ทุกชีวิตปลอดภัยใน VOLVO ยังคงเป็นคำที่คุ้นหูและติดหูเช่นเดิม และคำนี้มีที่มาแน่นอนว่าทางค่าย VOLVO เองนั้นเป็นค่ายที่คิดค้นเทคโนโลยี เข็มขัดนิรภัย และ ให้ทุกๆค่ายไปใช้งานกันได้โดยที่ไม่จดลิขสิทธ์อะไรเลยนั้นเองทำให้เป็นค่ายที่คำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ยุคแรกๆ จนมาถึงตอนนี้ การใส่เทคโนโลยี ความแข็งแรง ระบบช่วยเหลือทุกๆอย่างมักจะจัดเต็มมากกว่าคู่แข่ง รวมถึงในตัว VOLVO XC60 2022 ตัวนี้ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนหน้าตาใหม่ และ มีการพัฒนาระบบ Google Automotive มาให้บนรถทำให้นอกเหนือจากความปลอดภัยแล้ว ระบบการใช้เทคโนโลยี ภายในรถก็ไม่ธรรมดา และ การปรับเปลี่ยนหน้าตาอะไรใหม่ก็ถือว่าทันสมัยและลงตัวขึ้นในปี 2022 นี้
 

 
VOLVO XC60 INSCRIPTION 2022 นั้นจะเป็นรุ่นที่เน้นความหรูหรามากกว่ารุ่น R-Design แต่ทางด้านออฟชั่น และ ราคาต่างๆนั้นเท่านั้นนั้นเอง และทางด้านออฟชั่นยังคงเน้นๆจัดเต็มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัย หรือ ว่าออฟชั่นการใช้งานทั่วไป และ เทียบกับราคาที่ให้มาบอกเลยว่าคุ้มค่าเกินหน้าตาคู่แข่งไปทั้งหมดเลยทีเดียว มาพร้อมกับ เครื่องยนต์ T8 Plug-in Hybrid 2.0 ลิตร จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Geartronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมกับ Turbocharger และ Supercharger กำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร  และมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ทำให้เมื่อคิดรวมกันแล้ว จะได้มากถึง 407 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร พร้อมกับ Li-ion ความจุ 11.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไฟฟ้าได้ 49 กิโลเมตร พร้อมชาร์จไฟ 16A แค่ 2.5 ชั่วโมง และถ้ามองในความปลอดภัยนั้นมาพร้อมกับ ระบบความปลอดภัยรอบคันด้วยระบบเซนเซอร์ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) และ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบหลีกเลี่ยงการชน และแน่นอนว่ายังคงมีระบบช่วยการขับขี่ ในการรักษาความเร็ว หรือ อยู่ในเลนต่างๆได้นั้นคือ Pilot Assist เวอร์ชันล่าสุดที่ค่อนข้างแม่นยำมากกว่าเดิม และบรรดาระบบทั้งหมดป้องกันการตกถนน การชน มุมอับต่างๆครบที่สุด และมี HUD มาให้รวมถึงเซนเซอร์วัดค่า PM 2.5 และ ระบบกรองอากาศในตัว พร้อม หน้าจอกลาง ระบบ Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว Google Assistant, Google Map, Google Play ไม่ต้องเสียบสาย หรือเชื่อมต่อมือถือ แต่น่าเสียดายตอนนี้ยังไม่รองรับ Android Auto , Apple Carplay ในตอนนี้แต่ด้วยระบบตัวรถก็สามารถใช้งานได้ครบเหมือนกัน และ ที่เทพสุดๆคือ ระบบเสียง Premium Sound by Bowers & Willkins  19 ตัวพร้อม Subwoofer เสียงคุณภาพนั้นดีที่สุดในบรรดารถยนต์คู่แข่งทั้งหมดในตอนนี้ และยังคงมีหัวเกียร์ คริสตัล และ เบาะหนังเข้ามาให้อยู่รวมถึงหลังคา Panoramic Sunroof ครบทั้งหมด เรียกได้ว่าออฟชั่นครบเกินใช้งานมากๆ
 
