เปิดวิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณ ผ่าน AR เนื่องในวันสงกรานต์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3287191
เปิดวิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณ ผ่าน AR เนื่องในวันสงกรานต์
เมื่อวันที่ 13 เมษายน นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thaksin Shinawatra” ระบุว่า
สวัสดีปีใหม่ไทย 2565 ครับ จากที่ได้เล่าถึงเทรนด์ของเทคโนโลยี AR ในปี 2022 ใน Club House ไปเมื่อวาน วันนี้ผมจึงขอนำเทคโนโลยี AR แบบง่ายๆ มาส่งคำอวยพรให้กับพี่น้องชาวไทยในวันสงกรานต์ด้วยนะครับ หลายคนที่ถามกันมาว่าเมื่อไหร่จะได้เจอผมกับนายกฯปู เทคโนโลยี AR จะทำให้เราใกล้ชิดกันขึ้นเหมือนได้อยู่ด้วยกัน
ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ผมมีความตั้งใจที่จะส่งคำอวยพรและกำลังใจให้พี่น้อง ซึ่งทุกคนสามารถเปิดรับคำอวยพรได้ทุกที่ในประเทศไทย และหากใครต้องการถ่ายรูปคู่กับผมเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็สามารถเจอกันตัวเป็นๆ ได้ด้วยการสแกน QR Code ที่อยู่บนภาพ หรือกดลิงก์นี้ได้เลย
ครับ https://webar1.ar4thais.com และในอนาคตผมกับนายกฯปูจะเอาเทคโนโลยี AR ในรูปแบบอื่นมาให้คนไทยได้ทดลองใช้อีก โปรดติดตามนะครับ
สำหรับคำอวยพรของนายทักษิณผ่าน AR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว ระบุว่า ขอให้น้ำสงกรานต์ชำระล้างความสิ้นหวัง ความหมดหวังและโรคระบาดที่เกาะกินหัวใจคนไทยให้ผ่านพ้นไป จะเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ให้ปีใหม่เป็นปีที่มีความสุขซะที
ส่วนการถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ ผ่าน AR นั้น ต้องสแกนคิวอาร์โค้ด จากนั้นจะมีภาพนาย
ทักษิณเสมือนทะลุออกมานอกจอคอมพิวเตอร์เพื่อให้แฟนๆ ได้ถ่ายรูปคู่
https://www.facebook.com/thaksinofficial/posts/527300682093434
อั้นไม่ไหว! ‘เบียร์-โซดา’ ขึ้นราคารอบ 2 รับสงกรานต์ ส่วน ‘เหล็ก’ ทะลุ 30 บาทแล้ว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3286790
อั้นไม่ไหว! ‘เบียร์-โซดา’ ขึ้นราคารอบ 2 รับสงกรานต์ ส่วน ‘เหล็ก’ ทะลุ 30 บาทแล้ว
เมื่อวันที่ 12 เมษายน แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่งย่านพระราม 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตเบียร์แจ้งปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมก่อนหน้าเดือนมีนาคม 2565 เบียร์ยี่ห้อยอดนิยม ได้ปรับราคาต้นทุนขายส่งเบียร์ขวดอีก 10 บาท/ลัง (จำนวน 12 ขวด) จากเดิม 585 บาท/ลัง เป็น 595 บาท/ลัง หรือปรับขึ้นอีก 1 บาท/ขวด ส่วนเบียร์กระป๋องปรับขึ้น 10 บาท/ถาด (จำนวน 24 กระป๋อง) จาก 730 บาท/ถาด เป็น 740 บาท/ถาด หรือปรับขึ้น 50 สตางค์/กระป๋อง
๐ เบียร์ยี่ห้อดังทยอยขึ้นราคา
ล่าสุดต้นเดือนเมษายนก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ ได้มีเบียร์อีก 3 ยี่ห้อปรับราคาขึ้น โดยเบียร์ยี่ห้อนี้เคยแจ้งกับร้านค้าว่าจะตรึงราคา แต่เมื่อเจอภาวะค่าน้ำมันและค่าขนส่งสูงขึ้น และเตรียมปรับอีกในเดือนพฤษภาคม เบียร์ยี่ห้อนี้จึงแจ้งร้านค้าขอปรับราคา เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
