การแก้ปัญหาราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ อยู่ที่การเอาภาษีประชาชนมา “อุ้ม” ราคาเอาไว้ให้ต่ำกว่าความเป็นจริง
เงินก้อนนี้ไม่ได้เอาจากงบประมาณโดยตรงก็จริง แต่ก็มาจากประชาชนผู้ใช้น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์
เท่ากับเป็นการเก็บเงินจากประชาชนกลุ่มหนึ่งมาอุดหนุนประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยที่ประชาชนกลุ่มที่ต้องเสียสละนั้นไม่มีทางเลือก ต้องทำตามที่ผู้มีอำนาจกำหนดให้เป็นไป
และยิ่งเมื่อไปตรึงราคาดีเซลเอาไว้ให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในโลกของความเป็นจริง ก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนหันไปใช้น้ำมันดีเซลกันมากขึ้น เพราะเมื่อมันถูกผู้บริโภคก็ถูกชักจูงให้มาใช้โดยอัตโนมัติ เหมือนให้คนในประเทศมาใช้ ดีเซลกันเป็นการใหญ่อย่างนี้ไม่แปลว่าสวนทางกับที่รัฐบาลมีนโยบายให้ประหยัดการใช้พลังงานหรือ?
ขณะที่ทั้งโลกโวยวายว่าราคาน้ำมันดิบแพงขึ้น แต่คนไทยที่ใช้ดีเซล ยังรู้สึกทุกอย่างเหมือนเดิม...เรียกว่ายังหลอกตัวเองต่อไปจนกว่าความจริงจะปรากฏ นั่นคือเมื่อกองทุนน้ำมันหมดเกลี้ยงต่อหน้าต่อตา
และเมื่อต้องขึ้นราคากันจริงๆ ก็จะกระโดดพุ่งพรวดพราดขึ้นไปหลายเท่าตัว...เมื่อนั้นแหละ ความจริงที่ผู้คนรับไม่ได้ก็จะเกิดขึ้น และปัญหาสังคมกับการเมืองก็จะระเบิดออกมา
อุ้มราคาดีเซล คุณเห็นด้วยไหม?
เงินก้อนนี้ไม่ได้เอาจากงบประมาณโดยตรงก็จริง แต่ก็มาจากประชาชนผู้ใช้น้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์
เท่ากับเป็นการเก็บเงินจากประชาชนกลุ่มหนึ่งมาอุดหนุนประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยที่ประชาชนกลุ่มที่ต้องเสียสละนั้นไม่มีทางเลือก ต้องทำตามที่ผู้มีอำนาจกำหนดให้เป็นไป
และยิ่งเมื่อไปตรึงราคาดีเซลเอาไว้ให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในโลกของความเป็นจริง ก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนหันไปใช้น้ำมันดีเซลกันมากขึ้น เพราะเมื่อมันถูกผู้บริโภคก็ถูกชักจูงให้มาใช้โดยอัตโนมัติ เหมือนให้คนในประเทศมาใช้ ดีเซลกันเป็นการใหญ่อย่างนี้ไม่แปลว่าสวนทางกับที่รัฐบาลมีนโยบายให้ประหยัดการใช้พลังงานหรือ?
ขณะที่ทั้งโลกโวยวายว่าราคาน้ำมันดิบแพงขึ้น แต่คนไทยที่ใช้ดีเซล ยังรู้สึกทุกอย่างเหมือนเดิม...เรียกว่ายังหลอกตัวเองต่อไปจนกว่าความจริงจะปรากฏ นั่นคือเมื่อกองทุนน้ำมันหมดเกลี้ยงต่อหน้าต่อตา
และเมื่อต้องขึ้นราคากันจริงๆ ก็จะกระโดดพุ่งพรวดพราดขึ้นไปหลายเท่าตัว...เมื่อนั้นแหละ ความจริงที่ผู้คนรับไม่ได้ก็จะเกิดขึ้น และปัญหาสังคมกับการเมืองก็จะระเบิดออกมา