สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
รักจะเป็นคนใจกว้างแล้ว ต้องไปให้สุดค่ะ
ขนาดเห็นชัดๆ ว่าสามีคุณทั้งรัก ทั้งหลงผู้หญิงคนนั้น ปิดบังสารพัด
คุณก็ยัง “อยากจะเชื่อ” และ “เลือกจะเชื่อ” ในสิ่งที่คุณอยากฟังซะงั้น
เราคนนอก ขนาดไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ยังจับจุดได้เลย
ว่าสามีคุณ โกหกทั้งเพ ที่ว่า เป็นพี่น้อง
จากประโยคนี้
“ แต่พอเลิกคุยไม่นาน สามีก็ดูเศร้า แล้วก็สารภาพกับเราว่า รู้สึกผิด ที่ทำดีกับผู้หญิงคนนั้น แล้วอยู่ๆ ก็ทิ้งไป”
และในเมื่อคุณอุตส่าห์ใจกว้าง ชวนมากินข้าวด้วยกันสามคน “ผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธ”
แต่พอคุณทนเห็นสามีเศร้าไม่ไหว ให้เขากลับไปคุยกัน ผู้หญิงคนนั้น และสามี ก็สานต่อความพันธ์กันหน้าตาเฉย
คุณยังจะมองว่า พวกเขาคบหากันอย่างบริสุทธิ์ใจได้หรือคะ ?
สามีที่ดี ที่รักภรรยา เขาจะทำให้ภรรยาสบายใจ ไม่โกหก
ผู้หญิงที่ดี ที่คุยกับสามีผู้อื่น เมื่อทราบว่าภรรยาเขาทุกข์
ทั้งคู่ต้องมา “แสดงความบริสุทธิ์ใจ”
การจะคบหา คนมีคู่แล้วเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องน่ะ ทำได้ ไม่ผิดศีล
แต่การกระทำที่รู้ทั้งรู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังร้อนรนหวาดระแวงเพราะตนน่ะ
มันผิดมารยาท และผิดคุณธรรมพื้นฐานที่พึงมีนะคะ
เอาเถิด
เราไม่ได้ตำหนิคุณ หากคุณอยากจะรักษาครอบครัวไว้
แล้วแกล้งทำเป็น เชื่อ หรือ สะกดจิตตัวเองให้มองผ่าน ความน่าหวาดระแวงทั้งหลาย
เพราะคุณมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะตัดสินใจ เลือกสถานะในชีวิตคู่ของตนเอง
ขอทายว่า …
ตอนนี้ เขาทั้งคู่ รู้ว่าคุณรู้เรื่อง รู้ว่าคุณยอมถอย
ความเกรงใจ ที่แต่ก่อนอาจมี จนต้องคอยปกปิด
เดี๋ยวนี้ จะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ
คุณที่แต่ก่อนไม่รู้ ก็ไม่ระแวง พอรู้แล้ว ความปวดใจ จะกำเริบเป็นระยะๆ
จะอดรนทนไม่ได้ ยามเห็นพิรุธสามี ยิ่งเห็นบ่อย ยิ่งจับได้บ่อย
เขาจะยิ่งปากแข็ง และโยนความผิดมาที่คุณ
ดังที่เขาชิมลาง บอกคุณมาแล้ว ว่า เขาเหมือนติดคุก (คุณทำตัวเหมือนผู้คุม)
คุณจะถูกยัดเยียดข้อหา “ทำให้บ้านร้อน” “อยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข” มาให้
หากในอนาคตต้องเลิกกัน เขาจะบอกว่า
คุณคือ ฝ่ายผิด แต่เพียงผู้เดียว (ไม่เกี่ยวกับที่เขานอกใจ)
เพราะฉะนั้น … ขอตอบว่า
จะไปทำบุญวัดไหนก็ได้ค่ะ ขอให้คุณมีศรัทธา ก็จะได้บุญ และเกิดความสบายใจได้ทันที
