ตอนดูตอนจบแรกๆเรามีแต่ความไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุผลแค่นี้ถึงเลิกทั้งที่ในเรื่องโปรยว่าเขารักกันผูกพันกันมา 15 ep
แต่เราลองไปอ่านวิเคราะห์หลายๆที่และกลับไปดูใหม่ จึงอยากลองวิเคราะห์
1.พระเอก ถ้าให้พูดจริงๆพระเอกเลือกครอบครัวก่อนนาฮีโด พระเอกมีเป้าหมายตั้งแต่ครอบครัวล้มละลายแรกๆแล้วว่าต้องการให้ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาซึ่งจะทำแบบนี้ได้คือการเจริญในหน้าที่การงานและการได้เป็นนักข่าวตัวแทนที่นิวยอร์คทำให้พระเอกประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเร็วขึ้น พระเอกจึงสมัครโดยไม่ได้ปรึกษานางเอกสักคำ
2. แพคอีจินไม่เคยแชร์ความทุกข์ให้นาฮีโดฟังก่อนเลย เวลามีทุกข์มักจะเก็บไว้คนเดียว ซึ่งเรื่องนี้นาฮีโดพูดกับแพคอีจินหลายครั้งว่าเรามาแชร์ความทุกข์และความสุขกันนาฮีโดต้องการแบ่งความทุกข์กับแพคอีจินบ้างแต่แพคอีจินนั้นทำไม่ได้ แพคอีจินเป็นคนที่รักแบบหวังดีกับนางเอกแบบ1000%เลยจริงๆจำตอนที่พูดกับแฟนเก่านางเอกได้มั้ยว่า เขาต้องการให้นางเอกเจอแต่เรื่องดีๆประสบการณ์ดีๆคำพูดดีๆซึ่งตัวเขานั้นทำให้นางเอกได้ ด้วยประโยคนี้มันก็แน่นอนแหละว่าเรื่องทุกข์ของตัวเองไม่มีทางไปเล่าให้นางเอกฟังแน่ๆเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดี ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ถึงจะไม่มีปัญหาอื่นอีก ยังไงมันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตคู่แน่ๆ อีกคนอยากแชร์ทุกข์แชร์สุข อีกคนอยากเก็บไว้คนเดียว
และด้วยข้อนี้เองก็ทำให้นางเอกพูดตอนบอกเลิกว่า "เราเป็นภาระให้กันตอนเป็นทุกข์"
3. นางเอกมีปมเรื่องพ่อตั้งแต่เด็กคือแม่ไม่มางานศพพ่อเพราะงานยุ่งซึ่งมันฝังใจนางเอกมาตลอด และนางเอกก็มีแฟนที่มีหน้าที่การงานเหมือนแม่และแพคอีจินก็เบี้ยวนัด/มาสายเวลานัดกับนางเอกมาหลายครั้งจนมันฝังเป็นความผิดหวังมาเรื่อยๆ แพคอีจินก็พูดได้แต่ขอโทษ จนตอนบอกเลิกนางเอกก็พูดกับพระเอกว่าเหมือนพระเอกจะพูดขอโทษจริงจังกว่าตอนบอกรักไปแล้ว ตอนที่แม่ถามว่ารับได้มั้ยนางเอกก็เหมือนจะรับได้แต่พอแพคอีจินหายเงียบไป 6 เดือนโดยไม่ติดต่อมาเลยมันทำให้รู้ว่าตัวเองไม่อยากผิดหวังซ้ำๆซากแบบนี้อีกแล้วและไม่อยากให้มันเกิดในอนาคต
ซึ่งตอนนางเอกบอกเลิกตอนอุโมงค์พระเอกยังพูดว่า เราไม่เคยมีปัญหากันเลยจนฉันไปอเมริกา ซึ่งมันทำให้รู้เลยว่าพระเอกไม่เคยรู้เลยว่านางเอกผิดหวังซ้ำๆซากๆกับเขามาขนาดไหนจึงพยายามรั้งตอนนางเอกบอกเลิก แต่พอพระเอกได้อ่านไดอารี่ก็ได้รับรู้ถึงผิดหวังความเจ็บปวดที่นางเอกทนกับเขามาตลอด ยิ่งตอนทริปที่ไปเที่ยวด้วยกัน2ต่อ2นางเอกเขียนในไดอารี่ว่า คาดหวังจัง แต่สรุปพระเอกกลับเทและนางเอกยังมาเขียนให้กำลังใจตัวเองอีก ช็อตนี้ทำให้พระเอกน้ำตาไหลหนักเข้าไปใหญ่
พอแพคอีจินอ่านแบบนี้ยิ่งไม่อยากรั้งนาฮีโดต่อไปแล้ว เพราะรั้งไปแล้วฝืนคบกันต่อก็มีแต่ตัวเองนั้นแหละที่ไปทำให้นาฮีโดเจ็บ ฉากผูกเชือกจึงมาเป็นฉากบอกลาที่เศร้าที่สุดTT
คู่นี้มีปัญหากันมาตลอดแต่พอมีระยะทางเข้ามาเกี่ยวมันก็ทำให้ปัญหามันเด่นชัดขึ้นแค่นั้นเอง
ซึ่งคู่นี้คือนิยามของ " ไม่ได้เลิกกันเพราะหมดรักแต่รักมากต่างหากถึงยอมเลิก "
ทุกคนมีความคิดเห็นคู่นี้ยังไงบ้างคะ แย้งหรือเห็นต่างได้เลยค่ะอยากอ่านคห.ของหลายๆคน คือเราไม่มุฟออนเลยจริงๆก็มุฟออนไม่ได้นั้นแหละTT
