[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยาวหน่อยนะครับ เพราะสงสัยมานาน
.
.
คือในความเข้าใจของผม ขรก.ระดับสูงที่มีอำนาจเซ็นอนุมัติทั้ง 2 ตำแหน่งนี้
มีหน้าที่ส่วนหนึ่ง คือ ต่อรองราคาสินค้ากับเอกชน แทนประชาชน ไม่ใช่หรือครับ ?
(เพราะมีอำนาจโดยชอบธรรมตามกฎหมายโดยตรง)

แต่ที่ผ่านมา ล่าสุดก็เรื่องดีเซลขึ้นพรวดเดียว 2 บาท ทำให้เกินลิตรละ 30.-
หรือก่อนหน้านั้นที่ขึ้นราคาหมู, ไก่, ไข่
และก่อนหน้านั้นไปอีกก็ราคาน้ำมันพืช ที่ขึ้นที่เดียวขวดละ 10 บาท

ล้วนราวกับว่า ท่านเหล่านี้ที่อยู่กระจายกันไปตามกรมและกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เซ็นอนุมัติโดยไม่มีการยับยั้งเลย ก่อให้เกิดค่าครองชีพถูกดันขึ้นไปเรื่อยๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จนอดคิดไม่ได้ว่า หรือพวกเขาที่มีเงินเดือน, เงินตำแหน่ง, เงิน ฯลฯ ในระดับสูง ทำให้ไม่กระทบการใช้ชีวิต จึงไม่อยากเป็นศัตรูกับเอกชนทุดภาคส่วน ... รึเปล่า (แบบสู้เป็นมิตรกันดีกว่า)

ถ้าใช่ ผมจึงมีข้อสงสัยว่า

แบบนี้ถูกต้องแล้วหรือ ?

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะเงินเดือน ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดของราชการ
(ทั้ง ขรก.ประจำที่อยู่ได้ยันเกษียณ และ ขรก.การเมือง 4 ปีตั้งใหม่)
ล้วนมาจากเงินภาษีที่เก็บไปจากประชาชนทั้งสิ้น มิใช่หรือครับ พวกท่านต้องเห็นแก่แหล่งต้นสาย ของเส้นทางการเงินสิ ?

แล้วที่น่าแปลกใจคือ ทำไมคนส่วนใหญ่จึงมองข้ามบุคคล 2 ตำแหน่งเหล่านี้ ไปหานายกเลย

สรุปคือสิ่งที่มันเกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะ
1. ประชาชน ไม่รู้ลำดับของระบบข้าราชการเอง ทำให้ไล่ต้นตอของปัญหาไม่ถูก
2. หรือผมเข้าใจผิด

รบกวนท่านผู้มีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์และการเมือง/การปกครอง ช่วยแนะนำทีครับ

หากเข้าใจผิด ผมจะได้เข้าใจให้ถูก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะทุกวันนี้ได้แต่ งง ว่าก่อนที่จะเล็งไปถึงตัวใหญ่แบบนายก
ทำไมถึงไม่เคยเห็นใครเพ่งเล็งไปที่อธิบดีฯ และ รมต.ในด้านที่เกี่ยวข้องเลย
สรุปแล้วทั้งสองตำแหน่งที่อยู่ในกรมและหัวกระทรวงต่างๆ นี้ ... มีไว้ทำไม ?

ว่าแต่เรื่องอหิวาห์หมูตอนนี้ เป็นยังไงบ้างครับ
ไป Makro ล่าสุดยังเห็นราคาไม่แผ่ว

อกไก่แห้งๆ ไม่ฉ่ำ กินเพิ่อสุขภาพ ... ที่ก่อนหน้านี้ไม่เกิน 4x.- แล้วโดนดีดเป็น 8x.- เพราะให้เหตุผลว่า ตลาดมีความต้องการแทนเนื้อหมู ก็ยังแพงเท่าเดิม

เลยสงสัยว่าปัญหาโรคติดต่อในหมูขณะนี้ กลับมาสู่สถานการณ์เดิมรึยังครับ

จะได้รู้ว่าผู้ผลิตใช้เป็นข้ออ้างในการขึ้นราคา New High ถาวรหรือไม่