ปัญหาสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ
สวัสดีครับทุกคน วันนี้พี่หมอจะมาพูดเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ที่มีความสำคัญกับคนทุกๆ วัยนะครับ น้อง ๆ วัยรุ่นอาจจะยังไม่มีปัญหาอะไรมากกับเรื่องนี้ ส่วนมากก็จะสนใจในเรื่องของการจัดฟัน ฟันผุบ้าง รวมถึงปัญหากลิ่นปาก แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุ อาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกหลาย ๆ เรื่อง จะมีอะไรกันบ้าง ตามพี่หมอไปดูกันครับ
ปัญหาสุขภาพช่องปากที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ 👄👵
ปัญหาสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ คือ ภาวะที่ช่องปากของผู้สูงอายุมีโรคเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นบริเวณปาก ภายในช่องปาก ฟันหรือลิ้น เป็นต้น อาจมีได้ตั้งแต่โรคในช่องปากที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามวัย หรือโรคในช่องปากที่มีผลมาจากโรคทางระบบอื่นๆ หรือยาที่รับประทานสำหรับรักษาโรคนั้นๆ
ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุนั้นก็จะมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป เช่น การใส่ฟันปลอมที่ไม่ถูกวิธีและไม่เหมาะสม กระดูกมีความหนาแน่นและแข็งแรงน้อยลง การบริโภคเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ เช่น ชา/กาแฟ หรือการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุได้เช่นกันนะครับ โดยปัญหาสุขภาพช่องปากที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ก็จะมีประมาณนี้ครับ 👇🏻
🔴 1. โรคเหงือกและโรคปริทันต์อักเสบ โรคนี้มีสาเหตุมาจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์บนตัวฟัน ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ และพัฒนาไปสู่โรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งจะทำลายเนื้อเยื่อเหงือกและกระดูกที่รองรับฟันได้ โดยอาการที่พบขึ้นกับความรุนแรงของโรค มีได้ตั้งแต่เหงือกมีสีแดง เลือดออกขณะแปรงฟัน จะพบเหงือกร่นได้ในรายที่มีความรุนแรงของโรคมาก มีการทำลายของกระดูกรองรับรากฟัน รวมทั้งสามารถพบฟันโยกได้ด้วยนะครับ หากมีการทำลายอย่างมาก จะนำไปสู่การสูญเสียฟันได้เลยครับ
🔴 2.
ฟันผุ ในผู้สูงอายุ มักพบฟันผุได้มากที่บริเวณคอฟันและรากฟัน เนื่องจากมีการสูญเสียเหงือกและกระดูกรองรับรากฟันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภาวะปากแห้งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟันผุให้สูงขึ้น ซึ่งหากรอยผุนั้นมีการลุกลามอย่างมาก สามารถนำไปสู่การติดเชื้อในช่องปาก และการสูญเสียฟันได้
🔴 3. การสูญเสียฟัน ในผู้สูงอายุอาจเกิดการสูญเสียฟันได้จากหลายสาเหตุ จำเป็นต้องทำฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันที่เสียไป บางคนอาจคิดว่าการใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีเป็นเรื่องเล็กๆ แต่การใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีนั้น อาจก่อให้เกิดโรคภายในช่องปากได้มากกว่าที่เราคิดนะครับ ในผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ที่ไม่พอดี จะทำให้เกิดความเจ็บปวดและความรู้สึกไม่สบายในช่องปากได้ ฟันปลอมที่ไม่พอดี จะเสียดสีกับเหงือก ทำให้เจ็บเวลาใช้งานและอาจเกิดแผลบริเวณที่ใส่ฟันปลอมได้ หากปล่อยไว้ ปัญหาจะรุนแรงขึ้นและอาจส่งผลต่อการรับประทานอาหารในผู้สูงอายุได้เลยนะครับ
สำหรับฟันปลอมชนิดถอดได้ที่ใช้งานมานานหลายปี อาจพบว่าฟันปลอมที่เคยพอดีกลับหลวม ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของเหงือกและขากรรไกร ทำให้เกิดการไม่พอดีของฟันปลอม ดังนั้น การใส่ฟันปลอมไม่ใช่ใส่แล้วจบนะครับ แต่ต้องสังเกตอยู่เสมอ จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในช่องปากตามมา นอกจากนี้ฟันปลอมที่เก่าและมีสภาพไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อราในช่องปากได้อีกด้วยนะครับ
🔴 4. ภาวะปากแห้ง เมื่ออายุมากขึ้น อาจส่งผลต่อความสามารถในการผลิตน้ำลาย นอกจากนี้โรคทางระบบบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน หรือยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาขับปัสสาวะ อาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดภาวะปากแห้งจากยาได้เช่นกันครับ
🔴
5. แผลในช่องปาก เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากการกระทบกระแทกจากฟันปลอมหรืออาหารที่แข็งหรือขอบฟันที่คม หรือเป็นแผลอักเสบในช่องปากที่มีสาเหตุจากภาวะอื่นๆ เช่น แผลร้อนใน แผลติดเชื้อ หรือโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง ซึ่งการมีแผลในช่องปาก ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษา เพราะแผลเรื้อรังในช่องปากอาจเป็นอาการแสดงของมะเร็งช่องปากได้