ส่วนการอยากเลิกคิด เลิกระแวง มันมีวิธีที่ง่ายมากๆ คือ ให้มองไปให้สุดสายค่ะ
ว่าวันนึง กับสามีคนนี้ คุณต้องจากกันแน่ เพียงทำวันนี้ ที่ยังอยู่ด้วยกันสถานะ สามีภรรยา ให้คุณทั้งคู่มีความสุขที่สุด
สรุป เคล็ดลับสำคัญ ที่ทำให้คุณเลิกทุกข์เพราะความหวาดระแวงคือ
คิดเสมอว่า วันนี้ อาจจะได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนนี้เป็นวันสุดท้าย
(คิดแบบนี้บ่อยๆ เจ็บแบบไหนที่เขายัดเยียดมาให้คุณ ก็จะไม่มีทางทำให้คุณเซอร์ไพรส์ได้อีกแล้วล่ะค่ะ)
ขนาดเห็นชัดๆ ว่าสามีคุณทั้งรัก ทั้งหลงผู้หญิงคนนั้น ปิดบังสารพัด
คุณก็ยัง “อยากจะเชื่อ” และ “เลือกจะเชื่อ” ในสิ่งที่คุณอยากฟังซะงั้น
เราคนนอก ขนาดไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ยังจับจุดได้เลย
ว่าสามีคุณ โกหกทั้งเพ ที่ว่า เป็นพี่น้อง
จากประโยคนี้
“ แต่พอเลิกคุยไม่นาน สามีก็ดูเศร้า แล้วก็สารภาพกับเราว่า รู้สึกผิด ที่ทำดีกับผู้หญิงคนนั้น แล้วอยู่ๆ ก็ทิ้งไป”
และในเมื่อคุณอุตส่าห์ใจกว้าง ชวนมากินข้าวด้วยกันสามคน “ผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธ”
แต่พอคุณทนเห็นสามีเศร้าไม่ไหว ให้เขากลับไปคุยกัน ผู้หญิงคนนั้น และสามี ก็สานต่อความพันธ์กันหน้าตาเฉย
คุณยังจะมองว่า พวกเขาคบหากันอย่างบริสุทธิ์ใจได้หรือคะ ?
สามีที่ดี ที่รักภรรยา เขาจะทำให้ภรรยาสบายใจ ไม่โกหก
ผู้หญิงที่ดี ที่คุยกับสามีผู้อื่น เมื่อทราบว่าภรรยาเขาทุกข์
ทั้งคู่ต้องมา “แสดงความบริสุทธิ์ใจ”
การจะคบหา คนมีคู่แล้วเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องน่ะ ทำได้ ไม่ผิดศีล
แต่การกระทำที่รู้ทั้งรู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังร้อนรนหวาดระแวงเพราะตนน่ะ
มันผิดมารยาท และผิดคุณธรรมพื้นฐานที่พึงมีนะคะ
เอาเถิด
เราไม่ได้ตำหนิคุณ หากคุณอยากจะรักษาครอบครัวไว้
แล้วแกล้งทำเป็น เชื่อ หรือ สะกดจิตตัวเองให้มองผ่าน ความน่าหวาดระแวงทั้งหลาย
เพราะคุณมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะตัดสินใจ เลือกสถานะในชีวิตคู่ของตนเอง
ขอทายว่า …
ตอนนี้ เขาทั้งคู่ รู้ว่าคุณรู้เรื่อง รู้ว่าคุณยอมถอย
ความเกรงใจ ที่แต่ก่อนอาจมี จนต้องคอยปกปิด
เดี๋ยวนี้ จะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ
คุณที่แต่ก่อนไม่รู้ ก็ไม่ระแวง พอรู้แล้ว ความปวดใจ จะกำเริบเป็นระยะๆ
จะอดรนทนไม่ได้ ยามเห็นพิรุธสามี ยิ่งเห็นบ่อย ยิ่งจับได้บ่อย
เขาจะยิ่งปากแข็ง และโยนความผิดมาที่คุณ
