กู้บ้านผ่านแล้ว เริ่มกังวลว่าจะไหวไหม

สวัสดีค่ะ พอดีเราพึ่งทำการกู้บ้านไปช่วงต้นปี ตอนนี้ส่งไปได้สองงวดแล้วเริ่มกังวลค่ะ

- เรากับสามีเงินเดือนรวมกัน 34,000 บาท เราอายุ 27 ปี สามี 33 ปี มีบัตรเครดิตประมาณ สามหมื่นค่ะ  มีลูกสาว 1 คน  อายุ 3 ขวบ (อยู่กับแม่เรา) บ้านราคาที่กู้ได้ 2.6 ล้านค่ะ ผ่อน 30 ปี ผ่อนประมาณ 14,000 ต่อเดือน

- ตอนแรกเราอยากได้บ้านเพราะคิดว่าอยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว แล้วอยากสร้างความมั่นคง ช่วงที่กู้ได้ เอาเงินไปโปะรถหมด กับหนี้บางส่วนค่ะ เนื่องจากปกติเงินออกมา เราต้องจ่ายประมาณ 23,000 เราเลยว่าเอาเงินไปลงบ้านแล้วเป็นหนี้ทางเดียวดีกว่า ได้ทรัพย์สินด้วย

- กลายเป็นตอนนี้นอกจากค่าบ้านแล้ว ยังมีค่ายิบๆย่อยๆ เงินเดือนเราออกมาเท่ากับเราต้องจ่ายค่าบ้านหมด ไม่รวมยิบย่อยๆน้ำไฟอีก ทำให้ตอนนี้กังวลมากค่ะ ว่าจะไปไหวไหม รู้สึกคิดผิดที่กู้บ้านมาก เพราะตอนกู้เราไม่ได้มีเงินสำรองเลยค่ะ

- แล้วเดี๋ยวลูกก็จะเข้าเรียน ตอนนี้เรากลายเป็นเงินเก็บไม่มี ไม่สามารถเอาลูกเรียนเอกชนดีๆได้ค่ะ เพราะไม่ไหวค่าเทอม ถ้าใครคนนึงตกงานก็เท่ากับจบเลยค่ะ แล้วอีก 30 ปี ตอนนี้รู้สึกคิดผิดมากๆเลยค่ะ อยากได้เพราะเห็นคนอื่นมีก็อยากสร้างบ้าง กลายเป็นตอนนี้กังวลมากค่ะ

- ปกติกู้บ้านราคานี้เราต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่คะถึงจะพอใช้ แล้วมันจะมีอะไรยิบย่อยๆที่ต้องจ่ายอีกไหมคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เซ็นสัญญากู้ไปรึยังคะ? ถ้าแค่แบงค์แจ้งว่มกู้ป่านแล้วยังไม่เซ็นรับอะไรก็ยังไม่มีผลนะคะ  หรือถ้าเพิ่งเซ็นสัญญาแล้วอยากยกเลิก ลองติดต่อธนาคารดูว่าต้องทำอย่างไรได้บ้าง

ถ้าฝืนรับภาระนี้ คุณและครอบครัวจะเครียดเรื่องการเงินมากค่ะ ค่าผ่อนบ้าน กับรายรับที่มี อย่าเรียกว่าตึงเลย เรียกว่าเกินตัวมากกว่า  เดือนนึงแทบไม่เหลือเก็บ จ่ายค่าบ้านหมด แล้วที่จ่ายเดือนละ 14,000 บาท ส่วนมากคือจ่ายดอกเบี้ย เงินต้นหักไปนิดเดียว ถ้าอยากให้หนี้ลดเร็ว หักเงินต้นเยอะก็คือต้องโปะเงินให้เยอะกว่าค่าผ่อนรายเดือน

ชีวิตคนเราไม่ได้มีแค่บ้าน  คนเราควรมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายอื่นๆหรือสำรองยามฉุกเฉิน มีเงินซื้อของ กินเที่ยวบ้างแบบไม่ต้องมารู้สึกว่า "ต้องประหยัดเพื่อผ่อนบ้าน" ถ้าการผ่อนบ้านทำให้ความสุข ความสบายอื่นๆของคนในครอบครัวหายไป แบบนั้นเรียกว่า "บ้านเป็นภาระ ไม่ใช่บ้านเป็นแหล่งพักผ่อนหรือความสุขแต่อย่างใด"
บางคนผ่อนบ้านจนไม่มีเงินเหลือพาลูกไปเที่ยว  ไม่กล้ากินข้าวนอกบ้าน  วันหยุดก็ต้องหารายได้เสริม ลูกก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงเพราะไม่มีเวลาเลี้ยง พ่อแม่มัวหาเงิน ใช้หนี้ผ่อนบ้าน  บางคนพอมีลูกอยากได้บ้านใหญ่ๆให้ให้ลูก แต่พ่อแม่ยุ่งหาเงินผ่อนบ้าน เพราะรายได้เดิมไม่พอ ต้องฝากลูกให้คนอื่นเลี้ยงทั้งวัน  สรุปบ้านที่ซื้อให้ลูก ให้คนในครอบครัวอยู่ กลับไม่ค่อยได้ใครได้อยู่ เพราะทุกคนยุ่งหาเงินผ่อนบ้านกันจนเหนื่อย

ก่อนซื้อบ้าน รู้ว่าต้องผ่อนเท่าไหร่แล้ว ลองจินตนาการภาพจริงที่จำนวนเงินนั้นออกจากบัญชีคุณทุกเดือนๆ  แล้วจะเหลือแต่ละเดือนเท่าไหร่  จำนวนคงเหลือพอมั๊ยที่จะใช้ชีวิตได้เแบบสบายๆ หรือมันตึงจนต้องมานั่งประหยัด ลดโน่นนี่นั่น
ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนใช้ชีวิตเพื่อผ่อนบ้าน  

คิดดีๆก่อนซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถ ถ้าไม่ซื้อสดก็คือคุณยืมเงินคนอื่น (ธนาคาร)มาซื้อ แล้วคุณก็ต้องนั่งทำงานใช้หนี้ให้เค้ากับภาระที่คุณเลือกให้ตัวเอง  

บ้านยังมีขึ้นเรื่อยๆ  อีก 5 ปี 10 ปี ก็ยังมีบ้านขายให้คุณ เงินพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยซื้อ ถ้ามันยังไม่ได้จำเป็นมาก แนะนำอย่าหาภาระทำให้ตัวเองเหนื่อยนักหนาเลย

กรณีคุณถ้ายังไม่ได้เซ็นสัญญา หรือเพิ่งเซ็นลองรีบติดต่อธนาคารดูถ้ารู้ว่าไม่ไหวแล้วอยากยกเลิกตอนนี้  แบบนี้ถือว่ายังดีที่รู้ตัวทัน  ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่