลม จุดชมวิวนี้อยู่ที่ขั้น 103 ของตัวตึก สูงประมาณ 1,353 feet

ต่อมาเป็น The Field Museum 
ด้วยความที่เพื่อนญี่ปุ่นของเรา เรียน Major Geoscience ทุกวันศุกร์นางจะไปขุด ฟอร์สซิล ในห้องแล็บที่ตึกวิทย์ฯ สมใจนางเลยจ้า
 เป็นคนความฝันของนางมากๆ ให้มาเรียนไกลถึงที่นี่

   

ต่อมาเรามานั่งเรือดูสถาปัตกรรมรูปร่างของตึกสองฝั่งแม่น้ำ นักสถาปัตยกรรมที่นี่เค้าเจ๋งจริงๆ รูปทรงตึกแต่ละตึกสวย น่าทึ่ง
   

ก่อนกลับโรงแรมแวะหาไรอุ่นกินสะหน่อย เราชอบHeater บนดาดฟ้าของ Starbuck แห่งนี้มาก อากาศเลขตัวเดียว นั่งอังความอุ่นจาก Heater บนดาดฟ้า บวกกาแฟใส่นมร้อนๆ ผ่อนคลายมากกกกกก
ข้างบนหัวเราไม่ใช่ไฟให้ความสว่างแต่เป็น Heater ให้ความอุ่นของทางร้านบนดาดฟ้า 

ต่อไปเราไปเที่ยว MCA - Museum of Contemporary Art Chicago หรือ MCA
MCA นี้ไม่มีอะไรมาก งานศิลป์ที่จัดโชว์จะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดินดูเพลินๆ ส่วนใหญ่งานที่เราไปเดินดูในวันนั้นจะแสดงมาในเรื่องของการต่อสู้สิทธิของผู้หญิง เช่น My body my choice, diversity ของความหลากหลายทางเพศ (LGTBQIA+)


มาให้ถึงชิคาโก้ ต้องมาตรงนี้ The bean~  อากาศหนาวจริงๆ บวกลมด้วยจาก เลขตัวเดียวบวกลม ความรู้สึกหนาวนี้คือติดลบเลยจ้า สมที่เป็น Windy City
 


ชื่อสินค้า:   เรียนต่อต่างประเทศ เรียนภาษา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่