สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าถึงขนาดต้องสอบเข้าคงไม่เรียกว่า "ทหารเกณฑ์" แล้วล่ะครับ
ปัจจุบันกองทัพพยายามปรับปรุงกระบวนการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการ
เช่น มีการรับสมัครออนไลน์ มีการเพิ่มโควต้าการเข้าเป็นนักเรียนนายสิบจากทหารกองประจำการในสัดส่วนที่มากขึ้น
เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ
แต่ ก็ยังใช้การ "บังคับ" เกณฑ์เป็นหลักอยู่
การรับสมัครนั้นมีโควต้าของแต่ละพื้นที่อยู่ว่ามีอัตราที่สมัครได้เท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าต้องการพลทหาร 100 อัตรา แล้วสมัครได้ 100 อัตราซะเมื่อไหร่
เนื่องจากว่า คนที่สมัคร (ร้องขอ) ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนที่มีคุณวุฒิที่สามารถลดเวลาประจำการได้
หากให้สมัครได้เต็มอัตรา มันจะมีช่วงขาดกำลังพลจำนวนมาก เพราะคนที่สมัครส่วนใหญ่จะปลดก่อน 2 ปี
ส่วนการให้โควต้าพลทหารสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบก็ยังไม่ได้จูงใจคนส่วนใหญ่นัก
โดยเฉพาะคนที่มีการศึกษาดี มีอนาคตหน้าที่การงานที่ดีกว่ารออยู่ หรือคนที่ไม่ชอบใช้ชีวิตสไตล์ทหาร
เขาไม่ได้อยากเป็นข้าราชการทหารชั้นประทวน เงินเดือนเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น บวกค่าครองชีพชั่วคราวก็แค่หมื่นกว่านิด ๆ
เห็นด้วยที่ว่าคนที่มาเป็นพลทหารคือผู้ที่เสียสละ
คิดว่าน่าจะเสียสละมากกว่าคนที่เป็นข้าราชการทหารด้วยซ้ำ
เพราะพลทหารถูกบังคับมาและไม่สามารถลาออกได้ แต่ข้าราชการลาออกได้
กระผมเองในอดีตเคยเป็นทหารกองประจำการ (พลทหาร) เช่นกัน
โดยร้องขอ (สมัคร) และยื่นคุณวุฒิ ปวส. ทำให้ได้เข้าประจำการเป็นระยะเวลา 6 เดือน
คำถามของเจ้าของกระทู้คือ "เชื่อไหมว่าต่อไปจะมีการสอบแข่งขันเข้าเป็นทหารเกณฑ์??"
กระผมขอตอบว่า "ไม่เชื่อ" ครับ หากระบบการคัดเลือกยังเป็นเช่นปัจจุบัน
หากจะทำได้จริงต้อง "เพิ่มสวัสดิการและสิทธิประโยชน์" ให้มากกว่านี้
และควรกำหนดแนวทางรับราชการในกองทัพว่าทุกตำแหน่งจะเติบโตได้
ต้องเริ่มต้นจากระดับต่ำสุดคือ "พลทหาร" เท่ากันทุกคน
ถ้าเป็นแบบนี้เชื่อแน่นอนว่าคนจะแย่งกันสมัครจนต้องสอบและคัดคนออก
ฝากไว้ให้คิด "ไม่มีใครด้อยค่าทหารเกณฑ์นอกจากตัวกองทัพเองนั่นแหละครับ"
ปัจจุบันกองทัพพยายามปรับปรุงกระบวนการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการ
เช่น มีการรับสมัครออนไลน์ มีการเพิ่มโควต้าการเข้าเป็นนักเรียนนายสิบจากทหารกองประจำการในสัดส่วนที่มากขึ้น
เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ
แต่ ก็ยังใช้การ "บังคับ" เกณฑ์เป็นหลักอยู่
การรับสมัครนั้นมีโควต้าของแต่ละพื้นที่อยู่ว่ามีอัตราที่สมัครได้เท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าต้องการพลทหาร 100 อัตรา แล้วสมัครได้ 100 อัตราซะเมื่อไหร่
เนื่องจากว่า คนที่สมัคร (ร้องขอ) ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนที่มีคุณวุฒิที่สามารถลดเวลาประจำการได้
หากให้สมัครได้เต็มอัตรา มันจะมีช่วงขาดกำลังพลจำนวนมาก เพราะคนที่สมัครส่วนใหญ่จะปลดก่อน 2 ปี
ส่วนการให้โควต้าพลทหารสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบก็ยังไม่ได้จูงใจคนส่วนใหญ่นัก
โดยเฉพาะคนที่มีการศึกษาดี มีอนาคตหน้าที่การงานที่ดีกว่ารออยู่ หรือคนที่ไม่ชอบใช้ชีวิตสไตล์ทหาร
เขาไม่ได้อยากเป็นข้าราชการทหารชั้นประทวน เงินเดือนเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น บวกค่าครองชีพชั่วคราวก็แค่หมื่นกว่านิด ๆ
เห็นด้วยที่ว่าคนที่มาเป็นพลทหารคือผู้ที่เสียสละ
คิดว่าน่าจะเสียสละมากกว่าคนที่เป็นข้าราชการทหารด้วยซ้ำ
เพราะพลทหารถูกบังคับมาและไม่สามารถลาออกได้ แต่ข้าราชการลาออกได้
กระผมเองในอดีตเคยเป็นทหารกองประจำการ (พลทหาร) เช่นกัน
โดยร้องขอ (สมัคร) และยื่นคุณวุฒิ ปวส. ทำให้ได้เข้าประจำการเป็นระยะเวลา 6 เดือน
คำถามของเจ้าของกระทู้คือ "เชื่อไหมว่าต่อไปจะมีการสอบแข่งขันเข้าเป็นทหารเกณฑ์??"
