ทนายตั้ม โพสต์จับตาคืนนี้! จัดให้ 3 ทุ่ม เปิดคลิปลับนักการเมืองดัง!
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7001823
ทนายตั้ม โพสต์จับตาคืนนี้! จัดให้ 3 ทุ่ม เปิดคลิปลับนักการเมืองดัง! พรุ่งนี้ยังเตรียมพาอีก 5 ผู้เสียหายสาวไปแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมด้วย
จากกรณีนาย
ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กระบุมีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ มีพ่อดังระดับโลก ลวนลามหญิงสาวที่มาปรึกษาความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยไม่สมยอม มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สน.ลุมพินี แล้ว 2 ราย
ต่อมา
ทนายตั้ม เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ยังมีผู้เสียหายติดต่อและให้ข้อมูลเข้ามาจำนวนมาก โดยในวันจันทร์ที่ 18 เม.ย. เตรียมพาผู้เสียหายสาวอีก 5 รายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนักการเมืองคนดังเพิ่มเติมด้วย
ล่าสุดเพจ
ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความว่า
“คืนนี้เวลา 21.00 น. เตรียมพบกับ #ษิทราเรคคอร์ด เปิดคลิปลับนักการเมืองดัง!!”
https://www.facebook.com/sittra/posts/7228892580514392
ของแพง! แบงก์ชาติเผยธุรกิจ 16% เตรียมขึ้นราคาสินค้าระลอกใหม่
https://www.prachachat.net/finance/news-911196
แบงก์ชาติเปิดข้อมูลผลสำรวจการปรับราคาสินค้าและบริการล่าสุด เผยผู้ประกอบการธุรกิจ 27% ยอมรับปรับขึ้นราคาสินค้าไปแล้ว และอีกราว 16% มีแผนปรับราคาภายใน3เดือน เพราะเจอปัญหาต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
วันที่ 17 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยถึงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วง 2 เดือนแรก(ม.ค.-ก.พ.65) เฉลี่ยอยู่ที่4.25 %เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 2.42% ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงาน อาหารสด และอาหารสำเร็จรูป เป็นสำคัญ
โดยพบว่าสินค้าและบริการที่มีการปรับราคาสูงขึ้นมากมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น แต่ยังจำกัดอยู่ในหมวดพลังงานและหมวดอาหารเป็นหลัก
ขณะที่รายงานผลสำรวจการปรับราคาสินค้าและบริการในช่วงเดือน ก.พ. 2565 ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มเอสเอ็มอี พบว่า ผู้ประกอบการ 27% ได้มีการปรับราคาไปแล้ว ส่วนอีก 16% มีแนวโน้มจะปรับราคาในช่วง3เดือนข้างหน้าถึง 1ปี และ 57% ยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา แต่ก็ต้องติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่อาจเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงแบกรับต้นทุนไว้ แต่ก็มีแนวโน้มจะทยอยส่งผ่านต้นทุนไปสู่ผู้บริโภคมากขึ้นในระยะต่อไป โดยกลุ่มผู้ประกอบการที่คาดว่าจะทยอยปปรับราคาช่วง 3เดือนข้างหน้า จนถึงปลายปี 2565ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SME ที่แบกรับรับต้นทุนได้น้อยกว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่ง SME ส่วนมากคาดว่าจะแบกรับต้นทุนโดยไม่ปรับราคา ได้อีกเพียง 3-6เดือนเท่านั้น
โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ต้องปรับราคาคือ ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนขนส่ง หากประเมินจากประเภทธุรกิจพบว่า ธุรกิจในภาคการผลิตและการค้ามีโอกาสปรับราคาได้มากกว่าภาคบริการ
