เลิกคิดซะเหอะเรื่องได้กลับบ้านอย่างเท่ ๆ
ฟุ้งซ่านเปล่า ๆ กลายเป็นเงื่อนไขให้ตัวเองเสียค่าเปล่า ๆ
พอเขางัดเกม "แง้มประตู" ขึ้นมาเล่นเมื่อไร
โทนี่ก็จะ "งับ" ทันที แล้วก็เสียผู้เสียคน เพราะต้องพูดจาให้เข้าหูเขา ขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเองหมดความเชื่อถือ
ไม่นานมานี้ ก็พูดเรื่อง 112 แบบไม่เข้าท่า จนต้องออกมาแก้ไขคำพูดและท่าทีในอีกสองวันต่อมา
คราวนี้ก็พูดเรื่อง "คนรุ่นใหม่ไม่รู้เรื่อง"
โทนี่ไม่รู้หรือไง ว่าคนรุ่นใหม่นั้น เขา "รู้" แค่ไหน
และโทนี่ไม่คิดหรือว่า ที่โทนี่พูดจาออกมาแบบนี้นั้น คนรุ่นใหม่เขารู้ว่าพูดเพื่อและเพราะอะไร
คนรุ่นใหม่เขาจะคิดยังไงกับโทนี่ ได้หรือเสีย ?
ประตูกลับบ้านนั้น มันปิดตายไปนานแล้ว เลิกฟุ้งซ่าน
แค่เลิกคิดเรื่องกลับ โทนี่จะพูด ให้หลักคิด ให้แนวทางในการ "คิดใหม่ทำใหม่" เพื่อบ้านเมืองเหลือคณานับ
ได้ราคาความน่าเชื่อถือ สร้างประโยชน์ ซึ่งตรงกันข้ามกับการ "รู้เขาหลอก แต่ก็ให้เขาหลอก" ที่ต้องพูดจาให้ตัวเองเสียหาย
.
ถ้าได้กลับบ้าน แล้วต้องเสแสร้ง โทนี่ยอมแลกหรือ จะมาเป็นคนแก่ไร้ราคาไปวัน ๆ สุขกับความจอมปลอมหรือ
กับการอยู่อย่างทรนง ยุคโลกไร้พรมแดน แค่คลิกก็เหมือนได้พบปะต่อหน้ากัน พูดคุยสมาคมกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ไกลก็เหมือนใกล้ ห่างก็เหมือนชิด เงินทองมีเหลือเฟือ ไม่ต้องทำอะไรเพื่อด้อยค่าตัวเองเพื่อตอบสนองความฟุ้งซ่าน
พ่อแม่อยู่อีสาน ลูกหลานทำงาน กทม. หรือปักษ์ใต้ ยังห่างไกลและพบปะุกันลำบากกว่าโทนี่พบปะครอบครัวเพื่อนฝูง
ได้พบกันอย่างมากปีละสองหน สงกรานต์กับปีใหม่ แต่โทนี่ พบกันสัปดาห์ละครั้งหรือกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา
แล้วจะมาทุกข์อะไร ต้องยอมด้อยค่าตัวเองเพื่อแลกกับอะไร ไม่ได้กลับหรอก เลิกคิด
ความฟุ้งซ่านทำให้โง่ ขาดความคิด พูดจาไม่ได้เรื่อง
เกมแง้มประตูจะเกิดทุกทีเวลาบ้านเมืองซวนเซ แล้วโทนี่ก็จะกลายเป็นเหยื่อเพื่อมาประคองสถานการณ์ให้ทุกที
พอสถานการณ์อำนาจดีขึ้น ประตูที่แง้มก็ปิด โทนี่ก็ชีช้ำ ไม่เข็ดไม่หลาบ
.
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
ตรงนี้ต่างหากที่โทนี่ควรยึดให้มั่น ไม่ใช่ต้องกลับบ้านให้ได้
เลิกทำตัวเป็นผี เพื่อปกป้องผี แลกกับความไร้สาระเถอะโทนี่
เมื่อไรโทนี่จะเลิกฟุ้งซ่าน ???
เลิกคิดซะเหอะเรื่องได้กลับบ้านอย่างเท่ ๆ
ฟุ้งซ่านเปล่า ๆ กลายเป็นเงื่อนไขให้ตัวเองเสียค่าเปล่า ๆ
พอเขางัดเกม "แง้มประตู" ขึ้นมาเล่นเมื่อไร
โทนี่ก็จะ "งับ" ทันที แล้วก็เสียผู้เสียคน เพราะต้องพูดจาให้เข้าหูเขา ขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเองหมดความเชื่อถือ
ไม่นานมานี้ ก็พูดเรื่อง 112 แบบไม่เข้าท่า จนต้องออกมาแก้ไขคำพูดและท่าทีในอีกสองวันต่อมา
คราวนี้ก็พูดเรื่อง "คนรุ่นใหม่ไม่รู้เรื่อง"
โทนี่ไม่รู้หรือไง ว่าคนรุ่นใหม่นั้น เขา "รู้" แค่ไหน
และโทนี่ไม่คิดหรือว่า ที่โทนี่พูดจาออกมาแบบนี้นั้น คนรุ่นใหม่เขารู้ว่าพูดเพื่อและเพราะอะไร
คนรุ่นใหม่เขาจะคิดยังไงกับโทนี่ ได้หรือเสีย ?
ประตูกลับบ้านนั้น มันปิดตายไปนานแล้ว เลิกฟุ้งซ่าน
แค่เลิกคิดเรื่องกลับ โทนี่จะพูด ให้หลักคิด ให้แนวทางในการ "คิดใหม่ทำใหม่" เพื่อบ้านเมืองเหลือคณานับ
ได้ราคาความน่าเชื่อถือ สร้างประโยชน์ ซึ่งตรงกันข้ามกับการ "รู้เขาหลอก แต่ก็ให้เขาหลอก" ที่ต้องพูดจาให้ตัวเองเสียหาย
กับการอยู่อย่างทรนง ยุคโลกไร้พรมแดน แค่คลิกก็เหมือนได้พบปะต่อหน้ากัน พูดคุยสมาคมกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ไกลก็เหมือนใกล้ ห่างก็เหมือนชิด เงินทองมีเหลือเฟือ ไม่ต้องทำอะไรเพื่อด้อยค่าตัวเองเพื่อตอบสนองความฟุ้งซ่าน
พ่อแม่อยู่อีสาน ลูกหลานทำงาน กทม. หรือปักษ์ใต้ ยังห่างไกลและพบปะุกันลำบากกว่าโทนี่พบปะครอบครัวเพื่อนฝูง
ได้พบกันอย่างมากปีละสองหน สงกรานต์กับปีใหม่ แต่โทนี่ พบกันสัปดาห์ละครั้งหรือกว่านั้นก็ไม่มีปัญหา
แล้วจะมาทุกข์อะไร ต้องยอมด้อยค่าตัวเองเพื่อแลกกับอะไร ไม่ได้กลับหรอก เลิกคิด
ความฟุ้งซ่านทำให้โง่ ขาดความคิด พูดจาไม่ได้เรื่อง
เกมแง้มประตูจะเกิดทุกทีเวลาบ้านเมืองซวนเซ แล้วโทนี่ก็จะกลายเป็นเหยื่อเพื่อมาประคองสถานการณ์ให้ทุกที
พอสถานการณ์อำนาจดีขึ้น ประตูที่แง้มก็ปิด โทนี่ก็ชีช้ำ ไม่เข็ดไม่หลาบ