พอดีเห็นว่า ผมน่าจะเอารีวิวซีรีส์เรื่องใหม่ๆ ที่เพิ่งฉายจบ ที่ลงไว้ในกระทู้รวม
https://ppantip.com/topic/39758422
มาลงแยกไว้ต่างหากบ้าง เผื่อใครกำลังหาดูจะได้เป็นแนวทางพิจารณาครับ

รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 116 Twenty Five, Twenty One 16 EP EP ละประมาณ 70-80 นาที / Netflix

เมื่อคุณพบว่า ซีรีส์ที่คุณกำลังดูอยู่ มันยอดเยี่ยมในทุกองค์ประกอบเสียจนคุณกำลังจะยกมันไว้เป็นซีรีส์ที่ดีที่สุดในใจ แต่คำถามที่สำคัญที่สุดของเรื่อง ที่ทุกคนอยากรู้ ยังไม่รู้ว่าจะได้รับคำตอบแบบไหน ดูจบแล้วจะต้องไปเผาช่อง TVN อย่างที่หลายๆคนขู่กันไว้หรือไม่ นี่คือความรู้สึกของผมตอนที่ดู EP16 ของ Twenty Five, Twenty One เอาเป็นว่า เรามาย้อนไปดูเรื่องราวทั้งหมดกันก่อนดีกว่า

Twenty Five, Twenty One เป็นซีรีส์แนวกีฬา Coming of age และ Romantic comedy ที่ในตอนแรกๆที่ได้ดู ผมรู้สึกว่าองค์ประกอบมันคล้ายกับซีรีส์ญี่ปุ่นที่เคยดูสมัยเด็ก ที่เป็นแนวกีฬา สร้างกำลังใจ เน้นเพื่อนและความสามัคคี ประมาณนั้น

แต่พอเจอวิธีการเล่าเรื่อง มันดูแปร่งๆ ใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านตัวละคร คิมมินแช (จำชื่อน้องเขาไว้ให้ดีนะครับ) ลูกสาวของนาฮีโด นักกีฬาฟันดาบชื่อดัง ที่มีเหตุให้หนีแม่กลับมาบ้านยาย แล้วได้ไปเจอไดอารี่ของแม่ตัวเองสมัยเด็ก ซึ่งเรื่องราวหลักจะถูกเล่าผ่านไดอารี่

สิ่งที่น่าสนใจคือ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราได้เห็นยุค Covid-19 ในซีรีส์เกาหลีอย่างเต็มๆ เหมือนโลกจริง ทุกคนใส่หน้ากาก ถึงแม้จะแค่เฉพาะช่วงของคิมมินแชก็ตาม อยากรู้เหมือนกันว่าพอผ่านไปหลายๆปี ที่เราผ่านเรื่องราวของ Covid-19 ไป แล้วกลับมาดู เราจะรู้สึกกับมันอย่างไร

เทคนิคการเล่าเรื่องแบบน้องคิมมินแชเนี่ย จริงๆเขาก็ใช้กันทั่วไป แต่ซีรีส์เหมือนจงใจเล่าตอนจบของเรื่องไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เพราะคุณเอารุ่นลูกมาเล่า แน่นอนว่าดูไปก็ทำใจไป และเรื่องราวของเรื่องนี้ก็ร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ เพราะความสัมพันธ์ที่นาฮีโดเล่าไว้มันช่างประทับใจจริงๆ

พอย้อนกลับมาสู่เรื่องราวที่เริ่มต้นยุคประมาณปี 1998 การพบกันของพระเอกนางเอกและผองเพื่อน บอกเลยว่ามันเป็นส่วนที่ดีที่สุด เล่าเรื่องได้ทรงพลัง ยอดเยี่ยม เหนือชั้นทุกรายละเอียด ความรักของพระนาง ความสัมพันธ์ของเพื่อน มันสุดยอด บอกเลยว่าทั้งตลก สนุก มีความ Nostalgia ที่แม้แต่ตัวเราเอง ก็อดยิ้มไปด้วยกันไปไม่ได้ ง่ายๆ ถ้าคุณอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกับพระนางในเรื่อง คุณจะโคตรอิน

