สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เซ็นสัญญากู้ไปรึยังคะ? ถ้าแค่แบงค์แจ้งว่มกู้ป่านแล้วยังไม่เซ็นรับอะไรก็ยังไม่มีผลนะคะ หรือถ้าเพิ่งเซ็นสัญญาแล้วอยากยกเลิก ลองติดต่อธนาคารดูว่าต้องทำอย่างไรได้บ้าง
ถ้าฝืนรับภาระนี้ คุณและครอบครัวจะเครียดเรื่องการเงินมากค่ะ ค่าผ่อนบ้าน กับรายรับที่มี อย่าเรียกว่าตึงเลย เรียกว่าเกินตัวมากกว่า เดือนนึงแทบไม่เหลือเก็บ จ่ายค่าบ้านหมด แล้วที่จ่ายเดือนละ 14,000 บาท ส่วนมากคือจ่ายดอกเบี้ย เงินต้นหักไปนิดเดียว ถ้าอยากให้หนี้ลดเร็ว หักเงินต้นเยอะก็คือต้องโปะเงินให้เยอะกว่าค่าผ่อนรายเดือน
ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่บ้าน คนเราควรมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายอื่นๆหรือสำรองยามฉุกเฉิน มีเงินซื้อของ กินเที่ยวบ้างแบบไม่ต้องมารู้สึกว่า "ต้องประหยัดเพื่อผ่อนบ้าน" ถ้าการผ่อนบ้านทำให้ความสุข ความสบายอื่นๆของคนในครอบครัวหายไป แบบนั้นเรียกว่า "บ้านเป็นภาระ ไม่ใช่บ้านเป็นแหล่งพักผ่อนหรือความสุขแต่อย่างใด"
บางคนผ่อนบ้านจนไม่มีเงินเหลือพาลูกไปเที่ยว ไม่กล้ากินข้าวนอกบ้าน วันหยุดก็ต้องหารายได้เสริม ลูกก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงเพราะไม่มีเวลาเลี้ยง พ่อแม่มัวหาเงิน ใช้หนี้ผ่อนบ้าน บางคนพอมีลูกอยากได้บ้านใหญ่ๆให้ให้ลูก แต่พ่อแม่ยุ่งหาเงินผ่อนบ้าน เพราะรายได้เดิมไม่พอ ต้องฝากลูกให้คนอื่นเลี้ยงทั้งวัน สรุปบ้านที่ซื้อให้ลูก ให้คนในครอบครัวอยู่ กลับไม่ค่อยได้ใครได้อยู่ เพราะทุกคนยุ่งหาเงินผ่อนบ้านกันจนเหนื่อย
ก่อนซื้อบ้าน รู้ว่าต้องผ่อนเท่าไหร่แล้ว ลองจินตนาการภาพจริงที่จำนวนเงินนั้นออกจากบัญชีคุณทุกเดือนๆ แล้วจะเหลือแต่ละเดือนเท่าไหร่ จำนวนคงเหลือพอมั๊ยที่จะใช้ชีวิตได้เแบบสบายๆ หรือมันตึงจนต้องมานั่งประหยัด ลดโน่นนี่นั่น
ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนใช้ชีวิตเพื่อผ่อนบ้าน
คิดดีๆก่อนซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถ ถ้าไม่ซื้อสดก็คือคุณยืมเงินคนอื่น (ธนาคาร)มาซื้อ แล้วคุณก็ต้องนั่งทำงานใช้หนี้ให้เค้ากับภาระที่คุณเลือกให้ตัวเอง
บ้านยังมีขึ้นเรื่อยๆ อีก 5 ปี 10 ปี ก็ยังมีบ้านขายให้คุณ เงินพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยซื้อ ถ้ามันยังไม่ได้จำเป็นมาก แนะนำอย่าหาภาระทำให้ตัวเองเหนื่อยนักหนาเลย
กรณีคุณถ้ายังไม่ได้เซ็นสัญญา หรือเพิ่งเซ็นลองรีบติดต่อธนาคารดูถ้ารู้ว่าไม่ไหวแล้วอยากยกเลิกตอนนี้ แบบนี้ถือว่ายังดีที่รู้ตัวทัน ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
ถ้าฝืนรับภาระนี้ คุณและครอบครัวจะเครียดเรื่องการเงินมากค่ะ ค่าผ่อนบ้าน กับรายรับที่มี อย่าเรียกว่าตึงเลย เรียกว่าเกินตัวมากกว่า เดือนนึงแทบไม่เหลือเก็บ จ่ายค่าบ้านหมด แล้วที่จ่ายเดือนละ 14,000 บาท ส่วนมากคือจ่ายดอกเบี้ย เงินต้นหักไปนิดเดียว ถ้าอยากให้หนี้ลดเร็ว หักเงินต้นเยอะก็คือต้องโปะเงินให้เยอะกว่าค่าผ่อนรายเดือน
ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่บ้าน คนเราควรมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายอื่นๆหรือสำรองยามฉุกเฉิน มีเงินซื้อของ กินเที่ยวบ้างแบบไม่ต้องมารู้สึกว่า "ต้องประหยัดเพื่อผ่อนบ้าน" ถ้าการผ่อนบ้านทำให้ความสุข ความสบายอื่นๆของคนในครอบครัวหายไป แบบนั้นเรียกว่า "บ้านเป็นภาระ ไม่ใช่บ้านเป็นแหล่งพักผ่อนหรือความสุขแต่อย่างใด"
บางคนผ่อนบ้านจนไม่มีเงินเหลือพาลูกไปเที่ยว ไม่กล้ากินข้าวนอกบ้าน วันหยุดก็ต้องหารายได้เสริม ลูกก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงเพราะไม่มีเวลาเลี้ยง พ่อแม่มัวหาเงิน ใช้หนี้ผ่อนบ้าน บางคนพอมีลูกอยากได้บ้านใหญ่ๆให้ให้ลูก แต่พ่อแม่ยุ่งหาเงินผ่อนบ้าน เพราะรายได้เดิมไม่พอ ต้องฝากลูกให้คนอื่นเลี้ยงทั้งวัน สรุปบ้านที่ซื้อให้ลูก ให้คนในครอบครัวอยู่ กลับไม่ค่อยได้ใครได้อยู่ เพราะทุกคนยุ่งหาเงินผ่อนบ้านกันจนเหนื่อย
ก่อนซื้อบ้าน รู้ว่าต้องผ่อนเท่าไหร่แล้ว ลองจินตนาการภาพจริงที่จำนวนเงินนั้นออกจากบัญชีคุณทุกเดือนๆ แล้วจะเหลือแต่ละเดือนเท่าไหร่ จำนวนคงเหลือพอมั๊ยที่จะใช้ชีวิตได้เแบบสบายๆ หรือมันตึงจนต้องมานั่งประหยัด ลดโน่นนี่นั่น
ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนใช้ชีวิตเพื่อผ่อนบ้าน
คิดดีๆก่อนซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถ ถ้าไม่ซื้อสดก็คือคุณยืมเงินคนอื่น (ธนาคาร)มาซื้อ แล้วคุณก็ต้องนั่งทำงานใช้หนี้ให้เค้ากับภาระที่คุณเลือกให้ตัวเอง
บ้านยังมีขึ้นเรื่อยๆ อีก 5 ปี 10 ปี ก็ยังมีบ้านขายให้คุณ เงินพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยซื้อ ถ้ามันยังไม่ได้จำเป็นมาก แนะนำอย่าหาภาระทำให้ตัวเองเหนื่อยนักหนาเลย
กรณีคุณถ้ายังไม่ได้เซ็นสัญญา หรือเพิ่งเซ็นลองรีบติดต่อธนาคารดูถ้ารู้ว่าไม่ไหวแล้วอยากยกเลิกตอนนี้ แบบนี้ถือว่ายังดีที่รู้ตัวทัน ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
กู้บ้านผ่านแล้ว เริ่มกังวลว่าจะไหวไหม
- เรากับสามีเงินเดือนรวมกัน 34,000 บาท เราอายุ 27 ปี สามี 33 ปี มีบัตรเครดิตประมาณ สามหมื่นค่ะ มีลูกสาว 1 คน อายุ 3 ขวบ (อยู่กับแม่เรา) บ้านราคาที่กู้ได้ 2.6 ล้านค่ะ ผ่อน 30 ปี ผ่อนประมาณ 14,000 ต่อเดือน
- ตอนแรกเราอยากได้บ้านเพราะคิดว่าอยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว แล้วอยากสร้างความมั่นคง ช่วงที่กู้ได้ เอาเงินไปโปะรถหมด กับหนี้บางส่วนค่ะ เนื่องจากปกติเงินออกมา เราต้องจ่ายประมาณ 23,000 เราเลยว่าเอาเงินไปลงบ้านแล้วเป็นหนี้ทางเดียวดีกว่า ได้ทรัพย์สินด้วย
- กลายเป็นตอนนี้นอกจากค่าบ้านแล้ว ยังมีค่ายิบๆย่อยๆ เงินเดือนเราออกมาเท่ากับเราต้องจ่ายค่าบ้านหมด ไม่รวมยิบย่อยๆน้ำไฟอีก ทำให้ตอนนี้กังวลมากค่ะ ว่าจะไปไหวไหม รู้สึกคิดผิดที่กู้บ้านมาก เพราะตอนกู้เราไม่ได้มีเงินสำรองเลยค่ะ
- แล้วเดี๋ยวลูกก็จะเข้าเรียน ตอนนี้เรากลายเป็นเงินเก็บไม่มี ไม่สามารถเอาลูกเรียนเอกชนดีๆได้ค่ะ เพราะไม่ไหวค่าเทอม ถ้าใครคนนึงตกงานก็เท่ากับจบเลยค่ะ แล้วอีก 30 ปี ตอนนี้รู้สึกคิดผิดมากๆเลยค่ะ อยากได้เพราะเห็นคนอื่นมีก็อยากสร้างบ้าง กลายเป็นตอนนี้กังวลมากค่ะ
- ปกติกู้บ้านราคานี้เราต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่คะถึงจะพอใช้ แล้วมันจะมีอะไรยิบย่อยๆที่ต้องจ่ายอีกไหมคะ