6
“เราไม่เห็นคุณมานานแล้ว” หญิงเจ้าของโรงแรมพูดขึ้น
เอมิลี่เซ็นเอกสาร หลุบตามองหญิงวัยกลางคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่
“เอมิลี่ จีนส์” เธอโพล่งออกมา หลังจากพยายามนึกชื่อสำเร็จ “เอมิลี่ จีนส์ -- นั่นชื่อเธอใช่ไหม”
เอมิลี่พยักหน้า เลื่อนเอกสารกลับไปให้
หากแต่เจ้าของโรงแรมยังคงไม่ส่งกุญแจห้องมาให้
“ฉันเพิ่งอ่านข่าวเกี่ยวกับเธอ --”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร” เอมิลี่บอกอย่างไม่ใส่ใจนัก “คุณอ่านข่าวแบบนี้มากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ มันเป็นข่าวปลอมเสียเยอะ --”
“แต่มันลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเลยนะ --”
“เพพเพอร์” เอมิลี่กระแอม “ฉันขอกุญแจห้องได้ไหม”
“เธอกลับมาที่เมืองนี้ทำไมกัน” เพพเพอร์ขมวดคิ้ว “หลังจากที่หายไปนานขนาดนี้ --”
“ฉันมีธุระต้องจัดการ” เอมิลี่บอกสั้นๆ “ฉันขอกุญแจห้องได้ไหม”
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะกล้ากลับมาที่นี่อีกแล้ว หลังจากมีข่าวฉาวเมื่อสิบปีก่อนเสียขนาดนั้น” เพพเพอร์ว่า
เอมิลี่นิ่งชะงักไป
“ข่าวที่คุณว่า --” เอมิลี่พูดช้าๆ “คุณไม่ได้หมายถึงข่าว
ปัจจุบันหรอกหรือ --”
“ฉันมายถึงข่าวปัจจุบัน และข่าวเมื่อ
สิบปีก่อนของเธอ” เพพเพอร์ว่า
“
ข่าวสิบปีก่อนคืออะไร” เอมิลี่กะพริบตา “ฉันสงสัยขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะ ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่อง
อะไรกัน”
“เธอขยันมีข่าวเหลือเกินนะ --”
“ใช่ ดูเหมือนทุกคนจะชอบพูดถึงฉัน” เอมิลี่กระแทกเสียง “ขอกุญแจฉันได้ไหม เพพเพอร์”
เพพเพอร์ยอมให้กุญแจ
“เธอมีของติดตัวแค่เป้เล็กๆนั่นน่ะหรือ”
แต่คราวนี้เอมิลี่ไม่ตอบ
เธอเดินขึ้นบันไดเล็กๆนั่นไปชั้นบน แล้วเดินไปตามโถงทางเดินที่ถูกแต่งไปด้วยวอลเปเปอร์ลายดอก กับพรมสีเขียวเข้ม จนแวบหนึ่งมันทำให้เธอรู้สึกตาลายขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเอมิลี่เดินมาถึงห้องที่มีหมายเลขเดียวกันกับกุญแจ เธอรีบไขประตู แล้วเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เอมิลี่วางเป้ลงบนโต๊ะริมหน้าต่าง ในหัวคิดถึงอาหารที่ตนเองอยากจะทานเป็นมื้อบ่าย -- เธอต้องการพลังงาน
และบางทีเธอควรจะซื้ออะไรมาทานในห้องนี้ แทนที่จะออกไปข้างนอก -- เพราะดูเหมือนใครต่อใครจะซุบซิบเรื่องเธอกันอยู่
แต่อากาศร้อนที่เธอเผชิญมา ทำให้เธออ่อนเพลีย หยุดคิดเรื่องอาหาร แล้วตัดสินใจไปอาบน้ำแทน
หลังจากผ่านไปเกือบสิบห้านาที เธอก็สวมเสื้อคลุม แล้วเดินออกมาควานหาเสื้อสำรองในเป้
ตอนนั้นเองที่เธอนึกขึ้นได้ ว่าโอลิเวียบอกไว้ว่าไม่ทันหยิบเสื้อมาให้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสวมชุดกระโปรงสีแดงตัวเดิม