ดังที่เขาชิมลาง บอกคุณมาแล้ว ว่า เขาเหมือนติดคุก (คุณทำตัวเหมือนผู้คุม)
คุณจะถูกยัดเยียดข้อหา “ทำให้บ้านร้อน” “อยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข” มาให้
หากในอนาคตต้องเลิกกัน เขาจะบอกว่า
คุณคือ ฝ่ายผิด แต่เพียงผู้เดียว (ไม่เกี่ยวกับที่เขานอกใจ)
เพราะฉะนั้น … ขอตอบว่า
จะไปทำบุญวัดไหนก็ได้ค่ะ ขอให้คุณมีศรัทธา ก็จะได้บุญ และเกิดความสบายใจได้ทันที
ส่วนการอยากเลิกคิด เลิกระแวง มันมีวิธีที่ง่ายมากๆ คือ ให้มองไปให้สุดสายค่ะ
ว่าวันนึง กับสามีคนนี้ คุณต้องจากกันแน่ เพียงทำวันนี้ ที่ยังอยู่ด้วยกันสถานะ สามีภรรยา ให้คุณทั้งคู่มีความสุขที่สุด
สรุป เคล็ดลับสำคัญ ที่ทำให้คุณเลิกทุกข์เพราะความหวาดระแวงคือ
คิดเสมอว่า วันนี้ อาจจะได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนนี้เป็นวันสุดท้าย
(คิดแบบนี้บ่อยๆ เจ็บแบบไหนที่เขายัดเยียดมาให้คุณ ก็จะไม่มีทางทำให้คุณเซอร์ไพรส์ได้อีกแล้วล่ะค่ะ)
ความคิดเห็นที่ 16
ไม่รู้สึกอนาถกับตัวเองมั่งเหรอคะ ตีลังกาดูก็รู้ว่ามันเป็นชู้กัน
พี่น้องบ้าอะไรแหม่ถ่ายรูปเต็มเครื่อง ไปเดทวันวาเลนไทน์
อ้างว่ารักคุณ แต่พอไม่ให้คุยก็มาโทษคุณ หาว่าอยู่ในคุก
คุกบ้านมันสิ แค่ไม่ได้คุยกับสาวถึงกับรู้สึกติดคุกเเลยหรอ
อยากหลอกตัวเองต่อไปก็เชิญ ผช.ห่วยๆแบบนั้นแค่อ่านยังขยะแขยงเลย
พี่น้องบ้าอะไรแหม่ถ่ายรูปเต็มเครื่อง ไปเดทวันวาเลนไทน์
อ้างว่ารักคุณ แต่พอไม่ให้คุยก็มาโทษคุณ หาว่าอยู่ในคุก
คุกบ้านมันสิ แค่ไม่ได้คุยกับสาวถึงกับรู้สึกติดคุกเเลยหรอ
อยากหลอกตัวเองต่อไปก็เชิญ ผช.ห่วยๆแบบนั้นแค่อ่านยังขยะแขยงเลย
ความคิดเห็นที่ 54
ไปให้สุดทางครับ ใจกว้าง คิดบวกให้สุดทางไปครับ อย่าสงสัยอะไรอีก มันจะกวนใจเปล่าๆ
แล้วถ้าสบายใจพอแล้ว ว่างก็ลองนั่งคิด แนวๆ what if ไว้บ้างก็ดีครับ
- ถ้าวันนึง ไม่มีเค้าแล้ว คุณจะทำอย่างไรต่อ
- ถ้าวันนึง เค้าสองคนมีอะไรกันจริงๆ คุณจะทำยังไงต่อ เมียหลวง หรือ เมียเก่า หรือ อะไรก็ตามลองคิดดู
- ถ้าวันนึง เค้าเอาผู้หญิงคนนั้นมาแทนที่คุณในหลายๆเรื่อง คุณจะไปยังไงต่อ
ฯลฯ
คิดไว้เล่นๆ น่ะครับไม่มีไรมาก
แล้วถ้าสบายใจพอแล้ว ว่างก็ลองนั่งคิด แนวๆ what if ไว้บ้างก็ดีครับ
- ถ้าวันนึง ไม่มีเค้าแล้ว คุณจะทำอย่างไรต่อ
- ถ้าวันนึง เค้าสองคนมีอะไรกันจริงๆ คุณจะทำยังไงต่อ เมียหลวง หรือ เมียเก่า หรือ อะไรก็ตามลองคิดดู
- ถ้าวันนึง เค้าเอาผู้หญิงคนนั้นมาแทนที่คุณในหลายๆเรื่อง คุณจะไปยังไงต่อ
ฯลฯ
คิดไว้เล่นๆ น่ะครับไม่มีไรมาก
ความคิดเห็นที่ 112
สวัสดีค่ะ จขกท
