หวยแพงไม่ต้องดูไกล! 'นอท กองสลากพลัส' พาพิสูจน์ ห่างกองสลากแค่ 200 เมตร
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7034783
 
 
หวยแพงไม่ต้องดูไกล! ‘นอท กองสลากพลัส’ พาพิสูจน์ ห่างกองสลากแค่ 200 เมตร ขายใบละ 93 บาท ลั่นแก้ยังไงยิ่งแก้ยิ่งแพง

หลังจากก่อนหน้านี้กองสลากพลัสออกมาประกาศจำเป็นต้องขายสลากงวดวันที่ 2 พ.ค.2565 ในราคาใบละ 95 บาท เนื่องจากราคาที่มีการนำเสนอมาเกิน 80 บาท จนนำมาสู่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและเปรียบเทียบปรับ ฐานจำหน่ายลอตเตอรี่เกิน 80 บาทที่กฎหมายกำหนด ตามมาด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พร้อมจี้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแก้ปัญหาที่ต้นทาง ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้า นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เจ้าของแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่ออนไลน์ ‘กองสลากพลัส’ อัดคลิปลงติ๊กต็อก เป็นการลงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับสํานักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.นนทบุรี ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี (สนามบินน้ำ)
 
โดยระบุว่าจะพาไปศูนย์การค้าสลากไทย ที่มีการจำหน่ายหวยเกินราคา ตั้งอยู่ห่างจากสำนักงานสลากฯ เพียงแค่ 200 เมตร หรือเดินไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้น เมื่อไปถึงได้พบกับผู้คนที่กำลังรับซื้อขายลอตเตอรี่กันอยู่ โดยมีการติดป้ายประกาศในราคาส่งที่ 93 บาท
 
นอท พันธ์ธวัช กล่าวช่วงท้ายคลิปว่า “สลากเกินราคาไม่ต้องไปเอกมัยหรอกครับ เดินไปตรงนี้ 200 เมตร ไปดูด้วยนะ แก้ยังไงยิ่งแก้ยิ่งแพง”

(คลิปอยู่ในข่าวครับ)

---

สองแถวสารคาม หยุดวิ่งไม่มีกำหนด จาก 60 คัน เหลือแค่ 2 คัน ชี้ ไม่เคยเจอวิกฤตขนาดนี้
https://www.matichon.co.th/region/news_3328286

น้ำมันแพงสองแถวกระทบหนักจาก 60 คัน เหลือวิ่งแค่ 2 คัน
 
วันนี้ (6 พฤษภาคม 65) จากกรณีที่รัฐบาลยกเลิกการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 30 บาท ตั้งแต่วันที่ 1พ.ค.2565 ทำให้ราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นแบบขั้นบันได เพดานสูงสุดอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท โดยล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลขายปลีก ที่จังหวัดมหาสารคาม อยู่ที่ลิตรละ 32.44 บาท ส่งผลกระทบหนักต่อผู้ประกอบการรถสองแถวที่วิ่งระหว่าง บขส.-ม.ใหม่ ต้องหยุดวิ่งรถอย่างไม่มีกำหนด และไปประกอบอาชีพอื่น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 จากที่เคยมีรถวิ่ง 60 คัน ตอนนี้เหลือเพียง 2 คันเท่านั้น
 
นายสมพงษ์ คลังแสง อายุ 55 ปี ผู้ประกอบการรถสองแถวสาย บขส.-ม.ใหม่ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นชาวบ้านบ้านดินดำ ต.เกิ้ง อำเภอเมือง ยึดอาชีพขับรถสองแถวมา 11 ปี ไม่เคยเจอวิกฤตขนาดนี้ ตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา ก็เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะมหาวิทยาลัยปิด นักเรียน นักศึกษาเรียนออนไลน์ ก็กัดฟันวิ่งรถต่อเนื่อง พอมาเจอตอนนี้ราคาน้ำมันขึ้นทีเดียวลิตรละ 2 บาท และขึ้นทีละ 60 สตางค์ 80 สตางค์ ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นไปอีก จากเมื่อก่อนเคยวิ่งรถวันละ 6-8 เที่ยว ตอนนี้เหลือวันละ 2 เที่ยวเท่านั้น พอได้เวลาออกรถมีลูกค้า แค่ 2-3 คน ก็ต้องออกรถ จากเดิมค่าโดยสารทุกระยะราคา 8 บาทได้ปรับขึ้นเป็น 10 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน แต่ตอนนี้ยังไงก็ไม่คุ้ม แต่ผู้โดยสารบางคนก็เข้าใจ บางคนก็ให้ 20-30 บาท ก็มี
  