โดยปรับขึ้นราคาขายปลีก ทั้งเบียร์ขวดใหญ่และขวดเล็กอีก 12 บาท/ลัง (จำนวน 12 ขวด) หรือปรับขึ้น 1 บาท/ขวด และเบียร์กระป๋องสั้นและกระป๋องยาวอีก 24 บาท/ถาด (จำนวน 24 กระป๋อง) หรือปรับขึ้น 1 บาท/กระป๋อง
ส่วนเบียร์อีก 2 ยี่ห้อ ปรับขึ้นราคาเบียร์ขวดใหญ่อีก 4 บาท/ขวด เบียร์กระป๋องอีก 3-4 บาท/กระป๋อง
๐ โซดา ขึ้นอีก 89 สตางค์
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตน้ำโซดารายใหญ่แจ้งปรับขึ้นราคาอีก 10 บาท/ถาด (จำนวน 24 ขวด) หรือปรับขึ้น 0.80 บาท/ขวด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 เช่นกัน หลังรอบแรกปรับไปแล้ว 1 บาท/ขวด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
“ทิศทางราคาสินค้าหลังสงกรานต์ คงมีสินค้าปรับราคาขึ้นอีกระลอก ในหลายสินค้า หากต้นทุนค่าขนส่งปรับสูงขึ้น ตอนนี้ผู้ผลิตเริ่มส่งสัญญาณมาแล้ว ขณะที่ตอนนี้ส่งสินค้าให้ร้านค้าน้อยลง อาจเพราะต้องเร่งกระจายสินค้าไปหลายพื้นที่ช่วงที่มีการหยุดยาวต่อเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ อาจมีผลต่อปริมาณสินค้าน้อยลงได้” แหล่งข่าวกล่าว
๐ “แท็กซี่”จี้ตรึงราคาพลังงาน
นาย
วรพล แกมขุนทด ประธานที่ปรึกษาสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เปิดเผยว่า การที่รัฐจะเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่มากขึ้นเพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขณะที่ค่าโดยสารก็ปรับขึ้นไม่ได้ ซ้ำเติมธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อยอยู่แล้ว จะทำให้แท็กซี่หายไปจากระบบมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 40,000 คัน
“คนขับแท็กซี่มีรายได้วันละ 1,500 บาท ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย มีค่าน้ำมันวันละ 650 บาท ค่างวดรถที่ต้องผ่อนวันละ 750 บาท เหลือเงินวันละ 100 บาท ต้องมาเจอค่าน้ำมันดีเซลลอยตัวอีก และเดือนมิถุนายนนี้จะสิ้นสุดมาตรการที่รัฐตรึงราคาค่าก๊าซ NGV และ LPG ยิ่งเดือดร้อนหนัก หลังสงกรานต์นี้สมาคมจะขอทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานขอตรึงราคาพลังงานออกไปอีก” นายวรพลกล่าว
๐ ราคาเหล็กทะลุ30บาท
นาง
จรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าเหล็ก กล่าวถึงกรณีรัฐลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล จะกระทบต่อต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้ราคาขายเหล็กในประเทศปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย จากปัจจุบันราคาเหล็กเส้นปรับขึ้นจากเดิม 29 บาท/กิโลกรัม ทะลุ 30 บาท/กิโลกรัมแล้ว และเหล็กรูปพรรณจากเดิมราคา 35-36 บาท/กิโลกรัม มาอยู่ที่ 37-38 บาท/กิโลกรัม และหลังสงกรานต์คาดว่าราคาน่าจะปรับขึ้นอีก
เสียงสะท้อนรถแห่ สงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์ ศิลปินสาวเปิดใจ วอนรัฐกำหนดให้ชัด ทำยังไงถึงแสดงได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6996028
เสียงสะท้อนรถแห่ วันสงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์ เปิดใจศิลปินสาว โควิดทำพิษ นักร้อง-นักดนตรี หันหลังไปทำอาชีพอื่น วอนรัฐกำหนดมาตรการให้ชัด ทำอย่างไรถึงแสดงได้
วันที่ 13 เม.ย.65 น.ส.