อ่านเรื่องราวทั้งหมดของ จขกท แล้วเหมือนอ่านเรื่องราวของตัวเองมากค่ะ
คุณ ผู้ซึ่งทำทุกอย่าง เพื่อให้ "รัก" คงอยู่
สามีของคุณ ผู้ซึ่งทำทุกอย่าง เพื่อความสุขของ "ตัวเอง"
เราคบกับอดีตมาได้ 13 ปีค่ะ คบมาตั้งแต่วัยเด็กสมัยมัธยมปลาย จนตัดสินใจและแต่งงานกัน มีลูกสาวตัวน้อยน่ารักด้วยกันหนึ่งคน เราเป็นแม่บ้านเต็มเวลาค่ะ ดูแลบ้าน ลูก และอดีตสามี อดีตสามีทำงานนอกบ้าน แรก ๆ ก็ดีทุกอย่างค่ะ ช่วยเราเลี้ยงลูก รีบกลับบ้าน จนวันนึงอดีตสามีเราสอบได้ ข้าราชการครู ทุกอย่างมันค่อย ๆ เปลี่ยนไปค่ะ จากกลับบ้านเร็ว กลายเป็นกลับสามสี่ทุ่ม (อ้างว่าติดประชุม) จากเคยให้เงินเดือนใช้ทุกเดือน กลายเป็นเราต้องเอ่ยปากขอ จากที่เคยช่วยเลี้ยงลูก กลายเป็นเริ่มห่างหาย แต่เราพยายามเข้าใจมาเสมอ เพราะหน้าที่การงานได้เปลี่ยนไป
จนวันนึงเราไปเล่นโทรศัพท์อดีตสามีตามปกติเหมือนที่เคย ๆ เล่น เราไปเจอข้อความส่งหาน้องผู้หญิงคนหนึ่ง แสดงถึงความ "ห่วงใย" มากเกินคำว่า คนที่ทำงานด้วยกัน เราถามความเป็นมา และได้คำตอบกลับมาว่า "เป็นแค่น้องในที่ทำงาน" ตอนนั้นเชื่อค่ะ แต่ในความเชื่อมันทำเราทรมาณมากค่ะ เรากลายเป็นคนที่เชื่อแบบไม่สนิทใจ เพราะหลังจากวันนั้นเราจับได้หลายอย่างมาก มีทั้งแอบส่งเพลงหากัน เพลง "ถูกที่ผิดเวลา" เราเห็นเราไม่พูดอะไรเลยค่ะ เราร้องแบบไม่มีเสียง มันมีแต่น้ำตาไหลออกมา ตอนนั้นอดีตสามีรู้ว่าเราเห็นก็รีบขอโทษ บอกว่าไม่มีอะไร ให้เราโทรไปถามน้องคนนั้นได้เลย และเช่นเคยค่ะ เราเชื่ออดีตสามีอีกครั้ง แต่หลังจากนี้มันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ เรากลายเป็นคนขี้ระแวงเต็มรูปแบบ ขี้หงุดหงิด ทำร้ายตัวเอง นอนไม่หลับ จากคนที่นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้วเพราะเลี้ยงลูกเองเต็มเวลา กลายเป็นบางวันนอนแค่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเท่านั้น เพราะมันเริ่มมีอาการจิตเวชค่ะ ความคิดวนทุกอย่างมันวนเวียนแบบนั้น ปากเรายิ้มนะคะ พูดคุยได้ปกติ แต่ในใจเราไม่ไหวแล้ว และสามีเราก็ต้ังรหัสโทรศัพท์ใหม่ เฟส ไลน์ ทุกอย่างมีรหัส เราถามว่าทำไมต้องเปลี่ยน เค้าให้เหตุผลว่า เป็นสามีภรรยากันแล้วต้องเชื่อใจกันสิ เค้าอึดอัด ขอชีวิตส่วนตัวบ้าง
