JJNY : วิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณผ่านAR│‘เบียร์-โซดา’ขึ้นราคารอบ2│รถแห่ สงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์│เปิด5พฤติกรรมเสี่ยงติด"โควิด"

เปิดวิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณ ผ่าน AR เนื่องในวันสงกรานต์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3287191

เปิดวิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณ ผ่าน AR เนื่องในวันสงกรานต์
 
เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thaksin Shinawatra” ระบุว่า 
 
สวัสดีปีใหม่ไทย 2565 ครับ จากที่ได้เล่าถึงเทรนด์ของเทคโนโลยี AR ในปี 2022 ใน Club House ไปเมื่อวาน วันนี้ผมจึงขอนำเทคโนโลยี AR แบบง่ายๆ มาส่งคำอวยพรให้กับพี่น้องชาวไทยในวันสงกรานต์ด้วยนะครับ หลายคนที่ถามกันมาว่าเมื่อไหร่จะได้เจอผมกับนายกฯปู เทคโนโลยี AR จะทำให้เราใกล้ชิดกันขึ้นเหมือนได้อยู่ด้วยกัน

ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ผมมีความตั้งใจที่จะส่งคำอวยพรและกำลังใจให้พี่น้อง ซึ่งทุกคนสามารถเปิดรับคำอวยพรได้ทุกที่ในประเทศไทย และหากใครต้องการถ่ายรูปคู่กับผมเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็สามารถเจอกันตัวเป็นๆ ได้ด้วยการสแกน QR Code ที่อยู่บนภาพ หรือกดลิงก์นี้ได้เลย

ครับ https://webar1.ar4thais.com และในอนาคตผมกับนายกฯปูจะเอาเทคโนโลยี AR ในรูปแบบอื่นมาให้คนไทยได้ทดลองใช้อีก โปรดติดตามนะครับ
สำหรับคำอวยพรของนายทักษิณผ่าน AR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว ระบุว่า ขอให้น้ำสงกรานต์ชำระล้างความสิ้นหวัง ความหมดหวังและโรคระบาดที่เกาะกินหัวใจคนไทยให้ผ่านพ้นไป จะเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ให้ปีใหม่เป็นปีที่มีความสุขซะที

ส่วนการถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ ผ่าน AR นั้น ต้องสแกนคิวอาร์โค้ด จากนั้นจะมีภาพนายทักษิณเสมือนทะลุออกมานอกจอคอมพิวเตอร์เพื่อให้แฟนๆ ได้ถ่ายรูปคู่

https://www.facebook.com/thaksinofficial/posts/527300682093434
 


อั้นไม่ไหว! ‘เบียร์-โซดา’ ขึ้นราคารอบ 2 รับสงกรานต์ ส่วน ‘เหล็ก’ ทะลุ 30 บาทแล้ว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3286790
 
อั้นไม่ไหว! ‘เบียร์-โซดา’ ขึ้นราคารอบ 2 รับสงกรานต์ ส่วน ‘เหล็ก’ ทะลุ 30 บาทแล้ว
 
เมื่อวันที่ 12 เมษายน แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่งย่านพระราม 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตเบียร์แจ้งปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมก่อนหน้าเดือนมีนาคม 2565 เบียร์ยี่ห้อยอดนิยม ได้ปรับราคาต้นทุนขายส่งเบียร์ขวดอีก 10 บาท/ลัง (จำนวน 12 ขวด) จากเดิม 585 บาท/ลัง เป็น 595 บาท/ลัง หรือปรับขึ้นอีก 1 บาท/ขวด ส่วนเบียร์กระป๋องปรับขึ้น 10 บาท/ถาด (จำนวน 24 กระป๋อง) จาก 730 บาท/ถาด เป็น 740 บาท/ถาด หรือปรับขึ้น 50 สตางค์/กระป๋อง
 
๐ เบียร์ยี่ห้อดังทยอยขึ้นราคา
 
ล่าสุดต้นเดือนเมษายนก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ ได้มีเบียร์อีก 3 ยี่ห้อปรับราคาขึ้น โดยเบียร์ยี่ห้อนี้เคยแจ้งกับร้านค้าว่าจะตรึงราคา แต่เมื่อเจอภาวะค่าน้ำมันและค่าขนส่งสูงขึ้น และเตรียมปรับอีกในเดือนพฤษภาคม เบียร์ยี่ห้อนี้จึงแจ้งร้านค้าขอปรับราคา เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
 
โดยปรับขึ้นราคาขายปลีก ทั้งเบียร์ขวดใหญ่และขวดเล็กอีก 12 บาท/ลัง (จำนวน 12 ขวด) หรือปรับขึ้น 1 บาท/ขวด และเบียร์กระป๋องสั้นและกระป๋องยาวอีก 24 บาท/ถาด (จำนวน 24 กระป๋อง) หรือปรับขึ้น 1 บาท/กระป๋อง
ส่วนเบียร์อีก 2 ยี่ห้อ ปรับขึ้นราคาเบียร์ขวดใหญ่อีก 4 บาท/ขวด เบียร์กระป๋องอีก 3-4 บาท/กระป๋อง
 