สาเหตุที่ แพคอีจิน-นาฮีโด เลิกกันไม่ใช่แค่ระยะทางใช่มั้ย
แต่เราลองไปอ่านวิเคราะห์หลายๆที่และกลับไปดูใหม่ จึงอยากลองวิเคราะห์
1.พระเอก ถ้าให้พูดจริงๆพระเอกเลือกครอบครัวก่อนนาฮีโด พระเอกมีเป้าหมายตั้งแต่ครอบครัวล้มละลายแรกๆแล้วว่าต้องการให้ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาซึ่งจะทำแบบนี้ได้คือการเจริญในหน้าที่การงานและการได้เป็นนักข่าวตัวแทนที่นิวยอร์คทำให้พระเอกประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเร็วขึ้น พระเอกจึงสมัครโดยไม่ได้ปรึกษานางเอกสักคำ
2. แพคอีจินไม่เคยแชร์ความทุกข์ให้นาฮีโดฟังก่อนเลย เวลามีทุกข์มักจะเก็บไว้คนเดียว ซึ่งเรื่องนี้นาฮีโดพูดกับแพคอีจินหลายครั้งว่าเรามาแชร์ความทุกข์และความสุขกันนาฮีโดต้องการแบ่งความทุกข์กับแพคอีจินบ้างแต่แพคอีจินนั้นทำไม่ได้ แพคอีจินเป็นคนที่รักแบบหวังดีกับนางเอกแบบ1000%เลยจริงๆจำตอนที่พูดกับแฟนเก่านางเอกได้มั้ยว่า เขาต้องการให้นางเอกเจอแต่เรื่องดีๆประสบการณ์ดีๆคำพูดดีๆซึ่งตัวเขานั้นทำให้นางเอกได้ ด้วยประโยคนี้มันก็แน่นอนแหละว่าเรื่องทุกข์ของตัวเองไม่มีทางไปเล่าให้นางเอกฟังแน่ๆเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดี ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ถึงจะไม่มีปัญหาอื่นอีก ยังไงมันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตคู่แน่ๆ อีกคนอยากแชร์ทุกข์แชร์สุข อีกคนอยากเก็บไว้คนเดียว
และด้วยข้อนี้เองก็ทำให้นางเอกพูดตอนบอกเลิกว่า "เราเป็นภาระให้กันตอนเป็นทุกข์"
3. นางเอกมีปมเรื่องพ่อตั้งแต่เด็กคือแม่ไม่มางานศพพ่อเพราะงานยุ่งซึ่งมันฝังใจนางเอกมาตลอด และนางเอกก็มีแฟนที่มีหน้าที่การงานเหมือนแม่และแพคอีจินก็เบี้ยวนัด/มาสายเวลานัดกับนางเอกมาหลายครั้งจนมันฝังเป็นความผิดหวังมาเรื่อยๆ แพคอีจินก็พูดได้แต่ขอโทษ จนตอนบอกเลิกนางเอกก็พูดกับพระเอกว่าเหมือนพระเอกจะพูดขอโทษจริงจังกว่าตอนบอกรักไปแล้ว ตอนที่แม่ถามว่ารับได้มั้ยนางเอกก็เหมือนจะรับได้แต่พอแพคอีจินหายเงียบไป 6 เดือนโดยไม่ติดต่อมาเลยมันทำให้รู้ว่าตัวเองไม่อยากผิดหวังซ้ำๆซากแบบนี้อีกแล้วและไม่อยากให้มันเกิดในอนาคต
ซึ่งตอนนางเอกบอกเลิกตอนอุโมงค์พระเอกยังพูดว่า เราไม่เคยมีปัญหากันเลยจนฉันไปอเมริกา ซึ่งมันทำให้รู้เลยว่าพระเอกไม่เคยรู้เลยว่านางเอกผิดหวังซ้ำๆซากๆกับเขามาขนาดไหนจึงพยายามรั้งตอนนางเอกบอกเลิก แต่พอพระเอกได้อ่านไดอารี่ก็ได้รับรู้ถึงผิดหวังความเจ็บปวดที่นางเอกทนกับเขามาตลอด ยิ่งตอนทริปที่ไปเที่ยวด้วยกัน2ต่อ2นางเอกเขียนในไดอารี่ว่า คาดหวังจัง แต่สรุปพระเอกกลับเทและนางเอกยังมาเขียนให้กำลังใจตัวเองอีก ช็อตนี้ทำให้พระเอกน้ำตาไหลหนักเข้าไปใหญ่
พอแพคอีจินอ่านแบบนี้ยิ่งไม่อยากรั้งนาฮีโดต่อไปแล้ว เพราะรั้งไปแล้วฝืนคบกันต่อก็มีแต่ตัวเองนั้นแหละที่ไปทำให้นาฮีโดเจ็บ ฉากผูกเชือกจึงมาเป็นฉากบอกลาที่เศร้าที่สุดTT
คู่นี้มีปัญหากันมาตลอดแต่พอมีระยะทางเข้ามาเกี่ยวมันก็ทำให้ปัญหามันเด่นชัดขึ้นแค่นั้นเอง
ซึ่งคู่นี้คือนิยามของ " ไม่ได้เลิกกันเพราะหมดรักแต่รักมากต่างหากถึงยอมเลิก "
ทุกคนมีความคิดเห็นคู่นี้ยังไงบ้างคะ แย้งหรือเห็นต่างได้เลยค่ะอยากอ่านคห.ของหลายๆคน คือเราไม่มุฟออนเลยจริงๆก็มุฟออนไม่ได้นั้นแหละTT