ภัคจิราพร จันทรักษ์ หรือ “
มิ้น” นักร้องสาวประจำรถแห่ศิลปินอีสาน วัย 28 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ในยุคเริ่มแรกของการเข้าสู่วงการศิลปินรถแห่ ราวๆ 4 ปีที่ผ่านมา เป็นยุคที่ธุรกิจรถแห่เฟื่องฟูอย่างมาก ในแต่ละเดือนมีงานว่าจ้างเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 งาน บางวันมีงานว่าจ้าง 2-3 งาน โดยเฉพาะช่วงออกพรรษา ที่จะมีการจ้างงานให้เป็นไปเล่นตามงานบุญต่างๆ ทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง
ทำให้ทั้งนักร้อง นักดนตรี รวมทั้งทีมงานรถแห่ ต่างมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี เฉพาะตนเองที่ทำหน้าที่เป็นนักร้อง เวลาออกทัวร์ไปทำการแสดงแต่ละครั้งมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30,000 – 40,000 บาท เรียกได้ว่า ทีมงานที่ออกไปทัวร์ด้วยกันกว่า 10 ชีวิต ต่างลืมตาอ้าปากได้ บ้านพักชั่วคราวที่หัวหน้าสำนักงานฯ สร้างไว้ให้นักร้อง นักดนตรีได้พักภายในสำนักงาน ต่างคึกคัก ทีมงานทุกคนต่างซักซ้อมดนตรีของคนเองด้วยความสุขและรอยยิ้ม เพื่อเตรียมพร้อมออกไปแสดงฝีมือของตนเองให้ประทับใจเจ้าภาพที่ว่าจ้าง
แต่แล้วทุกอย่างที่เคยสวยงาม ก็ค่อยๆ ลดลง เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสควิด-19 งานว่าจ้างที่เคยมีจนแน่นตารางคิวงาน ก็ค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ จนวันนี้ไม่เหลือแม้แต่งานเดียว ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ แทบจำไม่ได้ว่าตัวเองจับไมค์ร้องเพลงบนรถแห่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะนานมากแล้ว โดยตั้งแต่ที่โควิด-19 ระบาด เราถูกเจ้าภาพเลื่อนงานออกไปโดยไม่มีกำหนด หนักสุดคือ ถูกเจ้าภาพขอยกเลิกงานทั้งที่มีการทำสัญญาว่าจ้างเอาไว้แล้ว มีเหตุการณ์หนึ่งที่ตัวเองและทีมงานจำได้มาจนถึงวันนี้
ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนยังจุกในใจทุกครั้งที่พูดถึง คือ ทีมงานเราได้รับการว่าจ้างให้ไปทำการแสดงในงานอุปสมบทงานหนึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พอไปถึงงานเจ้าภาพก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี หาข้าวหาน้ำเลี้ยงทีมงานรถแห่ตามปกติ และทีมนักดนตรีก็ซาวน์เช็คระบบเครื่องเสียงรถแห่เตรียมพร้อมทำการแสดง แต่พอถึงช่วงจะทำการแสดง เราได้รับแจ้งจากเจ้าภาพว่า ไม่สามารถให้ทำการแสดงได้ เพราะผู้นำชุมชนไม่อนุญาต เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
เราก็พยายามสอบถามและให้เจ้าภาพช่วยหาทางให้ทีมงานได้ทำการแสดง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าวันนั้นเราจะได้เล่น แต่ขณะกำลังจะเริ่มเล่น จู่ๆ ก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งเข้ามาจอดหน้ารถแห่ พร้อมกับบอกเราว่า หากทำการแสดง ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ท้ายที่สุดวันนั้น ทีมงานเราต้องขับรถแห่กลับมาสำนักงาน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง มีเพียงค่าน้ำมันที่เจ้าภาพมอบให้ ยังจำได้ว่าวันที่นั่งรถกลับมาสำนักงานบรรยากาศบนรถแห่เงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
น.ส.