รายงานระบุว่า แม้ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาธุรกิจส่วนใหญ่คาดว่าจะยังไม่ปรับราคา สินค้าและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความสามารถใน การแบกรับต้นทุนได้มากกว่า และใช้วิธีอื่นแทน เช่น ลดโปรโมชั่น เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอาจส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคมากกว่าที่ประเมินไว้ หากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน รวมถึงปัญหา global supply disruption อาจรุนแรงกว่าที่คาด หากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนลุกลามไปประเทศอื่น ๆ หรือยืดเยื้อจนทำให้เกิดการขาดแคลนวัตถุดิบในบางหมวด
โดยคาดการณ์การปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการตามประเภทธุรกิจในปี 2565 กลุ่มที่คาดว่าปรับเพิ่มได้ทันทันภายใน1เดือน คือ กลุ่มปิโตรเคมีและพลาสติก ปรับได้ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และกลุ่มผลิตอาหาร ปรับได้ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม และกลุ่มสินค้าที่ขาดแคลน เช่น กลุ่มอาหารทะเล
สำหรับกลุ่มที่จะสามารถทะยอยปรับราคาในช่วง3-6เดือน คือกลุ่ม ชิ้นส่วนยานยนต์/อิเล็กทรอนิกส์ /เครื่องใช้ไฟฟ้า เจรจาได้ตามสัญญาซื้อขายกับซัพพลายเออร์ ทำให้ส่งผ่านราคาได้บางส่วน รวมถึงกลุ่มค้าปลีกค้าส่ง แม้กำลังซื้ออ่อนแอ แต่สินค้าอุปโภคเป็นสินค้าจำเป็นบางส่วนสามารถปรับราคาได้
ส่วนกลุ่มที่จะยังไม่สามารถปรับราคาได้ในช่วง12เดือนคือ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และจักรยานยนต์ สามารถปรับขึ้นได้เมื่อออกรุ่นใหม่ รวมถึงธุรกิจโรงแรมร้านอาหาร เนื่องจากกำลังซื้อต่ำ เน้นทำราคาปรับลดต้นทุนแรงงานคาดว่าไตรมาส4 ปีนี้จะสามารถปรับขึ้นราคาได้
ชัชชาติ ชู พระราม 2 ต้นแบบ ‘แผงลอยทางเท้า’ หนุนผู้ค้า-ปชช.จัดระเบียบหาบเร่
https://www.matichon.co.th/bkkpataya/governorbkk/news_3293051
‘ชัชชาติ’ ถีบสามล้อหาเสียงบางขุนเทียน ชูพระราม 2 ซอย 69 ต้นแบบแผงลอยอยู่ร่วมทางเท้า เสนอเพิ่มสัดส่วนผู้ค้า-ปชช.ร่วมจัดการแผงลอยทุกพื้นที่
เมื่อวันที่ 17 เมษายน นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ปั่นสามล้อถีบแจกแผ่นพับหาเสียงพื้นที่เขตบางขุนเทียน พร้อมหารือผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและวินมอเตอร์ไซค์ เสนอให้เป็นพื้นที่การค้า ถ.พระราม 2 ซอย 69 เป็น 1 ใน 3 พื้นที่ต้นแบบจัดการหาบเร่แผงลอยที่สามารถอยู่ร่วมกับพื้นที่สาธารณะได้ โดยได้เสนอเพิ่มสัดส่วนผู้ค้าแผงลอย-ประชาชนในพื้นที่ เข้าคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขต ร่วมกำหนดรูปแบบพื้นที่แผงลอยที่เหมาะสม สอดคล้องเอกลักษณ์พื้นที่ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากนั้นที่ ถนนพระราม 2 ซอย 69 นายชัชชาติได้หารือกับตัวแทนสหพันธ์ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร และตัวแทนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ถึงปัญหาและแนวทางการจัดการพื้นที่ โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า พื้นที่การค้าพระราม 2 ซอย 69 เป็น 1 ใน 3 พื้นที่แผงลอยนำร่องที่ กทม. เข้ามาจัดการเช่นเดียวกับในพื้นที่อารีย์ ซอย 1 และอ่อนนุช 77
ทั้งนี้ บริเวณปากซอย 69 ถ.พระราม 2 สามารถจัดสรรพื้นที่การค้าโดยไม่กีดขวางทางเท้า โดยตีเส้นสีขาวแบ่งพื้นที่ทางเท้ากับพื้นที่การค้า รวมทั้งพื้นที่ซุ้มรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถสามล้อถีบอย่างชัดเจน ถือเป็นต้นแบบพื้นที่แผงลอยที่อยู่ร่วมกับพื้นที่สาธารณะได้ มีประโยชน์กับประชาชนโดยรอบที่ส่วนใหญ่อาศัยในเคหะชุมชนและเป็นผู้มีรายได้น้อย