อาจด้วยการแคสติ้งนักแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วยกระมัง ที่ทำให้ผลที่ออกมานั้นทรงพลังอย่างยิ่ง เหนืออื่นใด ขอพูดถึงตัวละครหลักอย่าง นาฮีโด เสียหน่อย บทนี้แสดงโดย "คิมแตรี"

"คิมแตรี" ถ้าคุณไม่ได้ดู Mr. Sunshine คุณอาจจะสงสัยว่าเธอเป็นใคร เพราะเธอเป็นนักแสดงสายภาพยนตร์ ผลงานสร้างชื่ออย่าง The Handmaiden นั้น มันสุดยอดมาก น่าเป็นหนังอิโรติกระทึกขวัญเรต 18+ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมาเลยทีเดียว (เรื่องนี้เวลาดูห้ามเปิดกลางบ้านนะทุกคน)

เมื่อคุณได้คิมแตรีมาเล่น เธอก็แสดงศักยภาพมหัศจรรย์ไว้ในบทนาฮีโด การแสดงเป็นเด็กอายุ 18 ปีที่สมจริงยิ่งกว่าเอาเด็กอายุ 18 ปีคนไหนๆมาเล่นเสียอีก ทั้งที่จริงๆเธออายุ 32 ปีจ้า!!! มันทรงพลังสุดๆ ทำให้นึกถึงที่ ซอฮยอนจินแสดงใน Another Miss Oh และ ชินฮเยซอนแสดงใน Mr. Queen นั่นคือระดับสูงสุดในใจผม

คิมแตรี ทำให้บทนาฮีโดนั้นสมบูรณ์แบบ อีกทั้งการเรียนฟันดาบกว่าครึ่งปีเพื่อบทนี้ ทำให้เธอเป็นนาฮีโดในทุกอิริยาบท ลองดูให้ละเอียดนะครับ มันทุกการเคลื่อนไหวเลยทีเดียว แถมยังโกงอีกเล็กน้อยด้วยหน้าตาแสนเด็กของเธอ แล้วใครจะสู้ได้ (ในวงการ ผมว่ามีแค่พัคโบยองที่หน้าเด็กพอๆกับเธอ)

เมื่อคิมแตรีทำได้ยอดเยี่ยม มันส่งพลังไปให้ตัวละครอื่นที่เหลือทั้งหมดด้วย ทำเราได้เห็น นัมจูฮยอก ในบท แพคอีจิน ที่แสดงดีกว่าเรื่องไหนๆที่เขาเคยแสดงมา ใครเคยบ่นว่าเขาดูธรรมดาในด้านการแสดง ต้องดูเรื่องนี้ อีกทั้ง โบนา ที่แสดงเป็น โกยูริม นั้นก็แสดงได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน อีกทั้งลีจูเมียงในบทจีซึงวาน และชเว ฮย็อนอุก ในบทมุนจีอุง ก็ช่างแสดงได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน ทั้ง 5 คนท็อปฟอร์มเลยทีเดียว

สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ในเรื่องนี้ และมันสุดยอด คือความสัมพันธ์ของนาฮีโดและโกยูริม ที่เป็นทั้งเป้าหมาย คู่แข่ง เพื่อนรัก ในเวลาเดียวกัน ฉากของทั้งคู่ในใน EP15 นั้น เป็น 1 ในฉากที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยดูมาในซีรีส์เกาหลี

ส่วนความรักนั้น มันก็ตามวัยนั้นแหล่ะครับ รวดเร็ว ทรงพลัง โดยมองข้ามสารพัดอุปสรรคทุกอย่างไป ด้วยปริบทในตอนนั้น สภาพเศรษฐกิจ ความบีบคั้นด้านการเงิน รวมถึงระดับการศึกษาที่เป็นอุปสรรคสำคัญ คุณคงไม่สามารถคิดแทนพระเอกได้ว่า ทำไมไม่ทำอย่างนี้ ทำไมถึงทำอย่างนั้น เดิมพันมันสูงครับ ผมมองว่าทั้งสองคนนั้นรักกันจนกลัวอีกฝ่ายจะเจ็บปวดเพราะตัวเอง ดูแล้วปวดใจใช้ได้เลย ทรมานคนดูได้ดี!!!