เอมิลี่กลับไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านนอก
เอมิลี่ยืนตัวแข็ง เงี่ยหูฟังเสียงนั้นอย่างเงียบๆ หากแต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรอื่นอีก นอกจากเสียงลมหายใจของตัวเอง
มีใครอื่นอยู่ในห้องนี้ -- เธอบอกตัวเอง
เอมิลี่สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะกระชากประตูเปิดออก แล้วเผชิญหน้ากับผู้บุกรุกคนนั้น
เด็กหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้น มองเธอมาจากกลางห้องอย่างเปิดเผย
“ผมตามคุณมา” เด็กหนุ่มบอกตรงๆ “และคุณลืมล็อกประตูห้อง --”
เอมิลี่มองประตูห้อง เธอมัวแต่คิดเรื่องอาหาร จนลืมนึกถึงเรื่องความปลอดภัยไปได้ขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ
“ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ” เด็กหนุ่มบอกช้าๆ “ผมมาขอโทษคุณ ที่ทิ้งคุณไว้แบบนั้น”
เอมิลี่เดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น แล้วหยุดยืนที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ
“ผมไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาในบาร์” เด็กหนุ่มบอก ใบหน้าแดงก่ำจากความอับอาย “พี่ผมคงเล่นผมอ่วม ถ้ารู้ว่าผมแอบเข้าร้านไปโดยพลการ เขาไม่อยากให้ผมข้องแวะกับบาร์เท่าไหร่ จนกว่าจะโตกว่านี้”
เอมิลี่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ผมหมายความตามนั้นจริงๆ” เด็กหนุ่มมองเธอนิ่ง “ผมเล่นเพลงนั้น -- เพื่อคุณ”
วินาทีนั้นเอมิลี่ไม่กล้าสบตามองเด็กหนุ่ม
เธอหลุบตามองกระเป๋าเป้ มือทั้งสองข้างเคาะลงบนผิวโต๊ะเบาๆ
“คุณหลบตาผม”
เอมิลี่ใจเต้นขึ้นมาเมื่อถูกทักแบบนั้น
“ผมจูบคุณได้ไหม”
คำถามนั้นทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง
ตอนนั้นเองที่ร่างสูงนั่นโน้มข้ามโต๊ะมา --
เธอเห็นใบหน้าเด็กหนุ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้ -- ใกล้จนเธอสามารถมองเห็นแพขนตายาว และรอยกระจางๆบนผิวนั่นได้อย่างชัดเจน
ใกล้เสียจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันอุ่นร้อนของเขา --
วินาทีนั้นเอมิลี่สะดุ้งสุดตัว เธอผวาถอยห่างมาจากเด็กหนุ่ม แล้วหมุนตัวไปทางหน้าต่างห้องอย่างรวดเร็ว
เอมิลี่หอบหายใจอย่างหนักหน่วง หลับตาลงแน่นอย่างควบคุมอารมณ์ตนเอง
“เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว” เธอพึมพัม คล้ายจะเตือนตัวเอง “และมันจบลงไม่สวยเอาเสียเลย”
แวบนั้นเธอสัมผัสได้ถึงมืออันหยาบกระด้างของเด็กหนุ่มที่จับมือเธอ ค่อยๆดึงให้เธอเดินตามเขาไป
เอมิลี่เผลอก้าวตามไปโดยไม่รู้ตัว แล้วเมื่อรู้ตัวอีกที เธอก็พบว่าตัวเองกำลังเดินมาจนถึงเตียงขนาดเล็กในห้อง
เธอเอนร่างนอนลงบนเตียงนั้น หันมาทางเด็กหนุ่ม ที่นอนตะแคงมองเธออยู่ก่อนแล้ว