เราทนอยู่แบบนี้มา 5 ปี มันมีเรื่องราวมากกว่านี้อีกมากค่ะ แต่อันนี้ยกตัวอย่างมา ทุกวันนี้เราแยกทางกับอดีตสามีแล้วค่ะ อยากจะบอกว่า ทรมาณนะคะแรก ๆ เพราะเราเชื่อมั่นมาตลอดว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ต้องมี พ่อ แม่ ลูก เราไม่อยากให้ลูกเราขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป เราโทษตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อยื้ออดีตสามีกลับมา จนเหมือนคนบ้าค่ะ จนสุดท้ายมันไม่มีทางกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกแล้วค่ะ
เราเริ่มรักษาใจตัวเองไปเรื่อย ๆ หลังจากเลิกลากันไป เราทำใจได้ในระยะเวลา 4 เดือนค่ะ อาจเป็นเพราะมันเจ็บมามากและลึก ๆ แล้วเราทำใจมาก่อนแล้ว ทุกวันนี้ชีวิตดีขึ้นมากกกกกกกก ค่ะ ย้ำว่า มากกกกกกกกกก และเราไม่ต้องกินยานอนหลับ ไม่ต้องหาหมออีกแล้ว เราเลี้ยงลูกด้วยความสุขมากกว่าทุกข์ บางอย่างการที่เรามีแล้วมันไม่ดี บั่นทอนจิตใจตัวเอง อย่ามีเลยค่ะ คนที่เค้าไม่ได้รักเราและพร้อมจะดูแลเรา เค้าไม่ได้จะพยายามทำอะไรเพื่อเราอยู่แล้วค่ะ จำไว้นะคะ คนประเภทนี้ มันมีแต่คำพูดที่ทำให้เราหลงจมอยู่กับที่ ดำดิ่งไปกับคำพูดสวยหรู แต่การกระทำมันไม่มีอะไรเลย ลองค่อย ๆ ถอยออกมาเถอะค่ะ วันใดที่คุณถอยออกมาได้ คุณจะรู้เลยว่า คุณมีค่ากว่าคนแบบนั้นเป็นไหน ๆ
อ่านเรื่องราวทั้งหมดของ จขกท แล้วเหมือนอ่านเรื่องราวของตัวเองมากค่ะ
คุณ ผู้ซึ่งทำทุกอย่าง เพื่อให้ "รัก" คงอยู่
สามีของคุณ ผู้ซึ่งทำทุกอย่าง เพื่อความสุขของ "ตัวเอง"
เราคบกับอดีตมาได้ 13 ปีค่ะ คบมาตั้งแต่วัยเด็กสมัยมัธยมปลาย จนตัดสินใจและแต่งงานกัน มีลูกสาวตัวน้อยน่ารักด้วยกันหนึ่งคน เราเป็นแม่บ้านเต็มเวลาค่ะ ดูแลบ้าน ลูก และอดีตสามี อดีตสามีทำงานนอกบ้าน แรก ๆ ก็ดีทุกอย่างค่ะ ช่วยเราเลี้ยงลูก รีบกลับบ้าน จนวันนึงอดีตสามีเราสอบได้ ข้าราชการครู ทุกอย่างมันค่อย ๆ เปลี่ยนไปค่ะ จากกลับบ้านเร็ว กลายเป็นกลับสามสี่ทุ่ม (อ้างว่าติดประชุม) จากเคยให้เงินเดือนใช้ทุกเดือน กลายเป็นเราต้องเอ่ยปากขอ จากที่เคยช่วยเลี้ยงลูก กลายเป็นเริ่มห่างหาย แต่เราพยายามเข้าใจมาเสมอ เพราะหน้าที่การงานได้เปลี่ยนไป
จนวันนึงเราไปเล่นโทรศัพท์อดีตสามีตามปกติเหมือนที่เคย ๆ เล่น เราไปเจอข้อความส่งหาน้องผู้หญิงคนหนึ่ง แสดงถึงความ "ห่วงใย" มากเกินคำว่า คนที่ทำงานด้วยกัน เราถามความเป็นมา และได้คำตอบกลับมาว่า "เป็นแค่น้องในที่ทำงาน" ตอนนั้นเชื่อค่ะ แต่ในความเชื่อมันทำเราทรมาณมากค่ะ เรากลายเป็นคนที่เชื่อแบบไม่สนิทใจ เพราะหลังจากวันนั้นเราจับได้หลายอย่างมาก มีทั้งแอบส่งเพลงหากัน เพลง "ถูกที่ผิดเวลา" เราเห็นเราไม่พูดอะไรเลยค่ะ เราร้องแบบไม่มีเสียง มันมีแต่น้ำตาไหลออกมา ตอนนั้นอดีตสามีรู้ว่าเราเห็นก็รีบขอโทษ บอกว่าไม่มีอะไร