ป่วยโควิดวันนี้ ยอดดับนิวไฮ 119 ราย ติดเชื้อยังเพิ่มต่อเนื่อง 2 หมื่นราย
https://www.matichon.co.th/covid19/news_3289932
 
 
ป่วยโควิดวันนี้ ยอดดับนิวไฮ 119 ราย ติดเชื้อยังเพิ่มต่อเนื่อง 2 หมื่นราย

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2565 ดังนี้ รวม 20,289 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 20,221 ราย

ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 68 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,769,857 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ขณะที่ หายป่วยกลับบ้าน 24,969 ราย หายป่วยสะสม 1,573,264 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 224,905 ราย และ เสียชีวิต 119 ราย ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่

จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,024 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 26 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 28.1
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดจำแนกตามรายจังหวัด พบว่า กรุงเทพมหานคร ยังคงพบการติดเชื้อใหม่มากที่สุด จำนวน 3,134 ราย
 

---

 
เหยื่อสาวโผล่แฉรองหัวหน้าพรรค โดนขังขืนใจ-ถ่ายคลิป ต้องหนีไปอยู่เมืองนอก 
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6998067
 
เหยื่อสาวโผล่แฉรองหัวหน้าพรรค โดนขังขืนใจ-ถ่ายคลิป ต้องหนีไปอยู่เมืองนอก เผยคนในวงการหุ้นทราบเรื่องกันหมด แต่ไม่มีใครทำอะไรได้
 
วันที่ 14 เม.ย.65 น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในเหยื่อที่เคยถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งลวนลาม เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า เหตุของตนเกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน ตอนเป็นนักศึกษาปริญญาตรี กำลังทำโปรเจกต์จบ โดยได้เข้าธนาคารแห่งหนึ่ง พบกับนักการเมืองคนนี้ ซึ่งมีตำแหน่งในนั้น ตนรู้สึกว่าเป็นผู้บริหารที่น่าเคารพ ทั้งยังเสนอตัวช่วยงาน จนวันนัดคุยงาน เขาอ้างว่าไม่สะดวกออกมาจากที่พัก ตนก็มองแค่ว่าต้องการทำงานให้จบเท่านั้น จึงเดินทางไป แต่เขาไม่ได้คุย เอาแต่ร้องเพลงคาราโอเกะอย่างเดียว ก่อนเข้ามากอดจูบ ตนก็ผลักออกเพราะตกใจ เขาก็ไม่ยอม ก่อนจะพุ่งเข้ามาพยายามปล้ำ จนถูกข่มขืน
 
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า จากนั้นเขาก็คุยทำนองว่า นี่ไม่ใช่การข่มขืนและบอกว่าจะคบกับตน ไม่ได้หนีไปไหน ทั้งยังอ้างพ่อตัวเองใหญ่ เป็นที่รู้จัก รัฐบาลยุคนั้นก็เคารพนับถือบุคคลคนนี้ และกำลังจะได้รับเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญขององค์กรหนึ่ง จึงเกิดความกลัว เพราะเขาพูดติดตลกทำนองว่าถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ทำให้ต้องเก็บเรื่องเงียบไว้ตลอดครึ่งปี ซึ่งตลอดเวลาขณะนั้น เขามีนิสัยค่อนข้างขี้โมโห เหมือนเป็นโรคไบโพลาร์ มีความหยาบคาย และข่มขู่มาตลอด ถ้าเขาอยากเจอต้องไปเจอ ไม่งั้นจะถูกด่าอย่างหยาบคาย ตนก็ไม่ทราบจะทำยังไง
 
น.ส.เอ เล่าอีกว่า มีวันหนึ่งเขาเรียกให้ไปหาตอนดึก ตนก็กลัว ต้องโกหกพ่อแม่ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ก่อนนั่งรถแท็กซี่ออกมา แต่ทำโทรศัพท์หล่นหายในรถและไม่ได้คืน ปรากฏว่าคืนนั้นเขาไม่ยอมให้กลับบ้าน ตนก็ขอติดต่อพ่อแม่ เขาก็ไม่ให้ และขังตนไว้ในห้องจน 17.00-18.00 น.ของอีกวัน จนพ่อแม่กังวลมาก ครอบครัวตนไม่เคยทราบเรื่องนี้เลย อ้างว่าไปหาเพื่อนเท่านั้น เพราะสมัยนั้นสังคมมองว่าการถูกข่มขืนเป็นเรื่องน่าอาย
 
อย่างไรก็ตาม ตนพยายามขอเลิกแต่ไม่เป็นผล เขาบอกว่าถ้าจะเลิกก็เลิกเอง ตนเคยให้พี่สาวเคลียร์ แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งพ่อให้ไปอยู่ออสเตรเลีย จึงจะขาดการติดต่อกับเขาไป เพราะเปลี่ยนอีเมล์และโทรศัพท์ แต่พี่สาวบอกว่าเขาเคยโทร.มาหาที่บ้านด้วย อย่างไรก็ตาม คนในวงการหุ้นทราบเรื่องเขากันหมด แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ เกรงว่าอนาคตเขาอาจมีตำแหน่งใหญ่โตได้
 
 

---

ยอดใช้จ่ายลด สะท้อนปชช.กระเป๋าแฟบ ผู้ค้าวอนรบ.ตรึงราคาของ
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/286848
 
ประเด็นราคาสินค้า มีเสียงสะท้อนที่น่าสนใจ ว่า มาวันนี้คนใช้จ่ายลดลงมาก สะท้อนยุคประชาชนกระเป๋าแฟบ แม่ค้าร้านขายของชำ เผย  ของแพงเกิน 100 บาท ก็ขายยากแล้ว

ทีมข่าวช่อง 3 ได้พูดคุยกับร้านขายของชำ ย่านพระราม 4 พบว่า ตั้งแต่ต้นปี สินค้าในร้าน ทั้งอุปโภคและบริโภคเกือบทุกตัว ปรับขึ้นราคาขายส่งไปแล้วล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะไข่ไก่ และน้ำมันพืชที่ปรับขึ้นแบบก้าวกระโดด ไข่ไก่ปรับขึ้น มากกว่า10 บาทต่อแผง ส่วนน้ำมันหนักสุดขึ้นกว่า 20 บาทต่อขวด จากขวดละ 50 กว่าบาท ตอนนี้ขายเริ่มต้นที่ขวดละ 65 จนถึง 75 บาท ส่วนกลุ่มซอสปรุงรส เครื่องดื่มผลไม้ ปรับขึ้นเฉลี่ย 1 ถึง 2 บาทต่อหน่วย จึงยังไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีก

แต่ในแง่การจับจ่าย พบว่า ลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่ค้ารายย่อย ซื้อน้อยลง ของที่มีราคาเกิน 100 บาทต่อชิ้น จะขายอยากขึ้น สะท้อนว่าขณะนี้มีเงินลดลง หรือ เรียกว่า กระเป๋าแฟบ ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ร้านค้าต้องสต๊อกสินค้าลดลงกว่า 50% และแม้ว่าจะมีโครงการคนละครึ่ง แต่ก็ไม่ช่วยกระตุ้นให้คนจ่ายได้สักเท่าไร เพราะประชาชนไม่มีเงิน โดยเห็นว่า รัฐบาลควรออกมาตรการตรึงราคาสินค้าจำเป็นควบคู่ไปด้วย

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/GfDxrkJKH0c