กระผมขอตอบว่า "ไม่เชื่อ" ครับ หากระบบการคัดเลือกยังเป็นเช่นปัจจุบัน
หากจะทำได้จริงต้อง "เพิ่มสวัสดิการและสิทธิประโยชน์" ให้มากกว่านี้
และควรกำหนดแนวทางรับราชการในกองทัพว่าทุกตำแหน่งจะเติบโตได้
ต้องเริ่มต้นจากระดับต่ำสุดคือ "พลทหาร" เท่ากันทุกคน
ถ้าเป็นแบบนี้เชื่อแน่นอนว่าคนจะแย่งกันสมัครจนต้องสอบและคัดคนออก
ฝากไว้ให้คิด "ไม่มีใครด้อยค่าทหารเกณฑ์นอกจากตัวกองทัพเองนั่นแหละครับ"
แสดงความคิดเห็น
เชื่อไหมว่าต่อไปจะมีการสอบแข่งขันเข้าเป็นทหารเกณฑ์??
ชีวิตของทหารเกณฑ์ในค่ายก็ดูดีนะ มีสนับสนุนการศึกษา สนับสนุนการสอบรับราชการทหารต่อ
ใครมาบอกว่าทหารเชิญชวนมาสมัครทหารเกณฑ์เหมือนมาขายฝันได้ต่อนายสิบ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นฝันที่ราคาถูก คุ้มมากๆ
ตอนนี้ลูกชายก็ได้เป็นนักเรียนนายสิบแล้ว แม่ก็สบายแล้ว
จะตำหนิหน่อยก็เรื่องการประชาสัมพันธ์ของกองทัพที่ยังน้อยอยู่ สังเกตได้จากกระทู้ด้อยค่าทหารเกณฑ์ยังมีให้เห็น ทั้งที่รัฐก็ได้สร้างพื้นที่ สร้างโอกาสให้ได้มีงานที่มั่นคงและมีเกียรติ เพราะอาชีพนี้ต้องเสียสละมากจริงๆ
มีคนถามเราว่าไปเอาวิธีเป็นนักเรียนนายสิบจากการพลทหารนี้มาจากไหน หาได้ยังไง เราก็บอกไปว่า ก็แค่ศึกษาในรายละเอียดและแนวทางการเติบโตในสายอาชีพนี้
การรับราชการทหารในส่วนกำลังรบโดยเริ่มจากการเป็นพลทหารมาก่อน มีข้อดีคือทำให้เรารู้ว่าแท้จริงเราอยากเป็นทหารหรือเหมาะสมที่จะเป็นทหารไหม เพราะในศึกสงครามจริงมันโหดร้ายกว่าการฝึกหลายเท่านัก แต่ถ้ารู้ว่าไม่ใช่แนว จบจากการเกณฑ์ออกมายังได้ใช้วิชาที่ติดตัวมาเอาชีวิตรอดและปกป้องครอบครัวได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และยิ่งถ้าฝึกตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาก็จะแกร่งในการใช้ชีวิตที่ต้องห่างครอบครัวมากขึ้น
ที่ว่าทำไมเราถึงเชื่อว่าจะมีการแข่งขันสมัครทหารเกณฑ์สูง เพราะจากการฝึกทหารเกณฑ์ในค่ายเองก็เริ่มเป็นรูปแบบมากขึ้น มีการคัดการฝึกครูฝึก สิทธิประโยชน์ในการรับราชการต่อก็ชัดเจนขึ้น พลเรือนสอบนายสิบต้องเสียเงินติว ทหารเกณฑ์สอบนายสิบมีครูฝึกติวให้ฟรีแถมมีเงินกลับบ้าน ถึงสอบไม่ได้นายสิบก็มีเส้นทางอีกหลายทางในการประกอบอาชีพทางทหาร
จึงอยากจะฝากบอกพวกด้อยค่าทหารเกณฑ์ทั้งหลาย หรือพวกกลัวไม่อยากเป็น ไม่อยากเสียโอกาสอะไรก็แล้วแต่ตามวาทกรรม หันมาให้เกียรติทหารเกณฑ์มากขึ้น เพราะอย่างน้อยพวกเขาและครอบครัวก็ได้ขึ้นชื่อว่าเสียสละ
เมื่อเห็นคุณค่ามากขึ้นมีการเข้าสมัครมากขึ้น การเกณฑ์แบบจับใบก็จะหายไปเอง จริงมะ??
ออ เราเป็นผู้ปกครองของนนส.ที่มาจากพลทหารตัวจริงที่ไม่ใช่พวกชอบมโนเอาเรื่องเล่าเดิมๆ มานั่งเทียนคิดเอาเองว่าทหารเกณฑ์ต้องโดนอย่างโน้นอย่างนี้นะจ๊ะ
ไว้เลือกเหล่าแล้วจะมาเล่าต่ออีกที
เป็นกำลังใจให้นักเรียนนายสิบที่มาจากพลทหารทุกท่านนะคะ