ภัคจิราพร เล่าอีกว่า นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ที่ไม่มีงานว่าจ้าง นักดนตรีและทีมงานหลายคน ต่างพากันหันไปประกอบอาชีพอื่นเพื่อเอาตัวรอด นักดนตรีที่เคยจับกีต้าร์ต้องหันไปแบกถังก๊าซหุงต้มส่งตามบ้านลูกค้า บ้านพักนักร้องนักดนตรีในสำนักงานที่เคยคึกคักเวลาที่ทีมงานล้อมวงกันซักซ้อมดนตรีก็กลายเป็นเงียบเหงา เพราะไม่มีงานมานานเกือบครึ่งปีแล้ว
หนักสุดจนหัวหน้าสำนักงานฯ ต้องจำใจขายรถแห่ ขนาด 6 ล้อไป เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในสำนักงาน เหลือเพียงรถแห่ ขนาด 10 ล้อ คันเดียวที่จอดนิ่งสนิทอยู่ใต้โดมหลังคา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รถแห่คันนี้จะมีโอกาสได้ออกไปโลดแล่น พานักร้องและนักดนตรี สร้างความสนุกสนานให้กับลูกค้าได้อีกครั้ง หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยินเสียงเรา อยากให้หาทางช่วยเหลือเราด้วย เราไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา แต่เราต้องการทางออกหรือมาตรการที่ให้เราสามารถกลับมาทำอาชีพที่เรารักได้
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราถือเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มแรกๆ ที่ถูกจำกัดไม่ให้ทำอาชีพของเรา และดูเหมือนว่า เราจะเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับอนุญาตให้กลับมาทำอาชีพของเราตามปกติได้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หากหน่วยงานภาครัฐได้ยินเสียงเรา เราอยากให้รับรู้ว่า เราไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา แต่เราต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการให้เราสามารถกลับมาทำอาชีพของเราได้
อยากให้กำหนดมาเป็นข้อๆ ว่าหากเจ้าภาพว่าจ้างเราไปทำการแสดง จะต้องปฏิบัติอย่างไร เช่น ทำการแสดงได้ แต่ห้ามเคลื่อนรถ หรือ จำกัดคนเข้าชม รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ซึ่งเราพร้อมปฏิบัติตาม และเชื่อว่าพี่น้องชาวรถแห่ทุกคนก็พร้อมปฏิบัติตาม เพราะวันนี้นานมากแล้ว ที่อาชีพของเราถูกลืม และไม่มีหน่วยงานไหนลงมาช่วยเหลือเรา
JJNY : วิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณผ่านAR│‘เบียร์-โซดา’ขึ้นราคารอบ2│รถแห่ สงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์│เปิด5พฤติกรรมเสี่ยงติด"โควิด"
https://www.matichon.co.th/politics/news_3287191
เปิดวิธีถ่ายรูปคู่ทักษิณ ผ่าน AR เนื่องในวันสงกรานต์
เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thaksin Shinawatra” ระบุว่า
สวัสดีปีใหม่ไทย 2565 ครับ จากที่ได้เล่าถึงเทรนด์ของเทคโนโลยี AR ในปี 2022 ใน Club House ไปเมื่อวาน วันนี้ผมจึงขอนำเทคโนโลยี AR แบบง่ายๆ มาส่งคำอวยพรให้กับพี่น้องชาวไทยในวันสงกรานต์ด้วยนะครับ หลายคนที่ถามกันมาว่าเมื่อไหร่จะได้เจอผมกับนายกฯปู เทคโนโลยี AR จะทำให้เราใกล้ชิดกันขึ้นเหมือนได้อยู่ด้วยกัน
ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ผมมีความตั้งใจที่จะส่งคำอวยพรและกำลังใจให้พี่น้อง ซึ่งทุกคนสามารถเปิดรับคำอวยพรได้ทุกที่ในประเทศไทย และหากใครต้องการถ่ายรูปคู่กับผมเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็สามารถเจอกันตัวเป็นๆ ได้ด้วยการสแกน QR Code ที่อยู่บนภาพ หรือกดลิงก์นี้ได้เลย
ครับ https://webar1.ar4thais.com และในอนาคตผมกับนายกฯปูจะเอาเทคโนโลยี AR ในรูปแบบอื่นมาให้คนไทยได้ทดลองใช้อีก โปรดติดตามนะครับ