ด้านนโยบายการจัดการพื้นที่แผงลอย กทม.ควรพัฒนาการมีส่วนร่วมของของภาคประชาชน โดยพิจารณาเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขต เพื่อให้ตัวแทนผู้ค้า ตัวแทนประชาชนและตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่ มีอิสระในการกำหนดลักษณะและจำนวนแผงค้าที่เหมาะสมและเป็นระเบียบ ตามบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ จำเป็นต้องคำนึงถึงประโยชน์และความเป็นธรรมของทุกฝ่ายในพื้นที่ด้วย
“การจัดการหาบเร่แผงลอยไม่ได้มีต้นแบบเดียว เพราะแต่ละพื้นที่มีบริบทแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นต้องมีคณะกรรมการฯ เข้ามาจัดการและดูแล จริงๆ ควรดูแลผู้ค้าที่เป็นชุมชนในพื้นที่ก่อน เพราะชุมชนจะช่วยดูแลพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไม่ไกลบ้าน และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย” นาย
ชัชชาติ กล่าว
นาย
ชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขอเสนอให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงแนวทางจัดการพื้นที่แผงลอย เพิ่มการแผยแพร่ข้อมูลพื้นที่การค้าให้โปร่งใส ตั้งแต่วิธีการกำหนดลักษณะของพื้นที่ค้า จำนวนและประเภทการค้า รวมทั้งร่วมมือกับภาคเอกชนสนับสนุนการพัฒนาลักษณะร้านค้า เช่น ลักษณะสีของร้าน ร่ม ให้สอดคล้องกับที่คณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขตกำหนด เช่น พื้นที่ที่อารีย์ซอย 1 ซึ่งเป็นต้นแบบความร่วมมือจัดการระหว่างรัฐและเอกชน
ทั้งนี้ นาย
ชัชชาติ เดินหาเสียงในพื้นที่พระราม 2 ตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มต้นจากตลาดเช้าหน้าโรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา เคหะชุมชนธนบุรี ต่อเนื่องมาที่ตลาดมารวย ก่อนข้ามสะพานลอย ถ.พระราม 2 สังเกตสภาพการจราจร จากนั้นพูดคุยกับกลุ่มชมรมผู้สูงอายุเต๋าเต๋อ และพบประชาชนอีกหลายแห่งในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนา 9 มิติ เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป ปัจจุบันนาย
ชัชชาติมีนโยบายมากกว่า 200 เรื่องแล้ว
JJNY : 4in1 ทนายตั้มโพสต์3ทุ่ม เปิดคลิปลับ!│ธุรกิจ16%เตรียมขึ้นราคา│ชัชชาติชูพระราม2ต้นแบบ│มารีอูปอลไม่สนคำขาดรัสเซีย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7001823
ทนายตั้ม โพสต์จับตาคืนนี้! จัดให้ 3 ทุ่ม เปิดคลิปลับนักการเมืองดัง! พรุ่งนี้ยังเตรียมพาอีก 5 ผู้เสียหายสาวไปแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมด้วย
จากกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กระบุมีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ มีพ่อดังระดับโลก ลวนลามหญิงสาวที่มาปรึกษาความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยไม่สมยอม มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สน.ลุมพินี แล้ว 2 ราย
ต่อมา ทนายตั้ม เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ยังมีผู้เสียหายติดต่อและให้ข้อมูลเข้ามาจำนวนมาก โดยในวันจันทร์ที่ 18 เม.ย. เตรียมพาผู้เสียหายสาวอีก 5 รายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนักการเมืองคนดังเพิ่มเติมด้วย
ล่าสุดเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความว่า
“คืนนี้เวลา 21.00 น. เตรียมพบกับ #ษิทราเรคคอร์ด เปิดคลิปลับนักการเมืองดัง!!”
