พึ้งเลิกกับแฟนครับ สาเหตุที่เลิกคือเรื่องผมทนไม่ไหวกับความคิดของแฟนครับ ผมเลิกเองครับ ( อยากถามความเห็นของคนอื่น)

กระทู้คำถาม
เริ่มด้วยว่าผมเป็นคนเข้าไปจีบเค้าก่อนครับ  ผมแอปชอบเค้าตั้งแต่สมัยประถมต้นครับแล้วมีโอกาศหาเฟสเค้าเจอเลยแอดไปคุยกัน ก่อนสิ้นปี61ครับ ก็คุยกันดีก่อนปีใหม่ผม นั้งเรือขึ้นฝั่ง ต่อรถไปขึ้นเครื่องที่สนามบินครับ ด้วยความอยากไปเจอเค้าช่วงหยุดปีใหม่ ผมรอ3วันที่ กทม ครับ ได้เจอกินข้าวดูหนังไม่เกิน3ชั้วมโบผมก็กลับไปทำงานต่อ หลังจากนั้นก็คบกันครับ แต่ผมนั้งเครื่องไปหาเค้าทุกเดือนนะครับ จนเริ่มกลางปี 62 ผมเริ่มจริงจังมากขึ้น  ช่วงตอนนั้นผมลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจของตัวเองครับ เพื่ออยากสร้างความมั่นคงครับ  หลังจากนั้นเวลาผมไปหาแฟน เดือนละครั้งสองครั้งตลอดแล้วไปเที่ยวกันเกือบทุกเดือนครับ ผมออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ค่ากินที่พักน้ำมัน  เพราะผมอยากให้แฟนประประทับใจว่าผมจริงใจจริงๆครับ แต่มียุช่วงนึงที่บ้านผมมีปัญหาครับ แม่ไม่สบาย พ่อต้องใช้เงินเเยอะรดับนึง ผมเลยช่วยเต็มที่ครับ ช่วงนั้นผมพึ้งเริ่มธุระกิจยังไม่มีกำไรอะไรมาก ผมเลยควับทุนตัวเองช่วยไปเกือบหมดครับ แล้วงานก็ติดขัดยุ1เดือนครับ (เรื่องยังยุในช่วงปี62นะครับ) หลังจากนั้นผมขอความช่วยเหลือจากแฟนผมครับ เอามาทำทุนต่อ ยืมรวมๆก็แสนนึงครับหลายรอบจนถึงแสน แต่ผมคืนเค้าหมดทุกบาทแถมให้เกินด้วยครับ ช่วงที่ระยะเวลาเกือบ1ปีครับที่ยืม แต่ค่าใช้จ่ายที่ไปเที้ยวที่ผมนั้งเครื่องบินไปหาเค้าที่กทม เดือนละ2ครั้งบ้าง1ครั้งบ้าง ผมไปทุกเดือนครับแล้วเที่ยวทุกเดือนครับ ไปครั้งนึ้งก็1อาทิตย์ ผมต้องโทรศัพท์สั่งงานตลอด มีคนดูแทนผมให้1คน  เพื่อไม่อยากให้งานมีปัญหาครับ ถ้าเสียแล้วเสียหายมากครับ  ทุกวันเกิดของเค้าวันสำคัญต่างๆ ผมมีของขวัญให้ตลอดครับ แต่ละไม่ต่ำจาก1หมื่น  แถมเวลาเค้าย้ายที่ทำงานผมพาพ่อแม่เค้าจากต่างจังหวัดใช่รถกระบะผมสี่ประตูไปกทมเพื่อย้ายเข้าที่พักที่ใหม่ด้วย ช่วยเก็บช่วยยกทุกอย่างอำนวยความสะดวกทุกอย่างครับ ค่านำมันพ่อของแฟนช่วยบ้างครับ ผมไม่ได้ออกทั้งหมด แล้วย้ายเสร็จผมก็กลับมาบ้านพร้อมพ่อกับแม่แฟน (ย้ายที่ทำงานรอบแรก) หลังจากนั้นก็มีปัญหาเรื่องเงินครับ เพราะผมยังดึงตังออกจาก ธุระกิจไม่ได้ผมจะขาดเงินหมุนไปบางส่วน ใน1แสน ผมคืนเค้าไปก่อน45000ครับ ที่เหลือ55000ผมขอระยะเวลาอีก6-7เดือนผมคืนตามเวลาเลยครับ แต่ผมก็มาดูแลมาหาพาไปเที่ยวเหมือนเดิมค่าใช่จ่ายผมออกเหมือนเดิมครับ  จนเค้าสอบราชการได้แล้วเค้าเรียก ต้องย้ายอีกแล้วครับ เริ่มงานเดือน พย ที่ผ่านมาเลยครับแล้วผมก็ไปย้ายกับพ่อกับแม่เค้าเหมือนเดิมไปขับรถแฟนด้วยครับใช่รถสองคัน ย้ายมายุใกล้ๆผมครับผมดีใจมากเพราะระยะทางจากเกือบ900กิโล เหลือแค่ ไม่150กิโลครับ ทีนี้ผมไปหาเค้าเกือบทุกวันเลยครับ ขับรถไปหานอนที่เค้าพาไปกินนั้นนี่ ค่าน้ำมันแต่ละเดือนหนักมากครับเป็นหมื่นครับ บางเดือนเกือบ3หมื่นครับ ยังมีค่ากินอีกครับ ผมแถมหาเงินเก็บยากมากครับ เพราะผมทำธุรกิจหนี้มันเยอะด้วยครับ ระดับนึงครับ จนมีเรื่องที่ผมน้อยใจ เรื่องแรกครับ เพื่อนเค้ามาหาที่บ้านพักพักครับเป็นเพื่อนสนิดไว้ใจได้ครับ แต่ปัญหาคือ ผมทะเลาะกับเค้าเรื่องเค้าว่าผมต่อหน้าน้องสาวผม แลบตะคอกผมเลยคุยแบบนี้ไม่โอเคร เค้าไม่ยอมครับ จนผมส่งน้องที่ทำงานเสร็จแล้วไปเคลียที่บ้านพักของแฟน จนทะเลาะแฟนทำร้ายร่างกายครับ แฟนผมก็พูดมาคำนึงว่าเลิกกันเถอะแต่รถที่ขะพาเพื่อนไปเที่ยวขอยืมเหมือนเดิม ผมบอกได้ครับ คืนนั้นทะเลาะกันผมนอนปั้มครับนอนในรถ แฟนไม่ให้เข้าบ้าน หลังจากนั้นวันที่เพื่อนมาช่วงวันหยุด9-12 ธ.ค. แฟนให้ผมเอารถไปให้ที่บ้านพัก แล้วถามผมคำนึงว่าจะไปนอนบ้านพี่หรือนอนบ้านเพื่อน ผมเอารถเค้ากลับนะครับ แต้ผมได้ยินคำแรกเค้าไม่ชวนผมนอนในบ้านผมเสียใจมากครับ จนแฟนไปถามเพื่อนว่าให้ผมนอนหน้าทีวีกับแฟน แล้วเพื่อนนอนในห้องนอน 2ห้อง แต่วันนั้นผมไปไม่ไหวพ่อผมขับเอารถไปเปลี่ยนให้ครับ หลังจากนั้นก็ทะเลาะตลอด ผมเริ่มน้อยใจเก็บความรุสึกตลอดจนผมเคลียดมากๆ แฟนก็หาว่าผมเป็นซึมเศร้าให้ผมไปหาหมอ แล้วแฟนเป็นคนพาไป เคลียดเรื่องเพื่มเข้าไปด้วยครับ แล้วแฟนก็พยายามจะเลิกกับผมครับ ตอนนั้นผมฟิวขาดไปว่าแฟนหน้าบ้านพัก เพราะเค้าไม่เปิดประตูให้เค้ากลัวผมจะไปฆ่าเค้าครับ แม่แฟนโทรมาบอกให้ผมขับรถกลับบ้านไปก่อน แต่ตอนนั้นผมเลิกงานทุ้มนึงขับมาหาแฟนถึงเกือบ3ทุ้มให้ผมขับกลับ ผมก็คิดว่าแฟนจะใจอ่อนให้ผมเข้าบ้าน ผมรอถึงเช้าครับเค้าไม่เปิด ผมขับกลับไปทำงานต่อที่โนงงานผมครับทั้งน้ำตา จนผมคิดว่าผมแทคแคร์เค้าดีไม่พอ ผมเลยลางานช่วงต้นเดือนมีนา10กว่าวันให้คนอื่นทำแทน แต่ผมต้องอนุมัติคนเดียว ตอนนั้นเดือนมีนาผมไปรับไปส่งแฟนทำงานเกือบทุกวันครับ ตอนเที่ยงไปรับที่ทำงานไปกินข้าวเที่ยง จนมีเรื่องครับวันนั้นทะเลาะกัน ผมฟิวขาดอีกแล้วครับ แฟนไปทำงานทักเเชทมาว่าผม เรื่องที่ผมไม่ได้ผิดเลยครับ หาว่าผมไปเอายิ้มบ้าง ชั่วมาก ผมไม่เคยไปเอาครับ วันนั้นผมโกรธมากที่เค้ามาว่าผมแบบนั้น แล้วงานก็มีปัญหาพอดีครับ เครื่องตัวหลักเสียครับ ผมเลยบอกคนงานพังเครื่องให้หมดเดียวซื้อใหม่ ด้วยความโมโหคนงาน เอาแก๊สตัดหมดครับ จากซ่อมประมาณ1แสน ใช่เวลาไม่นาน พอใช่เครื่องใหม่ต้องดัดแปลง หลายอย่างไม่ไมด้ทำงาน ไม่มีรายได้เดือนครึ้งครับ ออกจะออกได้ล็อกแรก หลังสงกรานครับเพราะพึ้งทำเสร็จ ตังที่เก็บมาหมดครับเพราะ ต้องใช้สต็อกแต่ของไม่ได้ออก เครื่องก็ต้องชดอีก ลงทุนเพิ่มไปอีก หมดครับ2ล้าน5แสนไม่พอครับ แต่มันยุในของครับไม่ได้ขาดทุนแต่แค่ไม่ได้งานกำไรต้องเอาไปชดเครื่องจักร แล้วผมก็เลยยืมเงินแฟน9พันครับเมื่อวันหัสที่31มีนาครับ ผมบอกคืนอีกทีวันศุกร์นะตอนนั้นค่าของไม่พอครับขาด8พันกว่าบาท ลูกค้ามาส่ง ที่นี้ผมก็คุยกับแฟนปกติกยะครับ จนวันพฤหัสตอนเย็นก่อนวันคืนเงิน เค้าบอกถ้าอยากคบกันต่อให้เคลียหนี้ธุรกิจ หนี้บ้านผม แล้วบอกว่าบ้านผมพ่อกับแม่ปัญหาเยอะ  แล้วค่อยมาเริ่มใหม่กับแฟนอย่างจริงจัง ทำธุรกิจกับแฟนไม่ต้องให้พ่อกับแม่มายุ้ง แล้วผมจะทิ้งพ่อกับแม่ผมได้ยังไงครับ แล้วบอกผมด้วยว่า ผชดีที่ไหนเค้ายืมตังแฟนกัน ผมยืมแล้วผมคืน ตอนนั้นผมลำบาก ผมขอช่วยผมชั้วมากแล้วเหรอครับผมเลยบอกเลิกเลยครับ ผมเลยออกมาทำอย่างอย่างเต็มที่ แล้วผมค่อยมีแฟนดีกว่า ผมได้ฟอกัสกับงานเต็มที่ด้วย แล้วค่อยหาคู่ชีวิต แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมไม่มีรายได้เข้าด้วยแหละครับเค้าเลยมองว่าผมไม่มั้นคงพอ ผมเลยออกมาดีกว่า ให้เค้าเจอคนที่ดีกว่าผม (ผมใช้เวลาคบกับเค้า 3ปีกว่าครับ) ผมจ่ายเงินที่ผมดูแลค่ากินเที่ยวรวมของผมที่ไปกับเค้าด้วนะครับผมหมดไปล้านกว่าบาทครับ เค้าเห็นค่าผมบ้างไหมครับ ผมยืมตังแฟนตอนผมลำบากนี้ผมผิดมากเหรอครับ คนเรามันต้องมีวันที่ อ่อนแอไหมครับ ผมต้องห้ามอ่อนแอเหรอครับ ผมได้ทำงาน มีตังเผื่อ ฉุกเฉินเยอะๆ ได้เพื่อความมั่นคงก่อนที่ผมจะหาคู่ชีวิตมาเป็นกำลังใจกันเหรอครับ ตอนนี้ผมยังรักเค้ายุมากครับ แต่ผมไม่มีความสามารถที่เค้าต้องการได้ครับตอนนี้ผมเลยถอยดีกว่า (มีอะไรที่แนะนำข้อพกพร่องของผมบอกได้เลยนะครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่