อส.ปัตตานีปืนโหด ไล่ยิงเพื่อนบ้าน 3 นัดเสียชีวิตคาที่ หลังทะเลาะกันอ้างผู้ตายขึ้นบ้านขโมยของ ด้านแม่ผู้เสียชีวิตโอดทำเกินกว่าเหตุไม่เชื่อลูกจะขโมยของจริง
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 10 เม.ย.รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดในชุมชน ตรอก 7 ถนนนรินทราช ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 1 คน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกง 3 ส่วน สีน้ำเงิน ใส่รองเท้าแตะ ต่อมาทราบชื่อผู้ตายคือ นายนิอัสมาน แวหามะ อายุ 29 ปี จากการตรวจสภาพศพถูกยิงเข้าศีรษะ 1 นัด และที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายอภินันท์ เจ๊ะแว อายุ 32 ปี เป็นอส.เมืองปัตตานี โดยเจ้าตัวไม่ได้หนีแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนในชุมชนเดียวกัน โดยนายอภินันท์ ได้ใช้อาวุธปืนยิง นายนิอัสมาน หลังจากเชื่อว่าผู้ตายได้เข้าไปในบ้านขโมยของ ซึ่งช่วงนั้นมีการพูดคุยกัน กระทั่งมีปากเสียงกัน เกิดการทะเลาะวิวาท และมีการชกต่อยกันจนเกิดการชุลมุนอยู่หน้าบ้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้ จึงเดินเข้าไปหยิบปืน ผู้ตายจึงวิ่งหนี ผู้ก่อเหตุจึงวิ่งไล่ตาม และทำการยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนตัดสินใจยิงนัดที่ 2 เฉียดที่ศีรษะ และได้ยิงนัดที่ 3 จนเข้าที่ศีรษะอีก 1 นัด ทำให้ผู้ตายล้มลง และเสียชีวิตทันที ซึ่งภายหลังก่อเหตุ ด้าน อส.อ.อภินันท์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี
ด้านญาติๆของผู้ตาย ต่างระบุว่า อส.ทำเกินกว่าเหตุและไม่เชื่อว่าผู้ตาย จะขโมยสร้อย เพราะไม่มีหลักฐานแสดง ซ้ำช่วงเกิดเหตุไม่มีชาวบ้านคนอื่นๆอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา 2 คนนี้ ก็มีปากเสียงกันมาแล้วหลายครั้ง หลายคนอยากให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายด้วย
ขณะที่นางรอกีเยาะ สามะ แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูก เป็นเพียงเรื่องทะเลาะวิวาทในหมู่บ้าน คู่กรณีไม่ควรทำแบบนี้ รับไม่ได้จริงๆ หลังเกิดเหตุตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง และมีคนโทรมาบอกว่าลูกถูกยิง จึงรีบกลับมาบ้านทันที พบว่าลูกนอนคว่ำเสียชีวิตแล้ว และตนเองไม่เชื่อว่าลูกจะขึ้นไปขโมยของ ยอมรับว่าลูกติดยาจริงแต่ไม่มีนิสัยขี้ขโมย ซึ่งถ้าลูกทำจริงก็ไม่ควรทำแบบนี้ แค่จับส่งให้ตำรวจก็พอแล้ว แต่นี่ทำไมต้องมายิงลูกตนด้วย
https://www.dailynews.co.th/news/946625/ 
อส.ปืนโหดไล่ซัลโวเพื่อนบ้าน3นัดดับ หลังทะเลาะกันอ้างผู้ตายขึ้นบ้านขโมยของ
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 10 เม.ย.รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดในชุมชน ตรอก 7 ถนนนรินทราช ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 1 คน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกง 3 ส่วน สีน้ำเงิน ใส่รองเท้าแตะ ต่อมาทราบชื่อผู้ตายคือ นายนิอัสมาน แวหามะ อายุ 29 ปี จากการตรวจสภาพศพถูกยิงเข้าศีรษะ 1 นัด และที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายอภินันท์ เจ๊ะแว อายุ 32 ปี เป็นอส.เมืองปัตตานี โดยเจ้าตัวไม่ได้หนีแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนในชุมชนเดียวกัน โดยนายอภินันท์ ได้ใช้อาวุธปืนยิง นายนิอัสมาน หลังจากเชื่อว่าผู้ตายได้เข้าไปในบ้านขโมยของ ซึ่งช่วงนั้นมีการพูดคุยกัน กระทั่งมีปากเสียงกัน เกิดการทะเลาะวิวาท และมีการชกต่อยกันจนเกิดการชุลมุนอยู่หน้าบ้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้ จึงเดินเข้าไปหยิบปืน ผู้ตายจึงวิ่งหนี ผู้ก่อเหตุจึงวิ่งไล่ตาม และทำการยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนตัดสินใจยิงนัดที่ 2 เฉียดที่ศีรษะ และได้ยิงนัดที่ 3 จนเข้าที่ศีรษะอีก 1 นัด ทำให้ผู้ตายล้มลง และเสียชีวิตทันที ซึ่งภายหลังก่อเหตุ ด้าน อส.อ.อภินันท์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี
ด้านญาติๆของผู้ตาย ต่างระบุว่า อส.ทำเกินกว่าเหตุและไม่เชื่อว่าผู้ตาย จะขโมยสร้อย เพราะไม่มีหลักฐานแสดง ซ้ำช่วงเกิดเหตุไม่มีชาวบ้านคนอื่นๆอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งที่ผ่านมา 2 คนนี้ ก็มีปากเสียงกันมาแล้วหลายครั้ง หลายคนอยากให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายด้วย
ขณะที่นางรอกีเยาะ สามะ แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูก เป็นเพียงเรื่องทะเลาะวิวาทในหมู่บ้าน คู่กรณีไม่ควรทำแบบนี้ รับไม่ได้จริงๆ หลังเกิดเหตุตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง และมีคนโทรมาบอกว่าลูกถูกยิง จึงรีบกลับมาบ้านทันที พบว่าลูกนอนคว่ำเสียชีวิตแล้ว และตนเองไม่เชื่อว่าลูกจะขึ้นไปขโมยของ ยอมรับว่าลูกติดยาจริงแต่ไม่มีนิสัยขี้ขโมย ซึ่งถ้าลูกทำจริงก็ไม่ควรทำแบบนี้ แค่จับส่งให้ตำรวจก็พอแล้ว แต่นี่ทำไมต้องมายิงลูกตนด้วย
https://www.dailynews.co.th/news/946625/