https://www.facebook.com/sittra/posts/7228892580514392
ของแพง! แบงก์ชาติเผยธุรกิจ 16% เตรียมขึ้นราคาสินค้าระลอกใหม่
https://www.prachachat.net/finance/news-911196
แบงก์ชาติเปิดข้อมูลผลสำรวจการปรับราคาสินค้าและบริการล่าสุด เผยผู้ประกอบการธุรกิจ 27% ยอมรับปรับขึ้นราคาสินค้าไปแล้ว และอีกราว 16% มีแผนปรับราคาภายใน3เดือน เพราะเจอปัญหาต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
วันที่ 17 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยถึงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปช่วง 2 เดือนแรก(ม.ค.-ก.พ.65) เฉลี่ยอยู่ที่4.25 %เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 2.42% ตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงาน อาหารสด และอาหารสำเร็จรูป เป็นสำคัญ
โดยพบว่าสินค้าและบริการที่มีการปรับราคาสูงขึ้นมากมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น แต่ยังจำกัดอยู่ในหมวดพลังงานและหมวดอาหารเป็นหลัก
ขณะที่รายงานผลสำรวจการปรับราคาสินค้าและบริการในช่วงเดือน ก.พ. 2565 ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มเอสเอ็มอี พบว่า ผู้ประกอบการ 27% ได้มีการปรับราคาไปแล้ว ส่วนอีก 16% มีแนวโน้มจะปรับราคาในช่วง3เดือนข้างหน้าถึง 1ปี และ 57% ยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา แต่ก็ต้องติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่อาจเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงแบกรับต้นทุนไว้ แต่ก็มีแนวโน้มจะทยอยส่งผ่านต้นทุนไปสู่ผู้บริโภคมากขึ้นในระยะต่อไป โดยกลุ่มผู้ประกอบการที่คาดว่าจะทยอยปปรับราคาช่วง 3เดือนข้างหน้า จนถึงปลายปี 2565ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจ SME ที่แบกรับรับต้นทุนได้น้อยกว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่ง SME ส่วนมากคาดว่าจะแบกรับต้นทุนโดยไม่ปรับราคา ได้อีกเพียง 3-6เดือนเท่านั้น
โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ต้องปรับราคาคือ ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนขนส่ง หากประเมินจากประเภทธุรกิจพบว่า ธุรกิจในภาคการผลิตและการค้ามีโอกาสปรับราคาได้มากกว่าภาคบริการ
รายงานระบุว่า แม้ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาธุรกิจส่วนใหญ่คาดว่าจะยังไม่ปรับราคา สินค้าและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความสามารถใน การแบกรับต้นทุนได้มากกว่า และใช้วิธีอื่นแทน เช่น ลดโปรโมชั่น เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอาจส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคมากกว่าที่ประเมินไว้ หากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน รวมถึงปัญหา global supply disruption อาจรุนแรงกว่าที่คาด หากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนลุกลามไปประเทศอื่น ๆ หรือยืดเยื้อจนทำให้เกิดการขาดแคลนวัตถุดิบในบางหมวด
โดยคาดการณ์การปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการตามประเภทธุรกิจในปี 2565 กลุ่มที่คาดว่าปรับเพิ่มได้ทันทันภายใน1เดือน คือ กลุ่มปิโตรเคมีและพลาสติก ปรับได้ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และกลุ่มผลิตอาหาร ปรับได้ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม และกลุ่มสินค้าที่ขาดแคลน เช่น กลุ่มอาหารทะเล
สำหรับกลุ่มที่จะสามารถทะยอยปรับราคาในช่วง3-6เดือน คือกลุ่ม ชิ้นส่วนยานยนต์/อิเล็กทรอนิกส์ /เครื่องใช้ไฟฟ้า เจรจาได้ตามสัญญาซื้อขายกับซัพพลายเออร์ ทำให้ส่งผ่านราคาได้บางส่วน รวมถึงกลุ่มค้าปลีกค้าส่ง แม้กำลังซื้ออ่อนแอ แต่สินค้าอุปโภคเป็นสินค้าจำเป็นบางส่วนสามารถปรับราคาได้
ส่วนกลุ่มที่จะยังไม่สามารถปรับราคาได้ในช่วง12เดือนคือ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และจักรยานยนต์ สามารถปรับขึ้นได้เมื่อออกรุ่นใหม่ รวมถึงธุรกิจโรงแรมร้านอาหาร เนื่องจากกำลังซื้อต่ำ เน้นทำราคาปรับลดต้นทุนแรงงานคาดว่าไตรมาส4 ปีนี้จะสามารถปรับขึ้นราคาได้
