อาทิตย์ที่ผ่านมีก็เริ่มมีข่าวจะลดการอุดหนุนดีเซลกันจากรัฐ จากการที่ตลาดน้ำมันดิบขึ้นสูงจัด จนมีการใช้ทั้งกองทุนน้ำมันอุดหนุนราคาดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท โดยมีใช้เงินอุดหนุนเยอะสุดถึง 11 บาท ต่อลิตร มีการลดชนิดน้ำมันดีเซลแล้ว เพื่อลดการผสมลง จากก่อนหน้านี้ที่มีเรื่องน้ำมันปาล์มแพงแล้วมาผสมน้ำมันก็ยิ่งแพง รัฐก็มีการลดสัดส่วนลงไปแล้วทำให้หน้าปั๊มตอนนี้ดีเซลที่ขายอยู่ตามปั๊มจะมีแค่ตัว B7 เท่านั้น และล่าสุดส่วน ช่วงวันที่ 20 เมษายน รัฐได้มีการลดตัวภาษีน้ำมันตัวดีเซลลงแล้ว จากที่ไม่ได้ปรับเลยนานมาก จาก 5.99 บาท ลดเหลือ 3.20 บาท จริง ๆ จะว่าภาษีมันก็ยังเก็บเยอะไปอยู่ดี ถ้าเทียบกับรัฐบาลชุดอื่น ๆ ที่ในช่วงน้ำมันแพง ๆ บางยุคมีลดภาษีดีเซลเหลือแค่ 0.01 ก็มี เพราะราคาในตลาดที่แพงจัด (ความจริงช่วงนี้ก็ถือว่าแพงอยู่นะถึงจะไม่จัด ๆ ขนาดยุคก่อน ๆ )

โดยเรื่องการลดการอุดหนุนราคาดีเซลในรอบนี้รัฐบอกจะเริ่มปรับราคาเป็นขั้นบันได้ โดยจะเริ่มกันในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 นี้ และรัฐมีแนวทางการจัดการประมาณนี้

1 ทยอยปรับขึ้นราคา และช่วยอุดหนุนราคาครึ่งนึง ในส่วนที่เกินจาก 30 อย่างเช่น ถ้าราคาหลังโรงกลั่นแล้วบวกภาษีแล้ว อยู่ที่ 34 บาท รัฐจะช่วยอุดหนุนให้เหลือ 32 บาท เพราะในปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีสถาณะติดลบแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท ทำให้รัฐจะเริ่มลดการใช้เงินกองทุนลงเป็นขั้น ๆ 

2. กระทรงพลังงานจะมีการหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อขอให้ลดภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซลลง เพราะอย่างที่ว่าก่อนหน้านี้ ภาษีในน้ำมันดีเซลนั้นมีการลดลงมาแล้ว จาก 5.99 บาท ลงมาที่ 3.20 บาท แต่ในรัฐยุคอื่น ๆ เคยลดได้เหลือแค่ 0.01 บาท

ซึ่งอาจจะสามารถขอให้ลดลงในช่วงที่น้ำมันในตลาดยังแพงต่อเนื่องแบบนี้เพื่อลดต้นทุนของสินค้าทุก ๆ อย่างลงก่อน
3. เห็นว่าจะมีการกำหนดราคาดีเซลใหม่ โดยใช้การเทียบกับราคาเพื่อนบ้านในอาเซียน



คือพอบอกจะเทียบราคาแล้ว ราคาประเทศอื่นมันแพงกว่าบ้านเราหมดเลย อันนี้ถ้าทำตามเดียวคงได้มีปัญหาแน่กับราคาในบ้านเรา เพราะอย่างประเทศที่เค้าถูกจัด มันคือประเทศที่ส่งออกน้ำมัน แบบส่งออกเป็นสินค้าหลัก ๆ ของชาติเค้า ไม่ใช่แบบบ้านเราที่มีคนบอกว่ามีส่งออก แต่รู้รึเปล่า บ้านเราสินค้าที่นำเข้าอันดับ 1 นี้คือน้ำมันดิบ มูลค่ากว่า 2.8 แสนล้าน



มีนำเข้าแล้วก็มีส่งออกเหมือนกัน เป็นอันดับ 9 ซึ่งเป็นตัวน้ำมันสำเร็จรูป มูลค่า 6.6 หมื่นล้าน



จะเห็นได้เลยว่าประเทศเราไม่ใช่เจ้าของการส่งออกน้ำมันเลย ทำให้ราคาส่วนใหญ่เราจะขึ้นลงตามตลาด แต่ราคาขายในประเทศมันไม่ได้จะตามตลาดเพราะมันจะมีบวกภาษีกองทุนอะไรต่าง ๆ กว่าจะมาถึงหน้าปั๊มมาขายพวกเราอีกที

ในส่วนสุดท้าย ที่ว่า ขึ้นราคาแต่ปั๊มก็ยังไม่ได้กำไรอยู่ดี คือมันเหมือนกับต้นทุนของที่จะซื้อมาขายมันขึ้น ราคามันก็ขึ้นไม่ใช่ว่าขึ้นราคาที 3-4 บาท แล้วปั๊มจะได้ส่วนต่างตรงนี้เลย 3-4 บาท มันไม่ใช่นะ ต้องเข้าใจเรื่องการซื้อมาขายไปด้วย



ดูจากแถวแรก อันนี้คือ ราคาที่ออกมาจากหน้าโรงกลั่นแล้ว อย่างดีเซลอยู่ 32 บาทกว่าแล้ว แต่มันต้องผ่านการ บวกภาษี บวกกองทุน ซ้ำซ้อนกัน และมีการใช้เงินกองทุนแล้วถึง 10 บาทกว่า เพื่อลดต้นทุนให้มันลดลง เพื่อที่จะได้ไม่ขายเกินที่รัฐกำหนดกันในตอนนี้ แต่หลังจากวันที่ 1 พฤษภาคมนี้แหละ ที่ลดจะลดส่วนของกองทุนลง ทำให้ราคาต้นทุนของน้ำมันก็จะขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้การที่ปั๊มซื้อน้ำมันมาขาย เค้าไม่ได้กำไรเพิ่มขึ้นที 3-4 บาทอะไรแบบนั้น