เอมิลี่ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ดวงตาสีฟ้าพินิจมองใบหน้าอันอ่อนเยาว์นั่น ก่อนจะเอื้อมมือไปจัดเส้นผมสีทองที่ปรกหน้าเขาอยู่เบาๆ
“คุณชอบสีผมของผมไหม” เขาปล่อยให้เธอจับผมตนเองต่อไป “คุณพูดถูก ผมย้อมมัน --”
“เธอยังเด็กนัก” เธอกระซิบออกมา คล้ายจะเตือนตัวเองมากกว่าจะบอกอีกฝ่าย “เด็กเกินไป --”
ดวงตาที่จ้องมองเธอนั้นดูวูบไหวขึ้นมาเล็กน้อย
“เด็กเกินไปสำหรับอะไรหรือ” เขาถามเสียงเบา
“ความรัก” เอมิลี่ตอบ ผละมือออกมาจากใบหน้านั่น
หากแต่เด็กหนุ่มคว้ามือเธอเอาไว้ แล้วจุมพิตที่กลางมือเธออย่างแนบแน่น “แล้วสำหรับจูบล่ะ” เขาถาม “ผมเด็กเกินไปสำหรับการจูบนี่ด้วยหรือเปล่า”
เขาประทับริมฝีปากที่ข้อมือด้านในของเธอ
เอมิลี่มองริมฝีปากหยักนั่นอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาว่า “ฉันเคยได้รักเธอ และได้รับจูบเธอมาแล้ว” เธอบอก “เมื่อนานมาแล้ว เราเคยเป็นแบบนั้น แต่
มันจบลงไม่สวยงามอย่างที่เรานึก -- จำได้ไหม”
“คุณพูดประโยคนั้นออกมาแล้ว” เด็กหนุ่มเตือนความจำ ใบหน้าคล้ายจะยิ้มเล็กน้อย “และคุณจำผมได้แล้ว -- คุณจำผมได้ -- ผมไม่ได้เป็นเพียงคนที่หน้าตาคุ้นเคยสำหรับคุณแล้ว”
“ฉันจำเธอได้”
แต่ฉันพยายามลืมเธอ -- เธอต่อประโยคนั้นในใจ
เอมิลี่ขยับฝ่ามือข้างนั้นของตนเองมาประทับที่ริมฝีปาก -- จุมพิตที่กลางฝ่ามือ ตำแหน่งเดียวกันกับรอยจูบของเขา “และครั้งนี้จูบของเรามาได้แค่นี้ ฉันเสียใจ --” เธอบอก “ฉันจะไม่ให้เธอมากกว่านี้ และเธอจะไม่ให้อะไรฉันมากไปกว่านี้”
เด็กหนุ่มมองฝ่ามือของเธอ ก่อนจะเลื่อนสายตากลับมาสบตามองเธอ
“คุณไม่ได้กลับมาที่นี่เพื่ออดีตของเราหรือ” เขาถามเสียงเบา หากแต่เต็มไปด้วยความเศร้าในอะไรบางอย่าง
เอมิลี่ไม่ตอบคำถามนั้น
“ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณคิดถึงผมบ้างไหม”
เอมิลี่มองเห็นหยาดน้ำตาในดวงตาคู่นั้น
“คุณเคยรักผมจริงๆบ้างหรือเปล่า เอมิลี่”
เอมิลี่หลับตาลง ราวกับว่ามันจะช่วยให้เธอหลบหนีการเผชิญหน้านี้ได้
เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ -- เด็กหนุ่มไม่ได้เร่งรัดให้เธอตอบคำถาม หรือลืมตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขา
หากแต่ทั้งหมดที่เขาทำคือกระซิบออกมาเบาๆว่า “ไม่เป็นไร เอมิลี่ เราค่อยคุยกันใหม่หลังจากนี้” เขาบอก “คุณกำลังเหนื่อย”
ใช่ เธอเหนื่อย -- เอมิลี่สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอของตัวเอง
“คุณควรพักผ่อน คุณควรงีบสักหน่อย”
ใช่ -- เอมิลี่บอกตัวเอง -- ขอฉันงีบสักห้านาที
“ผมจะปิดประตูห้องให้คุณเอง”
ประตูห้อง --
วินาทีนั้นเอมิลี่สะดุ้งสุดตัว ดวงตาคู่โตเบิกโพลง ก่อนจะชันตัวขึ้นมาจากเตียง
ตอนนั้นเองที่จิตใต้สำนึกตะโกนลั่นขึ้นมาในหัวของเธอว่า
“เธอยังไม่ได้ล็อกประตูห้อง!”
SHE,SUMMER เธอ,ฤดูร้อน (6)
เอมิลี่เซ็นเอกสาร หลุบตามองหญิงวัยกลางคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่
“เอมิลี่ จีนส์” เธอโพล่งออกมา หลังจากพยายามนึกชื่อสำเร็จ “เอมิลี่ จีนส์ -- นั่นชื่อเธอใช่ไหม”
เอมิลี่พยักหน้า เลื่อนเอกสารกลับไปให้
หากแต่เจ้าของโรงแรมยังคงไม่ส่งกุญแจห้องมาให้
“ฉันเพิ่งอ่านข่าวเกี่ยวกับเธอ --”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร” เอมิลี่บอกอย่างไม่ใส่ใจนัก “คุณอ่านข่าวแบบนี้มากๆ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ มันเป็นข่าวปลอมเสียเยอะ --”
“แต่มันลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเลยนะ --”
“เพพเพอร์” เอมิลี่กระแอม “ฉันขอกุญแจห้องได้ไหม”
“เธอกลับมาที่เมืองนี้ทำไมกัน” เพพเพอร์ขมวดคิ้ว “หลังจากที่หายไปนานขนาดนี้ --”
“ฉันมีธุระต้องจัดการ” เอมิลี่บอกสั้นๆ “ฉันขอกุญแจห้องได้ไหม”
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะกล้ากลับมาที่นี่อีกแล้ว หลังจากมีข่าวฉาวเมื่อสิบปีก่อนเสียขนาดนั้น” เพพเพอร์ว่า
เอมิลี่นิ่งชะงักไป
“ข่าวที่คุณว่า --” เอมิลี่พูดช้าๆ “คุณไม่ได้หมายถึงข่าวปัจจุบันหรอกหรือ --”
“ฉันมายถึงข่าวปัจจุบัน และข่าวเมื่อสิบปีก่อนของเธอ” เพพเพอร์ว่า
“ข่าวสิบปีก่อนคืออะไร” เอมิลี่กะพริบตา “ฉันสงสัยขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะ ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน”
“เธอขยันมีข่าวเหลือเกินนะ --”
“ใช่ ดูเหมือนทุกคนจะชอบพูดถึงฉัน” เอมิลี่กระแทกเสียง “ขอกุญแจฉันได้ไหม เพพเพอร์”
เพพเพอร์ยอมให้กุญแจ
“เธอมีของติดตัวแค่เป้เล็กๆนั่นน่ะหรือ”
แต่คราวนี้เอมิลี่ไม่ตอบ
เธอเดินขึ้นบันไดเล็กๆนั่นไปชั้นบน แล้วเดินไปตามโถงทางเดินที่ถูกแต่งไปด้วยวอลเปเปอร์ลายดอก กับพรมสีเขียวเข้ม จนแวบหนึ่งมันทำให้เธอรู้สึกตาลายขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเอมิลี่เดินมาถึงห้องที่มีหมายเลขเดียวกันกับกุญแจ เธอรีบไขประตู แล้วเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เอมิลี่วางเป้ลงบนโต๊ะริมหน้าต่าง ในหัวคิดถึงอาหารที่ตนเองอยากจะทานเป็นมื้อบ่าย -- เธอต้องการพลังงาน
และบางทีเธอควรจะซื้ออะไรมาทานในห้องนี้ แทนที่จะออกไปข้างนอก -- เพราะดูเหมือนใครต่อใครจะซุบซิบเรื่องเธอกันอยู่
แต่อากาศร้อนที่เธอเผชิญมา ทำให้เธออ่อนเพลีย หยุดคิดเรื่องอาหาร แล้วตัดสินใจไปอาบน้ำแทน
หลังจากผ่านไปเกือบสิบห้านาที เธอก็สวมเสื้อคลุม แล้วเดินออกมาควานหาเสื้อสำรองในเป้
ตอนนั้นเองที่เธอนึกขึ้นได้ ว่าโอลิเวียบอกไว้ว่าไม่ทันหยิบเสื้อมาให้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสวมชุดกระโปรงสีแดงตัวเดิม
