ในครั้งนี้ realme ได้เปิดตัว realme GT2 Pro รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับสเปกขั้นเทพ ที่สุดแสนจะพรีเมียม มาพร้อมกับสเปกที่โหดขึ้นมากๆด้วยหน้าจอระดับ 2K พร้อมกับใช้งาน Snapdragon 8 Gen 1 เรียกได้ว่าการกลับมาในครั้งนี้นั้นเป็นที่น่าประทับใจสุดๆ พัฒนามาได้ตอบโจทย์มากๆ รุ่นนี้ถือว่าเป็นเรือธงที่สุด ทั้งสเปก วัสดุ และ เรื่องของกล้องไม่ธรรมดา เอาภาพตัวอย่างจัดเต็มมาให้เลย เพราะทางด้านรุ่นนี้มาพร้อมกับการพัฒนากล้องครั้งใหญ่ ทั้งฟีเจอร์การถ่าย สเปกที่ให้มา รวมถึงการเสริมเลนส์มุมกว้างแบบ Fish Eye มาให้รองรับการใช้งานมุมมองแปลกตากว่าเดิม และ ที่สำคัญฝาหลังที่ไม่เลอะ และ เป็นผิวสัมผัสคล้ายกระดาษ แต่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่ายมาก
realme GT 2 Pro จะมาพร้อมกับ หน้าจอ LTPO ที่ปรับรีเฟรชเรทได้ 1-120Hz ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว Quad HD+ ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 8 Gen 1 ที่มี RAM สูงสุด 12GB และมีระบบระบายความร้อน Diamond ice ที่มีพื้นที่ 36,761 ตารางมิลลิเมตร และ VC liquid cooling พื้นที่ 4,129 ตารางมิลลิเมตร กล้องของ GT 2 Pro มีกล้องหลังจำนวน 3 ตัวประกอบด้วยกล้องตัวหลัก 50MP ที่รองรับ OIS + กล้อง ultra wide 50MP + กล้อง microscope 2MP ที่ซูมได้ 40x คล้ายกับที่ใช้ใน OPPO Find X3 Pro ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP การออกแบบ Paper Tech Master Design ที่ใช้วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 65W ที่สามารถชาร์จแบตได้ 100% ในเวลา 33 นาที ส่วนทางด้านราคาเองนั้น
- realme GT 2 PRO ราคา 24,990 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง realme GT2 Pro
- สายชาร์จ USB-C
- Adaptor 65W
- คู่มือการใช้งาน
- ที่จิ้มซิม
- เคส TPU สีเทาเข้ม
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นต้องบอกว่าให้สามผ่านเลยจริงๆ เป็นครั้งแรกของการดีไซน์ด้วย Bio-Based Polymer หรือพอลิเมอร์ชีวภาพ ที่ได้ร่วมออกแบบกับคุณ Nao Fukasawa โดยวัสดุที่ใช้ผลิตนั้นผ่านการรับรองจาก ISCC วัสดุพรีเมียมทนทาน และช่วยอนุรักษ์อีกด้วย เพิ่มความโดดเด่นด้วยฝาหลังที่เนื้อพื้นผิวคล้ายกระดาษ เรื่องการดีไซน์ที่แปลกใหม่ต้องยกให้ค่ายนี้เลยนะ และแม้ว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ดูดีพรีเมียมมากขนาดไหน แต่ทางค่ายนั้นยังคงคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ เพราะเจ้าตัวนี้สามารถปล่อยคาร์บอนได้น้อยลงถึง 35.5% ในระหว่างการผลิตเลยแหละ realme GT2 Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบเรียบเนียนสวย หน้าจอเป็นกระจกแบบ Gorilla Glass Victus และเป็นกรอบพลาสติก มีมาให้เลือกใช้ด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Paper White, Paper Green, Steel Black, Titanium Blue ซึ่งแต่ละสีก็มีความสวยละมุนที่แตกต่างกัน ต้องบอกตรงนี้เลยว่าสวยสะดุดตาทุกสีเลย
หน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนใช้งาน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 1000Hz ขอบหน้าจอบางมาก พร้อมหน้าจอที่เรียบเนียน ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ และสเปกในด้าน Display ก็จัดเต็มขึ้นกว่าเดิมด้วย
ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีความบางมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆแล้วนั้นถือว่าบางลงเยอะมากจริงๆ และในครั้งนี้ไม่มีปุ่มควบคุมมาตรฐานมาให้ แต่จะเป็นแท็บให้ปัดใช้งานแทน ทำให้ดูล้ำสมัยขึ้นและช่วยให้ใช้งานพื้นที่บนหน้าจอได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นก็บางไม่แพ้กัน มาพร้อมกับลำโพงคู่ พร้อมกับกล้องหน้า 32MP F1.8 เพิ่มความละเอียดกล้องหน้ามาให้แบบจุกๆ รองรับการเซลฟี่ได้เป็นอย่างดี
ขอบเครื่องด้านขวาจะเป็นในส่วนปุ่ม Power เท่านั้น และจะเป็นพื้นผิวเรียบๆสีเดียวกับขอบเครื่องไม่มีลูกเล่นใดๆ แต่จะเล่นในเรื่องของส่วนเค้าโค้งบริเวณขอบๆแทน ทำให้เครื่องดูเรียวโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นในส่วนของปุ่มสั่งงาน เพิ่ม – ลด เสียง และก็เป็นพื้นผิวเรียบๆเช่นเดิม ดูสะอาดตาและพรีเมียมมาก
ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นจะมีเป็นเป็นลำโพงหลักที่ให้มา มาพร้อมกับพอร์ตชาร์จ USB-C และรูไมค์หลักในด้านล่าง พร้อมกับถาดซิมเช่นเดิม การดีไซน์ในส่วนนี้นั้นชอบมากๆที่ขอบซ้ายขวาโค้งมนดูมีมิติมากขึ้น
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆแต่งสีขอบตัดสีเทามาเป็นลูกเล่นนิดๆหน่อยๆ มาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียงเช่นเดิม
การดีไซน์ฝาหลังในรุ่นนี้เนื้อผิวสัมผัสจะคล้ายกับเนื้อกระดาษเลย เป็นสีเนียนๆ ไม่มีสีใดมาตัดแบบรุ่นก่อนๆ ดูหรูหราไปอีกแบบ ฝาหลังสามารถป้องกันลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โมดูลกล้องหลังจะอยู่บริเวณมุมซ้ายบน พร้อมด้วยกระบวนการสลักชื่อค่ายด้วยเลเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากกว่าเดิม ดีไซน์ได้เก๋กว่าเดิมจริงๆ
กล้องหลังให้ 3 ตัวและเป็นการแยกแฟลชบนล่าง ทั้ง 3 เลนส์แยกกันชัดเจนรวมถึงมีการสลัก DURL 50MP ไว้แบบปังๆอีกด้วย มาพร้อมกับสเปกกล้องหลังเลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ระดับเรือธง กันสั่นด้วย OIS & EIS ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56″ ส่วนตัวที่ 2 นั้นใช้งานเลนส์มุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 150 องศา ครั้งแรกของโลกกับโหมด Fish eye และตัวสุดท้ายเลนส์ Ultra Macro ความละเอียด 2MP ที่สามารถซูมได้ถึง 40 เท่า ด้วยความละเอียดระดับ FHD
BIO-BASE POLYMER
realme GT 2 Pro รุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์แบบด้วย Bio-Base Polymer หรือที่เรียกว่าพอลิเมอร์ชีวภาพ เป็นการสร้างจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยวัสดุนี้ผ่านการรับรองจาก ISCC และจะปล่อยคาร์บอนน้อยลงถึง 35.5% อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยมลพิษจากคาร์บอนถึง 63% ต่อกิโลกรัม มีการเคลมว่าในทุกๆ 1 ล้านเครื่องของ GT 2 Pro นั้นเทียบเท่าการผลิตขวดพลาสติกที่น้อยลงถึง 3.5 ล้านขวด ซึ่งเยอะมากๆ เรียกได้ว่าทั้งดีไซน์ที่ดูเก๋ ล้ำสมัยแล้วนั้น ยังคงคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแบบปังๆ อีกด้วย ต้องยกให้นิ้วเลยนะสำหรับค่ายนี้
SPEC
- หน้าจอ AMOLED LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว (3,216×1,440พิกเซล) Quad HD+, รีเฟรชเรท 1-120Hz, ความสว่าง 1400 nits, DCI-P3 wide color gamut 100%, JNCD ≈ 0.5, ใช้หน้าจอ Gorilla Glass Victus
- ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 4nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno รุ่นใหม่
- RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB /256GB, RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB / 512GB