ให้เราโทรไปถามน้องคนนั้นได้เลย และเช่นเคยค่ะ เราเชื่ออดีตสามีอีกครั้ง แต่หลังจากนี้มันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ เรากลายเป็นคนขี้ระแวงเต็มรูปแบบ ขี้หงุดหงิด ทำร้ายตัวเอง นอนไม่หลับ จากคนที่นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้วเพราะเลี้ยงลูกเองเต็มเวลา กลายเป็นบางวันนอนแค่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเท่านั้น เพราะมันเริ่มมีอาการจิตเวชค่ะ ความคิดวนทุกอย่างมันวนเวียนแบบนั้น ปากเรายิ้มนะคะ พูดคุยได้ปกติ แต่ในใจเราไม่ไหวแล้ว และสามีเราก็ต้ังรหัสโทรศัพท์ใหม่ เฟส ไลน์ ทุกอย่างมีรหัส เราถามว่าทำไมต้องเปลี่ยน เค้าให้เหตุผลว่า เป็นสามีภรรยากันแล้วต้องเชื่อใจกันสิ เค้าอึดอัด ขอชีวิตส่วนตัวบ้าง
เราทนอยู่แบบนี้มา 5 ปี มันมีเรื่องราวมากกว่านี้อีกมากค่ะ แต่อันนี้ยกตัวอย่างมา ทุกวันนี้เราแยกทางกับอดีตสามีแล้วค่ะ อยากจะบอกว่า ทรมาณนะคะแรก ๆ เพราะเราเชื่อมั่นมาตลอดว่า ครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ต้องมี พ่อ แม่ ลูก เราไม่อยากให้ลูกเราขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป เราโทษตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อยื้ออดีตสามีกลับมา จนเหมือนคนบ้าค่ะ จนสุดท้ายมันไม่มีทางกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกแล้วค่ะ
เราเริ่มรักษาใจตัวเองไปเรื่อย ๆ หลังจากเลิกลากันไป เราทำใจได้ในระยะเวลา 4 เดือนค่ะ อาจเป็นเพราะมันเจ็บมามากและลึก ๆ แล้วเราทำใจมาก่อนแล้ว ทุกวันนี้ชีวิตดีขึ้นมากกกกกกกก ค่ะ ย้ำว่า มากกกกกกกกกก และเราไม่ต้องกินยานอนหลับ ไม่ต้องหาหมออีกแล้ว เราเลี้ยงลูกด้วยความสุขมากกว่าทุกข์ บางอย่างการที่เรามีแล้วมันไม่ดี บั่นทอนจิตใจตัวเอง อย่ามีเลยค่ะ คนที่เค้าไม่ได้รักเราและพร้อมจะดูแลเรา เค้าไม่ได้จะพยายามทำอะไรเพื่อเราอยู่แล้วค่ะ จำไว้นะคะ คนประเภทนี้ มันมีแต่คำพูดที่ทำให้เราหลงจมอยู่กับที่ ดำดิ่งไปกับคำพูดสวยหรู แต่การกระทำมันไม่มีอะไรเลย ลองค่อย ๆ ถอยออกมาเถอะค่ะ วันใดที่คุณถอยออกมาได้ คุณจะรู้เลยว่า คุณมีค่ากว่าคนแบบนั้นเป็นไหน ๆ
แสดงความคิดเห็น
สามีแอบไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นสองต่อสอง ... ทำยังไงให้เลิกคิด เลิกระแวงสามีตัวเอง
เราแต่งงานมาแล้ว 3 ปี ... ปกติก็ไม่ค่อยได้เชคมือถือสามีนะคะ แต่มาวันนึง รู้สึกว่าสามีหงุดหงิดง่ายที่บ้าน ชอบอารมณ์เสีย เลยแอบดูมือถือตอนเค้าหลับ ปรากฎว่า.....