🔴
6. มะเร็งช่องปาก สามารถพบได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะมีลักษณะเป็นรอยขาว รอยแดง ก้อนบวมหรือแผลเรื้อรังในช่องปาก วินิจฉัยได้โดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจนะครับ
ปัญหาต่างๆ ในช่องปากของผู้สูงอายุ อาจส่งผลกระทบหลายอย่างต่อตัวผู้สูงอายุเองทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ผลกระทบโดยตรง เช่น มีผลกระทบต่อการบดเคี้ยวและการรับประทานอาหาร อาจทำให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยง่าย หากมีการสูญเสียฟันเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้ความสูงของใบหน้าลดลงเนื่องจากไม่มีฟันมารองรับ ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น พูดไม่ชัด และอาจทำให้เกิดความกังวลในการเข้าสังคมได้ครับ
การดูแลสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ
✅ 1. แปรงฟันและทำความสะอาดซอกฟันโดยใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเป็นประจำทุกวัน เพราะคราบสะสมบนฟันเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้อย่างรวดเร็ว หากละเลยสุขอนามัยในช่องปาก
✅ 2. ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคฟันผุได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาปากแห้งน้ำลายน้อย
✅ 3. พบทันตแพทย์ตามกำหนด เพื่อทำความสะอาดและตรวจช่องปาก และควรแจ้งทันตแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพร่างกาย ยาที่รับประทาน และปัญหาภายในช่องปากที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ
✅ 4. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
✅ 5. จำกัดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
✅ 6. ดูแลฟันปลอมให้ถูกวิธี ไม่ควรใส่ฟันปลอมตอนนอนและทำความสะอาดฟันปลอมด้วยการแปรงด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มกับน้ำสบู่อย่างสม่ำเสมอ
✅ 7. หมั่นสังเกตอาการภายในช่องปากของตนเอง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นให้รีบไปพบทันตแพทย์ทันที
ปัญหาสุขภาพภายในช่องปากของผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเพียงแค่หนึ่งปัญหาในช่องปาก อาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้น ผู้สูงอายุและลูกหลาน หรือผู้ดูแลควรหมั่นสังเกตอาการในช่องปาก ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากและดูแลรักษาฟันอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีความผิดปกติของช่องปากเกิดขึ้น เช่น ฟันปลอมที่ไม่พอดี มีแผล ก้อนบวมในช่องปาก มีความลำบากในการเคี้ยวหรือกลืน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้จนลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่นะครับ 😊
ปัญหาสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ
สวัสดีครับทุกคน วันนี้พี่หมอจะมาพูดเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ที่มีความสำคัญกับคนทุกๆ วัยนะครับ น้อง ๆ วัยรุ่นอาจจะยังไม่มีปัญหาอะไรมากกับเรื่องนี้ ส่วนมากก็จะสนใจในเรื่องของการจัดฟัน ฟันผุบ้าง รวมถึงปัญหากลิ่นปาก แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุ อาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกหลาย ๆ เรื่อง จะมีอะไรกันบ้าง ตามพี่หมอไปดูกันครับ
ปัญหาสุขภาพช่องปากที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ 👄👵
ปัญหาสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ คือ ภาวะที่ช่องปากของผู้สูงอายุมีโรคเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นบริเวณปาก ภายในช่องปาก ฟันหรือลิ้น เป็นต้น อาจมีได้ตั้งแต่โรคในช่องปากที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามวัย หรือโรคในช่องปากที่มีผลมาจากโรคทางระบบอื่นๆ หรือยาที่รับประทานสำหรับรักษาโรคนั้นๆ
ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุนั้นก็จะมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป เช่น การใส่ฟันปลอมที่ไม่ถูกวิธีและไม่เหมาะสม กระดูกมีความหนาแน่นและแข็งแรงน้อยลง การบริโภคเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ เช่น ชา/กาแฟ หรือการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุได้เช่นกันนะครับ โดยปัญหาสุขภาพช่องปากที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ก็จะมีประมาณนี้ครับ 👇🏻
🔴 2. ฟันผุ ในผู้สูงอายุ มักพบฟันผุได้มากที่บริเวณคอฟันและรากฟัน เนื่องจากมีการสูญเสียเหงือกและกระดูกรองรับรากฟันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภาวะปากแห้งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟันผุให้สูงขึ้น ซึ่งหากรอยผุนั้นมีการลุกลามอย่างมาก สามารถนำไปสู่การติดเชื้อในช่องปาก และการสูญเสียฟันได้