โดยก่อนหน้านี้รถสองแถวสาย บขส.-ม.ใหม่ มีผู้ประกอบการวิ่งรถถึง 60 คัน แต่ตอนนี้เหลือรถวิ่งแค่ 2 คันเท่านั้น คนขับส่วนใหญ่หันไปประกอบอาชีพอื่น ที่มีรายได้มากกว่านี้ ซึ่งหากราคาน้ำมันยังสูงขึ้นไปอีกคงต้องเลิกขับรถ และเปลี่ยนอาชีพไปเก็บของเก่าขาย
 

---

ชาวสวนโคราชโอด พริกสดหน้าสวนขึ้นอีกกิโลกรัมละ 10 บาท อั้นต้นทุนไม่ไหว
https://ch3plus.com/news/economy/morning/289902
  
ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสินค้าชนิดต่างๆ ก็ได้มีการปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลทำให้เกษตรกรผู้ปลูกพริกหลายรายในพื้นที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการปรับราคาขายพริกหน้าสวนขึ้นอีกกิโลกรัมละ 10 บาท
  
โดยปัจจุบัน พริกแดงสดขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท จากเดิมราคากิโลกรัมละ 40 บาท พริกสีเขียว ขายในราคากิโลกรัมละ 22 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 12 บาท
  
นางละม่อม หินดำ อายุ 55 ปี เกษตรกรผู้ปลูกพริกรายหนึ่งในตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย กล่าวว่า ตนเองได้ลงทุนปลูกพริกจำนวน 2 ไร่ โดยในช่วงนี้ต้นทุนในการปลูกพริกเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาปุ๋ยมีการปรับตัวสูงขึ้นเกือบเท่าตัว ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนในการปลูกพริกสูง อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
 
เกษตรกรจำเป็นต้องปรับราคาขายพริกหน้าสวนสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องซื้อพริกไปบริโภค เพราะพ่อค้าแม่ค้าคนกลางก็จะต้องมีการปรับราคาขายพริกเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นนอน
  

---

  
ราคาสินค้าตลาดสดยังแพงตามต้นทุน
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_334404/
 
ตลาดสดราคาสินค้ายังแพงตามต้นทุน เนื้อหมู กก.ละ 200 บาท ผักชี กก.ละ 100 บาท ไข่ขึ้นราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ เปิดเทอมไม่มีผลลูกค้าน้อยตลาดเงียบเหงา
  
จากการสำรวจการจำหน่ายสินค้าภายในตลาดสดโชคชัย 4 ย่านลาดพร้าววันนี้พบว่า เนื้อหมู กิโลกรัมละ 200 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 220 บาท โดยแม่ค้าบอกว่า ราคาเนื้อหมูต้นทางปรับสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคาปลายทางยังสูง แต่ราคาดังกล่าวผู้ค้าได้กำไรไม่มากเพียง กิโลกรัมละ 5-10 บาท
  
ซึ่งปริมาณการขายลดลงจากช่วงปกติมาก เพราะลูกค้ากำลังซื้อน้อย ในขณะที่ต้นทุนของแม่ค้านั้นสูงขึ้นหลายรายการไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ค่าน้ำ ค่าไฟซึ่งจ่ายเดือนละประมาณ 6,000 บาทเนื่องจากต้องมีตู้แช่เนื้อหมู รวมถึงการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกับภาครัฐทำให้ต้องจ่ายภาษีไปเกือบ 80,000 บาท
  
ในขณะที่แม่ค้าขายไข่ไก่ บอกว่า ราคาไข่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้ทำให้เวลานี้ราคาค่อนข้างทรงตัว โดยไข่ไก่เบอร์ 0 ราคาฟองละ 4.40 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 4.20 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 4.10 บาท และเบอร์ 3 ฟองละ 4.00 บาท และเมื่อสอบถามไปถึงการจำหน่ายในช่วงใกล้เปิดเทอมแม่ค้า
  
ระบุว่า ไม่ได้มีผลกับปริมาณการขายมากนัก เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีการเรียน on site หรือไม่ เพราะหากนักเรียนไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนก็จะไม่มีผลทำให้ปริมาณการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น โดยราคาไข่ไก่ที่ปรับสูงขึ้นก่อนหน้านี้ทางฟาร์มแจ้งว่า ต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นจากอาหารสัตว์จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายส่งมายังปลายทาง
  
และสำหรับสถานการณ์การจำหน่ายผักสดช่วงนี้ราคาค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากมีปริมาณสินค้าเข้าตลาดอยู่ในระดับปกติไม่ได้ลดลง แต่ลูกค้าก็ยังคงมีน้อยเพราะส่วนหนึ่งอาจต้องเริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะใกล้เข้าสู่ช่วงเปิดเทอม ทำให้การจับจ่ายซื้อสินค้าน้อยลง โดยราคาผักชี อยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ต้นหอม กิโลกรัมละ 50 บาท ผักบุ้งจีน กิโลกรัมละ 25-30 บาท