- Android 12 ที่ครอบด้วย realme UI 3.0
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง
* กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766, OIS
* กล้อง ultra-wide กว้าง 150 องศา 50MP (f/2.2) ที่ใช้เซนเซอร์ ISOCELL JN1
* กล้อง ultra macro 2MP ซูมได้ 40x
- กล้องหน้า 32MP (f/2.4) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX615
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ลำโพง Stereo linear, คุณภาพเสียง Hi-Res
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.2×74.7×8.2มม.; น้ำหนัก: 199กรัม / 189 กรัม (Master Edition)
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11ax (2.4GHz/5GHz) MIMO, Bluetooth 5.2, GPS (L1 + L5), NFC
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 65W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพการใช้งานของรุ่นนี้นั้นมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 5G รุ่นล่าสุดเลย ชิปเซ็ตเล็กเพียง 4nm ช่วยให้ประสิทธิภาพเร็วแรงขึ้นถึง 20% แถมประหยัดพลังงานถึง 30% เลย ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับ AI Engine เจนเนอเรชั่น 7 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆถือว่าโหดขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย เป็นโปรเซสเซอร์ระดับเรือธงที่ใช้ Octa-core แบบพรีเมียม ทำคะแนน Benchmark Results ไปได้ 957268 คะแนน ถือว่าคะแนนสูงในระดับนึงเลยนะ และคะแนนอ่านเขียนก็สูงไม่แพ้กัน โดยคะแนนการอ่านสามารถทำคะแนนอยู่ที่ 27980 คะแนน ส่วนคะแนนการเขียนทำไปได้ 18938 คะแนน รองรับการใช้งานได้แบบสบายๆเลยแหละสำหรับเจ้าตัวนี้
COOLING
ในเรื่องของการระบายความร้อนนั้นก็ไม่น้อยหน้าเลย มาพร้อมระบบ Stainless Steel Vapor Cooling ขนาดใหญ่ ที่เป็นขนาดใหญ่มากถึง 2 เท่าแบบที่ทางค่าย realme นั้นไม่เคยทำมาก่อน มีขนาดอยู่ที่ 36,761 ตารางมิลลิเมตร แน่นอนว่าช่วยลดวามร้อนแกนได้สูงสุดถึง 19 องศา เป็นการพัฒนาที่มากขึ้นในด้านนี้เพราะช่วยระบายความร้อนได้ดีมาก สายเกมเมอร์น่าจะถูกใจกับสิ่งนี้ ในระบบระบายความร้อนนั้นประกอบไปด้วยกัน 9 ชั้น รวมถึง Diamond Themal Gel ที่ช่วยให้ความร้อนได้กระจายตัวออกไปมากขึ้น อีกทั้งระบบระบายความร้อนที่มีในรุ่นนี้นั้นยังสามารถควบคุมฮอตสปอตหลักทั้งหมดได้ด้วย ทำให้ชิปเซ็ตยังคงเย็นอยู่เสมอ แน่นอนว่าการใช้งานก็จะลื่นไหล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
DISPLAY 2K AMOLED
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED LTPO บนความละเอียดระดับ 2K ขนาด 6.7 นิ้ว (3,216×1,440พิกเซล) Quad HD+ รีเฟรชเรท 1-120Hz ค่า Touch Sampling อยู่ที่ 1000Hz เรียกได้ว่าสูงมากๆ ช่วยให้เราเล่มเกมส์ได้อย่างฟินมากขึ้น มีความสว่างอยู่ที่ 1400 nits ค่าขอบเขตของสี DCI-P3 wide color gamut 100% มีค่าความแตกต่างของสี JNCD ≈ 0.5 ป้องกันหน้าจอด้วย Gorilla Glass Victus สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีสุดๆ ในครั้งนี้สเปกหน้าจอเทพขึ้นเยอะ ความละเอียดสูงขึ้น ทำให้สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการใช้งานจริงแล้วนั้นหน้าจอสามารถให้แสงสว่างได้ดี ใช้งานข้างนอกได้แบบสบายๆ สู้แสงได้ดีระดับนึงเลยแหละ
[SR] รีวิว realme GT2 Pro เรือธงหน้าจอ 2K กล้อง 50MP OIS + กล้อง150องศา วัสดุพอลิเมอร์ชีวภาพ !