สำหรับคำอวยพรของนายทักษิณผ่าน AR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว ระบุว่า ขอให้น้ำสงกรานต์ชำระล้างความสิ้นหวัง ความหมดหวังและโรคระบาดที่เกาะกินหัวใจคนไทยให้ผ่านพ้นไป จะเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ให้ปีใหม่เป็นปีที่มีความสุขซะที
ส่วนการถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ ผ่าน AR นั้น ต้องสแกนคิวอาร์โค้ด จากนั้นจะมีภาพนายทักษิณเสมือนทะลุออกมานอกจอคอมพิวเตอร์เพื่อให้แฟนๆ ได้ถ่ายรูปคู่
https://www.facebook.com/thaksinofficial/posts/527300682093434
อั้นไม่ไหว! ‘เบียร์-โซดา’ ขึ้นราคารอบ 2 รับสงกรานต์ ส่วน ‘เหล็ก’ ทะลุ 30 บาทแล้ว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3286790
อั้นไม่ไหว! ‘เบียร์-โซดา’ ขึ้นราคารอบ 2 รับสงกรานต์ ส่วน ‘เหล็ก’ ทะลุ 30 บาทแล้ว
เมื่อวันที่ 12 เมษายน แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกค้าส่งย่านพระราม 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตเบียร์แจ้งปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมก่อนหน้าเดือนมีนาคม 2565 เบียร์ยี่ห้อยอดนิยม ได้ปรับราคาต้นทุนขายส่งเบียร์ขวดอีก 10 บาท/ลัง (จำนวน 12 ขวด) จากเดิม 585 บาท/ลัง เป็น 595 บาท/ลัง หรือปรับขึ้นอีก 1 บาท/ขวด ส่วนเบียร์กระป๋องปรับขึ้น 10 บาท/ถาด (จำนวน 24 กระป๋อง) จาก 730 บาท/ถาด เป็น 740 บาท/ถาด หรือปรับขึ้น 50 สตางค์/กระป๋อง
๐ เบียร์ยี่ห้อดังทยอยขึ้นราคา
ล่าสุดต้นเดือนเมษายนก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ ได้มีเบียร์อีก 3 ยี่ห้อปรับราคาขึ้น โดยเบียร์ยี่ห้อนี้เคยแจ้งกับร้านค้าว่าจะตรึงราคา แต่เมื่อเจอภาวะค่าน้ำมันและค่าขนส่งสูงขึ้น และเตรียมปรับอีกในเดือนพฤษภาคม เบียร์ยี่ห้อนี้จึงแจ้งร้านค้าขอปรับราคา เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
โดยปรับขึ้นราคาขายปลีก ทั้งเบียร์ขวดใหญ่และขวดเล็กอีก 12 บาท/ลัง (จำนวน 12 ขวด) หรือปรับขึ้น 1 บาท/ขวด และเบียร์กระป๋องสั้นและกระป๋องยาวอีก 24 บาท/ถาด (จำนวน 24 กระป๋อง) หรือปรับขึ้น 1 บาท/กระป๋อง
ส่วนเบียร์อีก 2 ยี่ห้อ ปรับขึ้นราคาเบียร์ขวดใหญ่อีก 4 บาท/ขวด เบียร์กระป๋องอีก 3-4 บาท/กระป๋อง
๐ โซดา ขึ้นอีก 89 สตางค์
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตน้ำโซดารายใหญ่แจ้งปรับขึ้นราคาอีก 10 บาท/ถาด (จำนวน 24 ขวด) หรือปรับขึ้น 0.80 บาท/ขวด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 เช่นกัน หลังรอบแรกปรับไปแล้ว 1 บาท/ขวด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
“ทิศทางราคาสินค้าหลังสงกรานต์ คงมีสินค้าปรับราคาขึ้นอีกระลอก ในหลายสินค้า หากต้นทุนค่าขนส่งปรับสูงขึ้น ตอนนี้ผู้ผลิตเริ่มส่งสัญญาณมาแล้ว ขณะที่ตอนนี้ส่งสินค้าให้ร้านค้าน้อยลง อาจเพราะต้องเร่งกระจายสินค้าไปหลายพื้นที่ช่วงที่มีการหยุดยาวต่อเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ อาจมีผลต่อปริมาณสินค้าน้อยลงได้” แหล่งข่าวกล่าว
๐ “แท็กซี่”จี้ตรึงราคาพลังงาน
นายวรพล แกมขุนทด ประธานที่ปรึกษาสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เปิดเผยว่า การที่รัฐจะเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่มากขึ้นเพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขณะที่ค่าโดยสารก็ปรับขึ้นไม่ได้ ซ้ำเติมธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อยอยู่แล้ว จะทำให้แท็กซี่หายไปจากระบบมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 40,000 คัน