🔴 3. การสูญเสียฟัน ในผู้สูงอายุอาจเกิดการสูญเสียฟันได้จากหลายสาเหตุ จำเป็นต้องทำฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันที่เสียไป บางคนอาจคิดว่าการใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีเป็นเรื่องเล็กๆ แต่การใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีนั้น อาจก่อให้เกิดโรคภายในช่องปากได้มากกว่าที่เราคิดนะครับ ในผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ที่ไม่พอดี จะทำให้เกิดความเจ็บปวดและความรู้สึกไม่สบายในช่องปากได้ ฟันปลอมที่ไม่พอดี จะเสียดสีกับเหงือก ทำให้เจ็บเวลาใช้งานและอาจเกิดแผลบริเวณที่ใส่ฟันปลอมได้ หากปล่อยไว้ ปัญหาจะรุนแรงขึ้นและอาจส่งผลต่อการรับประทานอาหารในผู้สูงอายุได้เลยนะครับ
สำหรับฟันปลอมชนิดถอดได้ที่ใช้งานมานานหลายปี อาจพบว่าฟันปลอมที่เคยพอดีกลับหลวม ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของเหงือกและขากรรไกร ทำให้เกิดการไม่พอดีของฟันปลอม ดังนั้น การใส่ฟันปลอมไม่ใช่ใส่แล้วจบนะครับ แต่ต้องสังเกตอยู่เสมอ จะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในช่องปากตามมา นอกจากนี้ฟันปลอมที่เก่าและมีสภาพไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อราในช่องปากได้อีกด้วยนะครับ
🔴 4. ภาวะปากแห้ง เมื่ออายุมากขึ้น อาจส่งผลต่อความสามารถในการผลิตน้ำลาย นอกจากนี้โรคทางระบบบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน หรือยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาขับปัสสาวะ อาจส่งผลข้างเคียงให้เกิดภาวะปากแห้งจากยาได้เช่นกันครับ
🔴 5. แผลในช่องปาก เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากการกระทบกระแทกจากฟันปลอมหรืออาหารที่แข็งหรือขอบฟันที่คม หรือเป็นแผลอักเสบในช่องปากที่มีสาเหตุจากภาวะอื่นๆ เช่น แผลร้อนใน แผลติดเชื้อ หรือโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง ซึ่งการมีแผลในช่องปาก ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษา เพราะแผลเรื้อรังในช่องปากอาจเป็นอาการแสดงของมะเร็งช่องปากได้
🔴 6. มะเร็งช่องปาก สามารถพบได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะมีลักษณะเป็นรอยขาว รอยแดง ก้อนบวมหรือแผลเรื้อรังในช่องปาก วินิจฉัยได้โดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจนะครับ
ปัญหาต่างๆ ในช่องปากของผู้สูงอายุ อาจส่งผลกระทบหลายอย่างต่อตัวผู้สูงอายุเองทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ผลกระทบโดยตรง เช่น มีผลกระทบต่อการบดเคี้ยวและการรับประทานอาหาร อาจทำให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยง่าย หากมีการสูญเสียฟันเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้ความสูงของใบหน้าลดลงเนื่องจากไม่มีฟันมารองรับ ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น พูดไม่ชัด และอาจทำให้เกิดความกังวลในการเข้าสังคมได้ครับ
✅ 1. แปรงฟันและทำความสะอาดซอกฟันโดยใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเป็นประจำทุกวัน เพราะคราบสะสมบนฟันเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้อย่างรวดเร็ว หากละเลยสุขอนามัยในช่องปาก
✅ 2. ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคฟันผุได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาปากแห้งน้ำลายน้อย
✅ 3. พบทันตแพทย์ตามกำหนด เพื่อทำความสะอาดและตรวจช่องปาก และควรแจ้งทันตแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพร่างกาย ยาที่รับประทาน และปัญหาภายในช่องปากที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ
✅ 4. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
✅ 5. จำกัดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
✅ 6. ดูแลฟันปลอมให้ถูกวิธี ไม่ควรใส่ฟันปลอมตอนนอนและทำความสะอาดฟันปลอมด้วยการแปรงด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มกับน้ำสบู่อย่างสม่ำเสมอ
✅ 7. หมั่นสังเกตอาการภายในช่องปากของตนเอง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นให้รีบไปพบทันตแพทย์ทันที
ปัญหาสุขภาพภายในช่องปากของผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเพียงแค่หนึ่งปัญหาในช่องปาก อาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้น ผู้สูงอายุและลูกหลาน หรือผู้ดูแลควรหมั่นสังเกตอาการในช่องปาก ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากและดูแลรักษาฟันอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีความผิดปกติของช่องปากเกิดขึ้น เช่น ฟันปลอมที่ไม่พอดี มีแผล ก้อนบวมในช่องปาก มีความลำบากในการเคี้ยวหรือกลืน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้จนลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่นะครับ 😊