VOLVO XC60 Recharge T8 AWD Inscription  3,490,000 บาท
 

 
EXTERIOR
 
งานออกแบบภายนอก VOLVO เองนั้นยังคงมีความเรียบง่ายและอาจจะไม่ได้มีความหวือหวาสปอร์ตดุดันอะไร อันนี้ต้องบอกกันตรงๆว่าแล้วแต่ความชอบบางคนอาจจะมองว่าดูสูงวัยไปนิด แต่ถ้าเทียบกันมันจะเน้นความเรียบง่ายมากกว่านั้นเองครับเส้นสายเรียบๆ และยิ่งตัว INSCRIPTION เองก็จะเน้นความหรูหรามากกว่านั้นเอง แต่ถ้าตัว R-DESIGN เองจะดุดันขึ้น ได้กระจังหน้าดำ และเส้นสายกันชนแบบใหม่ ซึ่งถ้าวัยรุ่นน่าจะชอบแบบนั้นแน่นอนครับ และในตัว FACELIFT ตัวนี้เราจะได้กันชนหน้าใหม่ในด้านล่าง เส้นสายคมสวยมากกว่าเดิม และ ล้อลายใหม่ แต่ไฟหน้า ไฟท้ายอะไรนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก แต่ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามีความทันสมัยขึ้นเยอะเช่นกันในภาพรวม
 

 

 

 
ภาพรวมตัวรถรอบคันเส้นสายสวยงามและมีเอกลักษณ์ในหลายๆอย่างเส้นสายไฟท้าย หรือว่ารูปทรงเองก็จะคุ้นเคยกันในรุ่นก่อนๆรวมถึงการที่ตัวรถที่สีขาวบอกเลยว่าดูคลีนและสวยมากๆ และในรุ่นนี้จะเน้นความเป็นโครเมียมอะไรเสริมเข้ามาเยอะกว่าตัวR DESIGN นั้นเอง ในด้านหน้ากันชนล่างแบบใหม่ ด้านข้างเราจะได้ล้อแบบใหม่และด้านท้ายกันชนล่างแบบใหม่ซึ่งจะไม่เห็นดีไซน์ท่อไอเสียโชว์ออกมาแล้วครับเน้นความเรียบๆไปกับตัวรถเนียนมากกว่าเดิมทางด้าน XC60 ยังคงเป็นรถยนต์ SUV ขนาดกลางขับในเมืองได้ง่ายและเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่ได้เล็กเกินไปเช่นกัน
 

 

 
หน้าตรงจะเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดมากที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แม้ว่าไฟหน้า กระจังหน้าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ชุดด้านหน้าเส้นสายคม ปากคว่ำมากกว่าเดิมและช่องดักลมซ้ายขวาจะเป็นทรง 3 เหลี่ยมทำให้มีความดุดันมากกว่าเดิม และเสริมด้วยโครเมียมในด้านล่าง และ ตามช่องซ้ายขวา แต่รุ่นนี้จะไม่ได้มีไฟตัดหมอกหน้ามาให้เป็นปกติ และด้านหลังไฟท้ายแบบเดิมพร้อมกับรายละเอียดอะไรเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ชุดกันชนด้านล่างที่จะเป็นโครเมียมสีเงินและซ่อนท่อไอเสียทั้งหมดไม่มีการโชว์แต่อย่างใด ทำให้คลีนมากกว่าเดิมและดีมากๆที่ไม่มีท่อ
 

 

 

 
ทางด้านล้อได้ลายใหม่ในขนาดเดิมคือ 19 นิ้วแต่มีลวดลายใหม่ 10 ก้าน เป็นแบบคู่แตกต่างจากเดิมเล็กน้อยครับใช้งาน ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว ยาง ขนาด 235/55 R19 พร้อมกับช่วงล่างแบบปรับแข็งอ่อนได้ แต่ไม่ใช่ถุงลมรวมถึงในด้านหน้ากันชนแบบใหม่ จะเห็นช่องดักลมที่เป็นขนาดใหญ่มากกว่าเดิมในด้านข้างและตรงกลาง แต่จะเป็นช่องทะลุจริงๆเล็กน้อยในด้านซ้ายครับ เน้นการออกแบบตกแต่งมากกว่า รวมถึงในด้านหลังจะเห็นว่าไม่มีท่อไอเสียหลอกๆเลยอันนี้ถือว่าดี แต่ซ่อนเนียนๆยิงลงข้างล่างเป็นท่อคู่และเน้นความเรียบมากกว่าเดิมเสริมด้วยโครเมียมเส้นยาว
 

 

 
ไฟหน้าไปท้าย FULL LED ไม่ได้เปลี่ยนแปลงดีเทลหรือรูปทรงอะไรครับ ในด้านท้ายแสงสีสวยงามแต่ไม่ได้มีไฟเลี้ยววิ่งหรือ Effect เวลาปลดล็อกอะไรแบบรุ่นใหม่ๆ แต่เน้นการใช้งานยังคงทำได้ดี ส่วนไฟหน้าเองมาพร้อมกับระบบไฟสูงอัตโนมัติ และ มีระบบหลบหลีกอะไรให้ครบแบ่งช่องอะไรได้ทั้งหมด แต่เป็นแบบ Mechanic ทั้งหมดไม่ใช่ Pixel LED แบบรุ่นใหม่ๆครับ การทำงานอาจจะไม่ได้เนียนหรือไวมากแต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดี แต่ในรุ่น C40 นั้นจะใหม่ล่าสุด
 