เอมิลี่กลับไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางด้านนอก
เอมิลี่ยืนตัวแข็ง เงี่ยหูฟังเสียงนั้นอย่างเงียบๆ หากแต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรอื่นอีก นอกจากเสียงลมหายใจของตัวเอง
มีใครอื่นอยู่ในห้องนี้ -- เธอบอกตัวเอง
เอมิลี่สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่จะกระชากประตูเปิดออก แล้วเผชิญหน้ากับผู้บุกรุกคนนั้น
เด็กหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้น มองเธอมาจากกลางห้องอย่างเปิดเผย
“ผมตามคุณมา” เด็กหนุ่มบอกตรงๆ “และคุณลืมล็อกประตูห้อง --”
เอมิลี่มองประตูห้อง เธอมัวแต่คิดเรื่องอาหาร จนลืมนึกถึงเรื่องความปลอดภัยไปได้ขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ
“ผมไม่ได้มาทำร้ายคุณ” เด็กหนุ่มบอกช้าๆ “ผมมาขอโทษคุณ ที่ทิ้งคุณไว้แบบนั้น”
เอมิลี่เดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น แล้วหยุดยืนที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ
“ผมไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาในบาร์” เด็กหนุ่มบอก ใบหน้าแดงก่ำจากความอับอาย “พี่ผมคงเล่นผมอ่วม ถ้ารู้ว่าผมแอบเข้าร้านไปโดยพลการ เขาไม่อยากให้ผมข้องแวะกับบาร์เท่าไหร่ จนกว่าจะโตกว่านี้”
เอมิลี่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ผมหมายความตามนั้นจริงๆ” เด็กหนุ่มมองเธอนิ่ง “ผมเล่นเพลงนั้น -- เพื่อคุณ”
วินาทีนั้นเอมิลี่ไม่กล้าสบตามองเด็กหนุ่ม
เธอหลุบตามองกระเป๋าเป้ มือทั้งสองข้างเคาะลงบนผิวโต๊ะเบาๆ
“คุณหลบตาผม”
เอมิลี่ใจเต้นขึ้นมาเมื่อถูกทักแบบนั้น
“ผมจูบคุณได้ไหม”
คำถามนั้นทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง
ตอนนั้นเองที่ร่างสูงนั่นโน้มข้ามโต๊ะมา --
เธอเห็นใบหน้าเด็กหนุ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้ -- ใกล้จนเธอสามารถมองเห็นแพขนตายาว และรอยกระจางๆบนผิวนั่นได้อย่างชัดเจน
ใกล้เสียจนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันอุ่นร้อนของเขา --
วินาทีนั้นเอมิลี่สะดุ้งสุดตัว เธอผวาถอยห่างมาจากเด็กหนุ่ม แล้วหมุนตัวไปทางหน้าต่างห้องอย่างรวดเร็ว
เอมิลี่หอบหายใจอย่างหนักหน่วง หลับตาลงแน่นอย่างควบคุมอารมณ์ตนเอง
“เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว” เธอพึมพัม คล้ายจะเตือนตัวเอง “และมันจบลงไม่สวยเอาเสียเลย”
แวบนั้นเธอสัมผัสได้ถึงมืออันหยาบกระด้างของเด็กหนุ่มที่จับมือเธอ ค่อยๆดึงให้เธอเดินตามเขาไป
เอมิลี่เผลอก้าวตามไปโดยไม่รู้ตัว แล้วเมื่อรู้ตัวอีกที เธอก็พบว่าตัวเองกำลังเดินมาจนถึงเตียงขนาดเล็กในห้อง
เธอเอนร่างนอนลงบนเตียงนั้น หันมาทางเด็กหนุ่ม ที่นอนตะแคงมองเธออยู่ก่อนแล้ว