๐ โซดา ขึ้นอีก 89 สตางค์
 
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตน้ำโซดารายใหญ่แจ้งปรับขึ้นราคาอีก 10 บาท/ถาด (จำนวน 24 ขวด) หรือปรับขึ้น 0.80 บาท/ขวด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 เช่นกัน หลังรอบแรกปรับไปแล้ว 1 บาท/ขวด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
 
“ทิศทางราคาสินค้าหลังสงกรานต์ คงมีสินค้าปรับราคาขึ้นอีกระลอก ในหลายสินค้า หากต้นทุนค่าขนส่งปรับสูงขึ้น ตอนนี้ผู้ผลิตเริ่มส่งสัญญาณมาแล้ว ขณะที่ตอนนี้ส่งสินค้าให้ร้านค้าน้อยลง อาจเพราะต้องเร่งกระจายสินค้าไปหลายพื้นที่ช่วงที่มีการหยุดยาวต่อเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ อาจมีผลต่อปริมาณสินค้าน้อยลงได้” แหล่งข่าวกล่าว
 
๐ “แท็กซี่”จี้ตรึงราคาพลังงาน
  
นายวรพล แกมขุนทด ประธานที่ปรึกษาสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เปิดเผยว่า การที่รัฐจะเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่มากขึ้นเพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขณะที่ค่าโดยสารก็ปรับขึ้นไม่ได้ ซ้ำเติมธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อยอยู่แล้ว จะทำให้แท็กซี่หายไปจากระบบมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 40,000 คัน
 
“คนขับแท็กซี่มีรายได้วันละ 1,500 บาท ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย มีค่าน้ำมันวันละ 650 บาท ค่างวดรถที่ต้องผ่อนวันละ 750 บาท เหลือเงินวันละ 100 บาท ต้องมาเจอค่าน้ำมันดีเซลลอยตัวอีก และเดือนมิถุนายนนี้จะสิ้นสุดมาตรการที่รัฐตรึงราคาค่าก๊าซ NGV และ LPG ยิ่งเดือดร้อนหนัก หลังสงกรานต์นี้สมาคมจะขอทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานขอตรึงราคาพลังงานออกไปอีก” นายวรพลกล่าว
 
๐ ราคาเหล็กทะลุ30บาท
 
นางจรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าเหล็ก กล่าวถึงกรณีรัฐลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล จะกระทบต่อต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้ราคาขายเหล็กในประเทศปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย จากปัจจุบันราคาเหล็กเส้นปรับขึ้นจากเดิม 29 บาท/กิโลกรัม ทะลุ 30 บาท/กิโลกรัมแล้ว และเหล็กรูปพรรณจากเดิมราคา 35-36 บาท/กิโลกรัม มาอยู่ที่ 37-38 บาท/กิโลกรัม และหลังสงกรานต์คาดว่าราคาน่าจะปรับขึ้นอีก
 

 
เสียงสะท้อนรถแห่ สงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์ ศิลปินสาวเปิดใจ วอนรัฐกำหนดให้ชัด ทำยังไงถึงแสดงได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6996028

เสียงสะท้อนรถแห่ วันสงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์ เปิดใจศิลปินสาว โควิดทำพิษ นักร้อง-นักดนตรี หันหลังไปทำอาชีพอื่น วอนรัฐกำหนดมาตรการให้ชัด ทำอย่างไรถึงแสดงได้
 
วันที่ 13 เม.ย.65 น.ส.ภัคจิราพร จันทรักษ์ หรือ “มิ้น” นักร้องสาวประจำรถแห่ศิลปินอีสาน วัย 28 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ในยุคเริ่มแรกของการเข้าสู่วงการศิลปินรถแห่ ราวๆ 4 ปีที่ผ่านมา เป็นยุคที่ธุรกิจรถแห่เฟื่องฟูอย่างมาก ในแต่ละเดือนมีงานว่าจ้างเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 งาน บางวันมีงานว่าจ้าง 2-3 งาน โดยเฉพาะช่วงออกพรรษา ที่จะมีการจ้างงานให้เป็นไปเล่นตามงานบุญต่างๆ ทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง
 
ทำให้ทั้งนักร้อง นักดนตรี รวมทั้งทีมงานรถแห่ ต่างมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี เฉพาะตนเองที่ทำหน้าที่เป็นนักร้อง เวลาออกทัวร์ไปทำการแสดงแต่ละครั้งมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30,000 – 40,000 บาท เรียกได้ว่า ทีมงานที่ออกไปทัวร์ด้วยกันกว่า 10 ชีวิต ต่างลืมตาอ้าปากได้ บ้านพักชั่วคราวที่หัวหน้าสำนักงานฯ สร้างไว้ให้นักร้อง นักดนตรีได้พักภายในสำนักงาน ต่างคึกคัก ทีมงานทุกคนต่างซักซ้อมดนตรีของคนเองด้วยความสุขและรอยยิ้ม เพื่อเตรียมพร้อมออกไปแสดงฝีมือของตนเองให้ประทับใจเจ้าภาพที่ว่าจ้าง
 