 
INTERIOR
 
ภายในไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักในการออกแบบ แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงปุ่มบางส่วน และ ระบบภายในเป็นหลัก เพราะว่างานออกแบบทั้งหมด วัสดุต่างๆยังคงทำได้พรีเมียมสวยและหรูหรามากๆ ซึ่งภายในจริงๆค่ายนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์วัยรุ่นมากนักเพราะเน้นความเรียบง่าย วัสดุหรูหรา และ อาจจะดูหรูไปสำหรับวัยรุ่นแต่ใครที่เน้นความเรียบๆดูดีแน่นอนว่าชอบแน่นอนครับ และยิ่งได้สัมผัสวัสดุคุณภาพลายไม้ หนังต่างๆบอกเลยว่าดีมาก แต่ถ้าเน้นแสงสี หวือหวา หรือการปรับแต่งอะไรที่เยอะๆอาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะว่ารุ่นใหม่ไม่มีแสงสี Ambient Light อะไรให้ปรับแล้วเช่นกันครับ รวมถึงหน้าปัดเรือนไมล์ก็ไม่มีการเปลี่ยนสีสันหรือหน้าแบบแบบรุ่นก่อนๆแล้วจุดนี้แอบน่าเสียดายอย่างมาก แต่ถ้าความโปร่งโล่ง นั่งสบาย และ เรียบง่ายคลีนๆสไตล์ สแกนดิเนเวีย ตัวนี้สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน
 

 

 
ภายในมาพร้อมกับการออกแบบที่เน้นปุ่มให้น้อยที่สุด แต่ก็ยังมีการควบคุมง่ายหน้าจอตรงกลางขนาด 9 นิ้ว และระบบสัมผัสพร้อมกับช่องแอร์แนวตั้ง และในรุ่น INSCRIPTION จะได้ลายไม้สีโทนอ่อน และ หัวเกียร์แบบคริสตัล และ โทนสีในห้องโดยสารนั้นจะเน้นความสว่างนั้นเอง และรุ่นนี้จะมาพร้อมกับที่ชาร์จไร้สายเสริมเข้ามาข้างๆเกียร์ ส่วนการใช้งานปุ่มต่างๆนั้นถือว่าตำแหน่งใช้งานได้ง่าย และ พวงมาลัยรูปทรงที่คุ้นเคยกันดีอาจจะไม่ได้เท่มากแต่เน้นการใช้งานมากที่สุด ปุ่มเน้นขนาดใหญ่กดได้ง่าย ใช้งานได้ง่าย ไม่มี Paddle Shift อะไรและ ด้านขวาควบคุมเพลง และ ด้านซ้ายจะเน้นการควบคุมระบบ Pilot Assist ที่กดครั้งเดียวทำงานได้เลยไม่ต้องเลื่อนซ้ายขวาแบบตัวก่อนๆ
 

 

 
หน้าจอกลางเองขนาด 9 นิ้วเหมือนเดิมอันนี้ตรงๆว่าแอบเล็กไปหน่อยในการใช้งานและหน้าตาสมัยนี้ทุกอย่างควบคุมผ่านหน้าจอทำให้มันอาจจะเล็กไปหน่อยครับ ใช้งานลำบากมากกว่าหน้าจอขนาดใหญ่ แต่เราจะได้อัปเกรดระบบใหม่ทั้งหมดที่เป็น Google Automotive แบบใหม่ที่ตัวรถเป็นเหมือน สมาร์ตโฟน คือ Google based ทำให้รองรับอัปเดตได้ผ่านระบบ OTA และ สามารถได้ฟีเจอร์ใหม่ๆทั้งหมด และใช้งาน Playstore , Google Assistant ทั้งหลายและ Maps รวมถึงโหลดแอปต่างๆได้โดยที่ไม่ต้องเสียบมือถือเลยแม้แต่น้อย และในตัวนี้จะได้หัวเกียร์คริสตัลที่เน้นความสวยงามและแสงสีขาว และ ปุ่มสตาร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่มีปุ่มเปลี่ยน Drive Mode แล้วอันนี้แอบน่าเสียดายมากเพราะการปรับแต่งโหมดแบบใหม่นั้น หลายขั้นตอนมากกว่าเดิม แต่ทางด้าน Brake Hold อะไรมาครบเช่นเดิม พร้อมกับด้านซ้ายจะเป็นที่วางแก้วที่เปิดปิดฝาได้ และ ที่ชาร์จไร้สาย และหัวชาร์จ USB-C ในการเชื่อมต่อ