ในครั้งนี้ realme ได้เปิดตัว realme GT2 Pro รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับสเปกขั้นเทพ ที่สุดแสนจะพรีเมียม มาพร้อมกับสเปกที่โหดขึ้นมากๆด้วยหน้าจอระดับ 2K พร้อมกับใช้งาน Snapdragon 8 Gen 1 เรียกได้ว่าการกลับมาในครั้งนี้นั้นเป็นที่น่าประทับใจสุดๆ พัฒนามาได้ตอบโจทย์มากๆ รุ่นนี้ถือว่าเป็นเรือธงที่สุด ทั้งสเปก วัสดุ และ เรื่องของกล้องไม่ธรรมดา เอาภาพตัวอย่างจัดเต็มมาให้เลย เพราะทางด้านรุ่นนี้มาพร้อมกับการพัฒนากล้องครั้งใหญ่ ทั้งฟีเจอร์การถ่าย สเปกที่ให้มา รวมถึงการเสริมเลนส์มุมกว้างแบบ Fish Eye มาให้รองรับการใช้งานมุมมองแปลกตากว่าเดิม และ ที่สำคัญฝาหลังที่ไม่เลอะ และ เป็นผิวสัมผัสคล้ายกระดาษ แต่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่ายมาก
realme GT 2 Pro จะมาพร้อมกับ หน้าจอ LTPO ที่ปรับรีเฟรชเรทได้ 1-120Hz ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว Quad HD+ ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 8 Gen 1 ที่มี RAM สูงสุด 12GB และมีระบบระบายความร้อน Diamond ice ที่มีพื้นที่ 36,761 ตารางมิลลิเมตร และ VC liquid cooling พื้นที่ 4,129 ตารางมิลลิเมตร กล้องของ GT 2 Pro มีกล้องหลังจำนวน 3 ตัวประกอบด้วยกล้องตัวหลัก 50MP ที่รองรับ OIS + กล้อง ultra wide 50MP + กล้อง microscope 2MP ที่ซูมได้ 40x คล้ายกับที่ใช้ใน OPPO Find X3 Pro ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP การออกแบบ Paper Tech Master Design ที่ใช้วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 65W ที่สามารถชาร์จแบตได้ 100% ในเวลา 33 นาที ส่วนทางด้านราคาเองนั้น
- realme GT 2 PRO ราคา 24,990 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง realme GT2 Pro
- สายชาร์จ USB-C
- Adaptor 65W
- คู่มือการใช้งาน
- ที่จิ้มซิม
- เคส TPU สีเทาเข้ม
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้นั้นต้องบอกว่าให้สามผ่านเลยจริงๆ เป็นครั้งแรกของการดีไซน์ด้วย Bio-Based Polymer หรือพอลิเมอร์ชีวภาพ ที่ได้ร่วมออกแบบกับคุณ Nao Fukasawa โดยวัสดุที่ใช้ผลิตนั้นผ่านการรับรองจาก ISCC วัสดุพรีเมียมทนทาน และช่วยอนุรักษ์อีกด้วย เพิ่มความโดดเด่นด้วยฝาหลังที่เนื้อพื้นผิวคล้ายกระดาษ เรื่องการดีไซน์ที่แปลกใหม่ต้องยกให้ค่ายนี้เลยนะ และแม้ว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ดูดีพรีเมียมมากขนาดไหน แต่ทางค่ายนั้นยังคงคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ เพราะเจ้าตัวนี้สามารถปล่อยคาร์บอนได้น้อยลงถึง 35.5% ในระหว่างการผลิตเลยแหละ realme GT2 Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบเรียบเนียนสวย หน้าจอเป็นกระจกแบบ Gorilla Glass Victus และเป็นกรอบพลาสติก มีมาให้เลือกใช้ด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Paper White, Paper Green, Steel Black, Titanium Blue ซึ่งแต่ละสีก็มีความสวยละมุนที่แตกต่างกัน ต้องบอกตรงนี้เลยว่าสวยสะดุดตาทุกสีเลย
หน้าจอนั้นเป็นการออกแบบหน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบนใช้งาน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 1000Hz ขอบหน้าจอบางมาก พร้อมหน้าจอที่เรียบเนียน ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ และสเปกในด้าน Display ก็จัดเต็มขึ้นกว่าเดิมด้วย
ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีความบางมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆแล้วนั้นถือว่าบางลงเยอะมากจริงๆ และในครั้งนี้ไม่มีปุ่มควบคุมมาตรฐานมาให้ แต่จะเป็นแท็บให้ปัดใช้งานแทน ทำให้ดูล้ำสมัยขึ้นและช่วยให้ใช้งานพื้นที่บนหน้าจอได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นก็บางไม่แพ้กัน มาพร้อมกับลำโพงคู่ พร้อมกับกล้องหน้า 32MP F1.8 เพิ่มความละเอียดกล้องหน้ามาให้แบบจุกๆ รองรับการเซลฟี่ได้เป็นอย่างดี
ขอบเครื่องด้านขวาจะเป็นในส่วนปุ่ม Power เท่านั้น และจะเป็นพื้นผิวเรียบๆสีเดียวกับขอบเครื่องไม่มีลูกเล่นใดๆ แต่จะเล่นในเรื่องของส่วนเค้าโค้งบริเวณขอบๆแทน ทำให้เครื่องดูเรียวโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเป็นในส่วนของปุ่มสั่งงาน เพิ่ม – ลด เสียง และก็เป็นพื้นผิวเรียบๆเช่นเดิม ดูสะอาดตาและพรีเมียมมาก
ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นจะมีเป็นเป็นลำโพงหลักที่ให้มา มาพร้อมกับพอร์ตชาร์จ USB-C และรูไมค์หลักในด้านล่าง พร้อมกับถาดซิมเช่นเดิม การดีไซน์ในส่วนนี้นั้นชอบมากๆที่ขอบซ้ายขวาโค้งมนดูมีมิติมากขึ้น
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆแต่งสีขอบตัดสีเทามาเป็นลูกเล่นนิดๆหน่อยๆ มาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียงเช่นเดิม
การดีไซน์ฝาหลังในรุ่นนี้เนื้อผิวสัมผัสจะคล้ายกับเนื้อกระดาษเลย เป็นสีเนียนๆ ไม่มีสีใดมาตัดแบบรุ่นก่อนๆ ดูหรูหราไปอีกแบบ ฝาหลังสามารถป้องกันลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โมดูลกล้องหลังจะอยู่บริเวณมุมซ้ายบน พร้อมด้วยกระบวนการสลักชื่อค่ายด้วยเลเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากกว่าเดิม ดีไซน์ได้เก๋กว่าเดิมจริงๆ
กล้องหลังให้ 3 ตัวและเป็นการแยกแฟลชบนล่าง ทั้ง 3 เลนส์แยกกันชัดเจนรวมถึงมีการสลัก DURL 50MP ไว้แบบปังๆอีกด้วย มาพร้อมกับสเปกกล้องหลังเลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ระดับเรือธง กันสั่นด้วย OIS & EIS ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56″ ส่วนตัวที่ 2 นั้นใช้งานเลนส์มุมกว้าง 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 150 องศา ครั้งแรกของโลกกับโหมด Fish eye และตัวสุดท้ายเลนส์ Ultra Macro ความละเอียด 2MP ที่สามารถซูมได้ถึง 40 เท่า ด้วยความละเอียดระดับ FHD
BIO-BASE POLYMER
realme GT 2 Pro รุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์แบบด้วย Bio-Base Polymer หรือที่เรียกว่าพอลิเมอร์ชีวภาพ เป็นการสร้างจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยวัสดุนี้ผ่านการรับรองจาก ISCC และจะปล่อยคาร์บอนน้อยลงถึง 35.5% อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยมลพิษจากคาร์บอนถึง 63% ต่อกิโลกรัม มีการเคลมว่าในทุกๆ 1 ล้านเครื่องของ GT 2 Pro นั้นเทียบเท่าการผลิตขวดพลาสติกที่น้อยลงถึง 3.5 ล้านขวด ซึ่งเยอะมากๆ เรียกได้ว่าทั้งดีไซน์ที่ดูเก๋ ล้ำสมัยแล้วนั้น ยังคงคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแบบปังๆ อีกด้วย ต้องยกให้นิ้วเลยนะสำหรับค่ายนี้
SPEC
- หน้าจอ AMOLED LTPO ขนาด 6.7 นิ้ว (3,216×1,440พิกเซล) Quad HD+, รีเฟรชเรท 1-120Hz, ความสว่าง 1400 nits, DCI-P3 wide color gamut 100%, JNCD ≈ 0.5, ใช้หน้าจอ Gorilla Glass Victus
- ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 4nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno รุ่นใหม่
- RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB /256GB, RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB / 512GB
- Android 12 ที่ครอบด้วย realme UI 3.0
- ซิมคู่ (nano + nano)
- กล้องหลัง
* กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766, OIS
* กล้อง ultra-wide กว้าง 150 องศา 50MP (f/2.2) ที่ใช้เซนเซอร์ ISOCELL JN1
* กล้อง ultra macro 2MP ซูมได้ 40x
- กล้องหน้า 32MP (f/2.4) ที่ใช้เซนเซอร์ Sony IMX615
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ลำโพง Stereo linear, คุณภาพเสียง Hi-Res
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.2×74.7×8.2มม.; น้ำหนัก: 199กรัม / 189 กรัม (Master Edition)
- รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11ax (2.4GHz/5GHz) MIMO, Bluetooth 5.2, GPS (L1 + L5), NFC
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 65W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพการใช้งานของรุ่นนี้นั้นมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 5G รุ่นล่าสุดเลย ชิปเซ็ตเล็กเพียง 4nm ช่วยให้ประสิทธิภาพเร็วแรงขึ้นถึง 20% แถมประหยัดพลังงานถึง 30% เลย ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับ AI Engine เจนเนอเรชั่น 7 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆถือว่าโหดขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย เป็นโปรเซสเซอร์ระดับเรือธงที่ใช้ Octa-core แบบพรีเมียม ทำคะแนน Benchmark Results ไปได้ 957268 คะแนน ถือว่าคะแนนสูงในระดับนึงเลยนะ และคะแนนอ่านเขียนก็สูงไม่แพ้กัน โดยคะแนนการอ่านสามารถทำคะแนนอยู่ที่ 27980 คะแนน ส่วนคะแนนการเขียนทำไปได้ 18938 คะแนน รองรับการใช้งานได้แบบสบายๆเลยแหละสำหรับเจ้าตัวนี้
COOLING
ในเรื่องของการระบายความร้อนนั้นก็ไม่น้อยหน้าเลย มาพร้อมระบบ Stainless Steel Vapor Cooling ขนาดใหญ่ ที่เป็นขนาดใหญ่มากถึง 2 เท่าแบบที่ทางค่าย realme นั้นไม่เคยทำมาก่อน มีขนาดอยู่ที่ 36,761 ตารางมิลลิเมตร แน่นอนว่าช่วยลดวามร้อนแกนได้สูงสุดถึง 19 องศา เป็นการพัฒนาที่มากขึ้นในด้านนี้เพราะช่วยระบายความร้อนได้ดีมาก สายเกมเมอร์น่าจะถูกใจกับสิ่งนี้ ในระบบระบายความร้อนนั้นประกอบไปด้วยกัน 9 ชั้น รวมถึง Diamond Themal Gel ที่ช่วยให้ความร้อนได้กระจายตัวออกไปมากขึ้น อีกทั้งระบบระบายความร้อนที่มีในรุ่นนี้นั้นยังสามารถควบคุมฮอตสปอตหลักทั้งหมดได้ด้วย ทำให้ชิปเซ็ตยังคงเย็นอยู่เสมอ แน่นอนว่าการใช้งานก็จะลื่นไหล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
DISPLAY 2K AMOLED
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED LTPO บนความละเอียดระดับ 2K ขนาด 6.7 นิ้ว (3,216×1,440พิกเซล) Quad HD+ รีเฟรชเรท 1-120Hz ค่า Touch Sampling อยู่ที่ 1000Hz เรียกได้ว่าสูงมากๆ ช่วยให้เราเล่มเกมส์ได้อย่างฟินมากขึ้น มีความสว่างอยู่ที่ 1400 nits ค่าขอบเขตของสี DCI-P3 wide color gamut 100% มีค่าความแตกต่างของสี JNCD ≈ 0.5 ป้องกันหน้าจอด้วย Gorilla Glass Victus สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีสุดๆ ในครั้งนี้สเปกหน้าจอเทพขึ้นเยอะ ความละเอียดสูงขึ้น ทำให้สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการใช้งานจริงแล้วนั้นหน้าจอสามารถให้แสงสว่างได้ดี ใช้งานข้างนอกได้แบบสบายๆ สู้แสงได้ดีระดับนึงเลยแหละ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้