เอมิลี่ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ดวงตาสีฟ้าพินิจมองใบหน้าอันอ่อนเยาว์นั่น ก่อนจะเอื้อมมือไปจัดเส้นผมสีทองที่ปรกหน้าเขาอยู่เบาๆ
“คุณชอบสีผมของผมไหม” เขาปล่อยให้เธอจับผมตนเองต่อไป “คุณพูดถูก ผมย้อมมัน --”
“เธอยังเด็กนัก” เธอกระซิบออกมา คล้ายจะเตือนตัวเองมากกว่าจะบอกอีกฝ่าย “เด็กเกินไป --”
ดวงตาที่จ้องมองเธอนั้นดูวูบไหวขึ้นมาเล็กน้อย
“เด็กเกินไปสำหรับอะไรหรือ” เขาถามเสียงเบา
“ความรัก” เอมิลี่ตอบ ผละมือออกมาจากใบหน้านั่น
หากแต่เด็กหนุ่มคว้ามือเธอเอาไว้ แล้วจุมพิตที่กลางมือเธออย่างแนบแน่น “แล้วสำหรับจูบล่ะ” เขาถาม “ผมเด็กเกินไปสำหรับการจูบนี่ด้วยหรือเปล่า”
เขาประทับริมฝีปากที่ข้อมือด้านในของเธอ
เอมิลี่มองริมฝีปากหยักนั่นอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาว่า “ฉันเคยได้รักเธอ และได้รับจูบเธอมาแล้ว” เธอบอก “เมื่อนานมาแล้ว เราเคยเป็นแบบนั้น แต่
มันจบลงไม่สวยงามอย่างที่เรานึก -- จำได้ไหม”
“คุณพูดประโยคนั้นออกมาแล้ว” เด็กหนุ่มเตือนความจำ ใบหน้าคล้ายจะยิ้มเล็กน้อย “และคุณจำผมได้แล้ว -- คุณจำผมได้ -- ผมไม่ได้เป็นเพียงคนที่หน้าตาคุ้นเคยสำหรับคุณแล้ว”
“ฉันจำเธอได้”
แต่ฉันพยายามลืมเธอ -- เธอต่อประโยคนั้นในใจ
เอมิลี่ขยับฝ่ามือข้างนั้นของตนเองมาประทับที่ริมฝีปาก -- จุมพิตที่กลางฝ่ามือ ตำแหน่งเดียวกันกับรอยจูบของเขา “และครั้งนี้จูบของเรามาได้แค่นี้ ฉันเสียใจ --” เธอบอก “ฉันจะไม่ให้เธอมากกว่านี้ และเธอจะไม่ให้อะไรฉันมากไปกว่านี้”
เด็กหนุ่มมองฝ่ามือของเธอ ก่อนจะเลื่อนสายตากลับมาสบตามองเธอ
“คุณไม่ได้กลับมาที่นี่เพื่ออดีตของเราหรือ” เขาถามเสียงเบา หากแต่เต็มไปด้วยความเศร้าในอะไรบางอย่าง
เอมิลี่ไม่ตอบคำถามนั้น
“ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณคิดถึงผมบ้างไหม”
เอมิลี่มองเห็นหยาดน้ำตาในดวงตาคู่นั้น
“คุณเคยรักผมจริงๆบ้างหรือเปล่า เอมิลี่”
เอมิลี่หลับตาลง ราวกับว่ามันจะช่วยให้เธอหลบหนีการเผชิญหน้านี้ได้
เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ -- เด็กหนุ่มไม่ได้เร่งรัดให้เธอตอบคำถาม หรือลืมตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขา
หากแต่ทั้งหมดที่เขาทำคือกระซิบออกมาเบาๆว่า “ไม่เป็นไร เอมิลี่ เราค่อยคุยกันใหม่หลังจากนี้” เขาบอก “คุณกำลังเหนื่อย”
ใช่ เธอเหนื่อย -- เอมิลี่สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอของตัวเอง
“คุณควรพักผ่อน คุณควรงีบสักหน่อย”
ใช่ -- เอมิลี่บอกตัวเอง -- ขอฉันงีบสักห้านาที
“ผมจะปิดประตูห้องให้คุณเอง”
ประตูห้อง --
วินาทีนั้นเอมิลี่สะดุ้งสุดตัว ดวงตาคู่โตเบิกโพลง ก่อนจะชันตัวขึ้นมาจากเตียง
ตอนนั้นเองที่จิตใต้สำนึกตะโกนลั่นขึ้นมาในหัวของเธอว่า “เธอยังไม่ได้ล็อกประตูห้อง!”