แต่แล้วทุกอย่างที่เคยสวยงาม ก็ค่อยๆ ลดลง เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสควิด-19 งานว่าจ้างที่เคยมีจนแน่นตารางคิวงาน ก็ค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ จนวันนี้ไม่เหลือแม้แต่งานเดียว ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ แทบจำไม่ได้ว่าตัวเองจับไมค์ร้องเพลงบนรถแห่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะนานมากแล้ว โดยตั้งแต่ที่โควิด-19 ระบาด เราถูกเจ้าภาพเลื่อนงานออกไปโดยไม่มีกำหนด หนักสุดคือ ถูกเจ้าภาพขอยกเลิกงานทั้งที่มีการทำสัญญาว่าจ้างเอาไว้แล้ว มีเหตุการณ์หนึ่งที่ตัวเองและทีมงานจำได้มาจนถึงวันนี้
 
ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนยังจุกในใจทุกครั้งที่พูดถึง คือ ทีมงานเราได้รับการว่าจ้างให้ไปทำการแสดงในงานอุปสมบทงานหนึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พอไปถึงงานเจ้าภาพก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี หาข้าวหาน้ำเลี้ยงทีมงานรถแห่ตามปกติ และทีมนักดนตรีก็ซาวน์เช็คระบบเครื่องเสียงรถแห่เตรียมพร้อมทำการแสดง แต่พอถึงช่วงจะทำการแสดง เราได้รับแจ้งจากเจ้าภาพว่า ไม่สามารถให้ทำการแสดงได้ เพราะผู้นำชุมชนไม่อนุญาต เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
 
เราก็พยายามสอบถามและให้เจ้าภาพช่วยหาทางให้ทีมงานได้ทำการแสดง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าวันนั้นเราจะได้เล่น แต่ขณะกำลังจะเริ่มเล่น จู่ๆ ก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งเข้ามาจอดหน้ารถแห่ พร้อมกับบอกเราว่า หากทำการแสดง ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
ท้ายที่สุดวันนั้น ทีมงานเราต้องขับรถแห่กลับมาสำนักงาน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง มีเพียงค่าน้ำมันที่เจ้าภาพมอบให้ ยังจำได้ว่าวันที่นั่งรถกลับมาสำนักงานบรรยากาศบนรถแห่เงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
 
น.ส.ภัคจิราพร เล่าอีกว่า นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ที่ไม่มีงานว่าจ้าง นักดนตรีและทีมงานหลายคน ต่างพากันหันไปประกอบอาชีพอื่นเพื่อเอาตัวรอด นักดนตรีที่เคยจับกีต้าร์ต้องหันไปแบกถังก๊าซหุงต้มส่งตามบ้านลูกค้า บ้านพักนักร้องนักดนตรีในสำนักงานที่เคยคึกคักเวลาที่ทีมงานล้อมวงกันซักซ้อมดนตรีก็กลายเป็นเงียบเหงา เพราะไม่มีงานมานานเกือบครึ่งปีแล้ว
 
หนักสุดจนหัวหน้าสำนักงานฯ ต้องจำใจขายรถแห่ ขนาด 6 ล้อไป เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในสำนักงาน เหลือเพียงรถแห่ ขนาด 10 ล้อ คันเดียวที่จอดนิ่งสนิทอยู่ใต้โดมหลังคา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รถแห่คันนี้จะมีโอกาสได้ออกไปโลดแล่น พานักร้องและนักดนตรี สร้างความสนุกสนานให้กับลูกค้าได้อีกครั้ง หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยินเสียงเรา อยากให้หาทางช่วยเหลือเราด้วย เราไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา แต่เราต้องการทางออกหรือมาตรการที่ให้เราสามารถกลับมาทำอาชีพที่เรารักได้

นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราถือเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มแรกๆ ที่ถูกจำกัดไม่ให้ทำอาชีพของเรา และดูเหมือนว่า เราจะเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับอนุญาตให้กลับมาทำอาชีพของเราตามปกติได้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หากหน่วยงานภาครัฐได้ยินเสียงเรา เราอยากให้รับรู้ว่า เราไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา แต่เราต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการให้เราสามารถกลับมาทำอาชีพของเราได้
 
อยากให้กำหนดมาเป็นข้อๆ ว่าหากเจ้าภาพว่าจ้างเราไปทำการแสดง จะต้องปฏิบัติอย่างไร เช่น ทำการแสดงได้ แต่ห้ามเคลื่อนรถ หรือ จำกัดคนเข้าชม รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ซึ่งเราพร้อมปฏิบัติตาม และเชื่อว่าพี่น้องชาวรถแห่ทุกคนก็พร้อมปฏิบัติตาม เพราะวันนี้นานมากแล้ว ที่อาชีพของเราถูกลืม และไม่มีหน่วยงานไหนลงมาช่วยเหลือเรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่