“คนขับแท็กซี่มีรายได้วันละ 1,500 บาท ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย มีค่าน้ำมันวันละ 650 บาท ค่างวดรถที่ต้องผ่อนวันละ 750 บาท เหลือเงินวันละ 100 บาท ต้องมาเจอค่าน้ำมันดีเซลลอยตัวอีก และเดือนมิถุนายนนี้จะสิ้นสุดมาตรการที่รัฐตรึงราคาค่าก๊าซ NGV และ LPG ยิ่งเดือดร้อนหนัก หลังสงกรานต์นี้สมาคมจะขอทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานขอตรึงราคาพลังงานออกไปอีก” นายวรพลกล่าว
๐ ราคาเหล็กทะลุ30บาท
นางจรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าเหล็ก กล่าวถึงกรณีรัฐลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล จะกระทบต่อต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้ราคาขายเหล็กในประเทศปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย จากปัจจุบันราคาเหล็กเส้นปรับขึ้นจากเดิม 29 บาท/กิโลกรัม ทะลุ 30 บาท/กิโลกรัมแล้ว และเหล็กรูปพรรณจากเดิมราคา 35-36 บาท/กิโลกรัม มาอยู่ที่ 37-38 บาท/กิโลกรัม และหลังสงกรานต์คาดว่าราคาน่าจะปรับขึ้นอีก
เสียงสะท้อนรถแห่ สงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์ ศิลปินสาวเปิดใจ วอนรัฐกำหนดให้ชัด ทำยังไงถึงแสดงได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6996028
เสียงสะท้อนรถแห่ วันสงกรานต์คิวงานเป็นศูนย์ เปิดใจศิลปินสาว โควิดทำพิษ นักร้อง-นักดนตรี หันหลังไปทำอาชีพอื่น วอนรัฐกำหนดมาตรการให้ชัด ทำอย่างไรถึงแสดงได้
วันที่ 13 เม.ย.65 น.ส.ภัคจิราพร จันทรักษ์ หรือ “มิ้น” นักร้องสาวประจำรถแห่ศิลปินอีสาน วัย 28 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ในยุคเริ่มแรกของการเข้าสู่วงการศิลปินรถแห่ ราวๆ 4 ปีที่ผ่านมา เป็นยุคที่ธุรกิจรถแห่เฟื่องฟูอย่างมาก ในแต่ละเดือนมีงานว่าจ้างเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 งาน บางวันมีงานว่าจ้าง 2-3 งาน โดยเฉพาะช่วงออกพรรษา ที่จะมีการจ้างงานให้เป็นไปเล่นตามงานบุญต่างๆ ทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง
ทำให้ทั้งนักร้อง นักดนตรี รวมทั้งทีมงานรถแห่ ต่างมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี เฉพาะตนเองที่ทำหน้าที่เป็นนักร้อง เวลาออกทัวร์ไปทำการแสดงแต่ละครั้งมีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30,000 – 40,000 บาท เรียกได้ว่า ทีมงานที่ออกไปทัวร์ด้วยกันกว่า 10 ชีวิต ต่างลืมตาอ้าปากได้ บ้านพักชั่วคราวที่หัวหน้าสำนักงานฯ สร้างไว้ให้นักร้อง นักดนตรีได้พักภายในสำนักงาน ต่างคึกคัก ทีมงานทุกคนต่างซักซ้อมดนตรีของคนเองด้วยความสุขและรอยยิ้ม เพื่อเตรียมพร้อมออกไปแสดงฝีมือของตนเองให้ประทับใจเจ้าภาพที่ว่าจ้าง
แต่แล้วทุกอย่างที่เคยสวยงาม ก็ค่อยๆ ลดลง เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสควิด-19 งานว่าจ้างที่เคยมีจนแน่นตารางคิวงาน ก็ค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ จนวันนี้ไม่เหลือแม้แต่งานเดียว ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ แทบจำไม่ได้ว่าตัวเองจับไมค์ร้องเพลงบนรถแห่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะนานมากแล้ว โดยตั้งแต่ที่โควิด-19 ระบาด เราถูกเจ้าภาพเลื่อนงานออกไปโดยไม่มีกำหนด หนักสุดคือ ถูกเจ้าภาพขอยกเลิกงานทั้งที่มีการทำสัญญาว่าจ้างเอาไว้แล้ว มีเหตุการณ์หนึ่งที่ตัวเองและทีมงานจำได้มาจนถึงวันนี้
ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนยังจุกในใจทุกครั้งที่พูดถึง คือ ทีมงานเราได้รับการว่าจ้างให้ไปทำการแสดงในงานอุปสมบทงานหนึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พอไปถึงงานเจ้าภาพก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดี หาข้าวหาน้ำเลี้ยงทีมงานรถแห่ตามปกติ และทีมนักดนตรีก็ซาวน์เช็คระบบเครื่องเสียงรถแห่เตรียมพร้อมทำการแสดง แต่พอถึงช่วงจะทำการแสดง เราได้รับแจ้งจากเจ้าภาพว่า ไม่สามารถให้ทำการแสดงได้ เพราะผู้นำชุมชนไม่อนุญาต เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
เราก็พยายามสอบถามและให้เจ้าภาพช่วยหาทางให้ทีมงานได้ทำการแสดง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าวันนั้นเราจะได้เล่น แต่ขณะกำลังจะเริ่มเล่น จู่ๆ ก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งเข้ามาจอดหน้ารถแห่ พร้อมกับบอกเราว่า หากทำการแสดง ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ท้ายที่สุดวันนั้น ทีมงานเราต้องขับรถแห่กลับมาสำนักงาน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง มีเพียงค่าน้ำมันที่เจ้าภาพมอบให้ ยังจำได้ว่าวันที่นั่งรถกลับมาสำนักงานบรรยากาศบนรถแห่เงียบเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
น.ส.ภัคจิราพร เล่าอีกว่า นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ที่ไม่มีงานว่าจ้าง นักดนตรีและทีมงานหลายคน ต่างพากันหันไปประกอบอาชีพอื่นเพื่อเอาตัวรอด นักดนตรีที่เคยจับกีต้าร์ต้องหันไปแบกถังก๊าซหุงต้มส่งตามบ้านลูกค้า บ้านพักนักร้องนักดนตรีในสำนักงานที่เคยคึกคักเวลาที่ทีมงานล้อมวงกันซักซ้อมดนตรีก็กลายเป็นเงียบเหงา เพราะไม่มีงานมานานเกือบครึ่งปีแล้ว
หนักสุดจนหัวหน้าสำนักงานฯ ต้องจำใจขายรถแห่ ขนาด 6 ล้อไป เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในสำนักงาน เหลือเพียงรถแห่ ขนาด 10 ล้อ คันเดียวที่จอดนิ่งสนิทอยู่ใต้โดมหลังคา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รถแห่คันนี้จะมีโอกาสได้ออกไปโลดแล่น พานักร้องและนักดนตรี สร้างความสนุกสนานให้กับลูกค้าได้อีกครั้ง หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยินเสียงเรา อยากให้หาทางช่วยเหลือเราด้วย เราไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา แต่เราต้องการทางออกหรือมาตรการที่ให้เราสามารถกลับมาทำอาชีพที่เรารักได้
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราถือเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มแรกๆ ที่ถูกจำกัดไม่ให้ทำอาชีพของเรา และดูเหมือนว่า เราจะเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับอนุญาตให้กลับมาทำอาชีพของเราตามปกติได้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หากหน่วยงานภาครัฐได้ยินเสียงเรา เราอยากให้รับรู้ว่า เราไม่ได้ต้องการเงินเยียวยา แต่เราต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการให้เราสามารถกลับมาทำอาชีพของเราได้
อยากให้กำหนดมาเป็นข้อๆ ว่าหากเจ้าภาพว่าจ้างเราไปทำการแสดง จะต้องปฏิบัติอย่างไร เช่น ทำการแสดงได้ แต่ห้ามเคลื่อนรถ หรือ จำกัดคนเข้าชม รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ซึ่งเราพร้อมปฏิบัติตาม และเชื่อว่าพี่น้องชาวรถแห่ทุกคนก็พร้อมปฏิบัติตาม เพราะวันนี้นานมากแล้ว ที่อาชีพของเราถูกลืม และไม่มีหน่วยงานไหนลงมาช่วยเหลือเรา