ชัชชาติ ชู พระราม 2 ต้นแบบ ‘แผงลอยทางเท้า’ หนุนผู้ค้า-ปชช.จัดระเบียบหาบเร่
https://www.matichon.co.th/bkkpataya/governorbkk/news_3293051
‘ชัชชาติ’ ถีบสามล้อหาเสียงบางขุนเทียน ชูพระราม 2 ซอย 69 ต้นแบบแผงลอยอยู่ร่วมทางเท้า เสนอเพิ่มสัดส่วนผู้ค้า-ปชช.ร่วมจัดการแผงลอยทุกพื้นที่
เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ปั่นสามล้อถีบแจกแผ่นพับหาเสียงพื้นที่เขตบางขุนเทียน พร้อมหารือผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและวินมอเตอร์ไซค์ เสนอให้เป็นพื้นที่การค้า ถ.พระราม 2 ซอย 69 เป็น 1 ใน 3 พื้นที่ต้นแบบจัดการหาบเร่แผงลอยที่สามารถอยู่ร่วมกับพื้นที่สาธารณะได้ โดยได้เสนอเพิ่มสัดส่วนผู้ค้าแผงลอย-ประชาชนในพื้นที่ เข้าคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขต ร่วมกำหนดรูปแบบพื้นที่แผงลอยที่เหมาะสม สอดคล้องเอกลักษณ์พื้นที่ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากนั้นที่ ถนนพระราม 2 ซอย 69 นายชัชชาติได้หารือกับตัวแทนสหพันธ์ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร และตัวแทนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ถึงปัญหาและแนวทางการจัดการพื้นที่ โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า พื้นที่การค้าพระราม 2 ซอย 69 เป็น 1 ใน 3 พื้นที่แผงลอยนำร่องที่ กทม. เข้ามาจัดการเช่นเดียวกับในพื้นที่อารีย์ ซอย 1 และอ่อนนุช 77
ทั้งนี้ บริเวณปากซอย 69 ถ.พระราม 2 สามารถจัดสรรพื้นที่การค้าโดยไม่กีดขวางทางเท้า โดยตีเส้นสีขาวแบ่งพื้นที่ทางเท้ากับพื้นที่การค้า รวมทั้งพื้นที่ซุ้มรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถสามล้อถีบอย่างชัดเจน ถือเป็นต้นแบบพื้นที่แผงลอยที่อยู่ร่วมกับพื้นที่สาธารณะได้ มีประโยชน์กับประชาชนโดยรอบที่ส่วนใหญ่อาศัยในเคหะชุมชนและเป็นผู้มีรายได้น้อย
ด้านนโยบายการจัดการพื้นที่แผงลอย กทม.ควรพัฒนาการมีส่วนร่วมของของภาคประชาชน โดยพิจารณาเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขต เพื่อให้ตัวแทนผู้ค้า ตัวแทนประชาชนและตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่ มีอิสระในการกำหนดลักษณะและจำนวนแผงค้าที่เหมาะสมและเป็นระเบียบ ตามบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ จำเป็นต้องคำนึงถึงประโยชน์และความเป็นธรรมของทุกฝ่ายในพื้นที่ด้วย
“การจัดการหาบเร่แผงลอยไม่ได้มีต้นแบบเดียว เพราะแต่ละพื้นที่มีบริบทแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นต้องมีคณะกรรมการฯ เข้ามาจัดการและดูแล จริงๆ ควรดูแลผู้ค้าที่เป็นชุมชนในพื้นที่ก่อน เพราะชุมชนจะช่วยดูแลพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไม่ไกลบ้าน และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขอเสนอให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงแนวทางจัดการพื้นที่แผงลอย เพิ่มการแผยแพร่ข้อมูลพื้นที่การค้าให้โปร่งใส ตั้งแต่วิธีการกำหนดลักษณะของพื้นที่ค้า จำนวนและประเภทการค้า รวมทั้งร่วมมือกับภาคเอกชนสนับสนุนการพัฒนาลักษณะร้านค้า เช่น ลักษณะสีของร้าน ร่ม ให้สอดคล้องกับที่คณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยระดับเขตกำหนด เช่น พื้นที่ที่อารีย์ซอย 1 ซึ่งเป็นต้นแบบความร่วมมือจัดการระหว่างรัฐและเอกชน
ทั้งนี้ นายชัชชาติ เดินหาเสียงในพื้นที่พระราม 2 ตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มต้นจากตลาดเช้าหน้าโรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา เคหะชุมชนธนบุรี ต่อเนื่องมาที่ตลาดมารวย ก่อนข้ามสะพานลอย ถ.พระราม 2 สังเกตสภาพการจราจร จากนั้นพูดคุยกับกลุ่มชมรมผู้สูงอายุเต๋าเต๋อ และพบประชาชนอีกหลายแห่งในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนา 9 มิติ เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป ปัจจุบันนายชัชชาติมีนโยบายมากกว่า 200 เรื่องแล้ว