- แอบคุยกับผู้หญิงคนนึงอย่างสนิทสนม ถามไถ่ ให้กำลังใจกันตลอด ถ่ายรูปให้กันดูว่าตัวเองทำอะไร
- มีภาพไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสองหลายที่ ทั้งคาเฟ่ วัด สวนสนุก (ส่วนมากไปคาเฟ่) ส่วนมากเป็นภาพผู้หญิงที่สามีเราถ่ายให้ มีภาพคู่บ้าง แต่ไม่เยอะ
- ไปหากันวันวาเลนไทน์ แต่อ้างว่าไปซื้อของให้เรา
- สามีโกหก เวลาไปกับผู้หญิงคนนั้น และไม่เคยบอกเราเวลาไปด้วยกัน
- สามีซื้อของขวัญให้ผู้หญิงคนนั้นบ่อยๆ ไม่เคยบอก้รา
- ไม่เคยเล่าถึง หรือเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนี้ให้เราได้ยิน
- สามีลบบางข้อความที่คุยกันกับผู้หญิงคนนั้นออก เหมือนจงใจปกปิด ไม่อยากให้เราเห็น
- เราเคยโทรไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น เค้าบอกสามีเราชวน แต่พอถามสามีเรา สามีเราบอก ส่วนมากผู้หญิงคนนั้นชวน
*** ลืมบอก... ผู้หญิงคนนี้เคยทำงานที่เดียวกันกับสามีเรา แต่ลาออกไปแล้ว แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ และผู้หญิงคนนั้นยังโสดและเด็กกว่าเราค่ะ
พอเราเห็นภาพในมือถือสามี ซึ่งแทบไม่มีรูปเราอยู่เลย แต่ดันมีรูปผู้หญิงคนนั้น ยิ้มกันร่าเริงสดใส ภาพเต็มไปหมด ติดตาเรามาก แล้วเราอยากเลิกเลยค่ะ ยิ่งรู้ว่ามีการโกหก ยิ่งรับไม่ได้ ... แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ
- สามีบอกคิดกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนพี่น้องแท้ๆ และบอกว่าผู้หญิงคนนั้นก็คิดเหมือนกัน
- สามีบอกว่าที่พาน้องไปเที่ยว เพราะอยากตอบแทน ที่น้องคอยรับฟังปัญหา (สามีบอกไม่อยากเอาเรื่องงานกลับบ้าน เลยไม่อยากเล่าให้เราฟัง)
- สามีร้องไห้ บอกว่ารักเรา อยากขอโอกาส
- สามีบอกจะเลิกคุยกับผู้หญิงคนนั้น .. แต่พอเลิกคุยไม่นาน สามีก็ดูเศร้า แล้วก็สารภาพกับเราว่า รู้สึกผิด ที่ทำดีกับผู้หญิงคนนั้น แล้วอยู่ๆ ก็ทิ้งไป
- สามีพยายามย้ำกับเราว่าไม่คิดอะไร เมืองนอกเค้าก็ทำดันแบบนี้
- สามีเศร้าและโกรธมาก ที่เราแอบดูข้อความและภาพในมือถือ พูดเหมือนตัวเองอยู่ในคุก
- เราเห็นสามีไม่สบายใจ เลยชวนผู้หญิงคนนั้นมากินข้าว ไปกัน 3 คน อย่างน้อยเรายังสบายใจ และยังพอสังเกตได้ว่าเค้ามีอะไรกันรึเปล่า แต่ผู้หญิงคนนั่นปฏิเสธ
..... แต่ตอนนี้ เหมือนทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้นค่ะ เราบอกแฟนเราเลยว่า อยากคุยก็คุยกับผู้หญิงคนนั้นก็คุยเถอะ ไม่อยากให้เศร้า หรือทำเหมือนเราไปบังคับ
แล้วตอนนี้ก็เหมือนเค้าจะกลับมาคุยกัน
เอาจริงๆ คือถ้าทุกอย่างอยู่ในสายตา ไปไกนก็บอก เราก็โอเคนะคะ ขอแค่สามีไม่ปิดบัง ไม่โกหก ไม่แอบๆ ซ่อนๆ ไปไหนมาไหนสองต่อสองบ่อยๆ แถมซื้อของขวัญให้กันบ่อยๆ อีก เราก็ไม่อยากระแวง..... ถ้าสามีสบายใจ เราก็จะไม่เครียดด้วย ..... แม่ในใจลึกๆ ก็ยังแอบคิดว่าเค้าชอบกัน รักกันมาก ถึงแม้จะไม่ได้ถึงขั้นมีอะไรกันก็เถอะ
เราควรทำยังไงต่อดีคะ ให้เลิกคิด เลิกระแวง หรือทำบุญที่ไหนดีคะ ???