ในด้านองค์ประกอบ งานสร้าง การกำกับ เขียนบท มันยอดเยี่ยมไปหมด ทั้งที่ยังมีท่าทีของการทดลองเล่นกับใจคนดู แต่ก็ยังคงพาเรื่องราวไปได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ยิ่งการนำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มีส่วนสำคัญทั้งต่อเกาหลีและโลกมาร้อยเรียง และนำมาใช้เป็นประเด็นสำคัญในเรื่อง ผมมองว่าแทบจะไม่มีซีรีส์เรื่องไหนที่ทำแบบนี้ได้เจ๋งเท่าเรื่องนี้เลย

ณ จุดนี้รู้สึกว่ายังมีข้อดีอีกมากมายที่อยากพูดถึง แต่เอาเป็นว่า เรามาลองมองดูจุดที่อาจเป็นจุดด้อยไปบ้าง จุดแรกที่เห็นชัดๆคือ นาฮีโดตอนที่เป็นแม่ ผมเข้าใจนะครับว่าพยายามหานักแสดงที่หน้าคล้ายคิมแตรีมา เพียงแต่การแสดงอันโคตรพิเศษของคิมแตรี ยากที่จะหาใครมาทำให้มันดูเป็นตัวละครเดียวกันในวัยที่โตแล้วได้เลย ไม่เกี่ยวกับฝีมือการแสดงด้วย จึงรู้สึกขัดใจทุกครั้งที่ดูนาฮีโดตอนที่เป็นแม่

ต่อมา ก็คงต้องพูดถึง Step การเล่าเรื่องในช่วง EP ท้ายๆ เสียหน่อย ผมเข้าใจนะครับว่านี่เป็นซีรีส์ที่ต้องดึงเรตติ้งกันตอนต่อตอน แต่ตอนจบ EP14 ที่ทำให้เป็นที่พูดถึงกันทั้งบ้านทั้งเมืองนั้น ผมมองว่ามันไม่จำเป็นต้องเล่าตอนนั้น เพราะมันทำให้ EP15 ที่เล่าเรื่องราวไว้อย่างยอดเยี่ยมมันดู drop ลงไป เหมือนเราอยากจะอิน แต่มีอะไรแทงในอกให้มันเจ็บอยู่ตลอด ผมมองว่าไม่เล่าก็ไม่เห็นจะเป็นไร

ส่วน step เทพที่ผมหวังจะได้เห็นในตอนสุดท้าย มันกลับเน้นความคมของคำพูดแทน มันดีนะ แต่ผมแอบผิดหวังเล็กๆ และไอ้ end credit ที่ใส่มาท้ายของท้ายสุดนั่นน่ะ มันควรจะทำให้อึ้งหรือแอบยิ้มสิครับ ไม่ใช่บอกในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว ปัดโถ่!! แล้วสิ่งของต่างๆ สัญลักษณ์เยอะแยะ ที่แอบยัดไว้ประกอบห้องที่ที่มินแชอยู่นะ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้สิ บอกเลยว่ารู้สึกเจ็บที่คิดมากไปเอง555 เฮ้อ!!!

เอาเป็นว่าใครยังไม่ได้ดูก็ไปดูเถอะครับ มันยอดเยี่ยมจนทำให้ประเด็นสืบสวนสอบสวนที่ไม่ควรจะมีน่ะ ไม่สามารถลดทอนความยอดเยี่ยมของซีรีส์เรื่องนี้ได้ "เพราะเรื่องราวระหว่างทาง มันยอดเยี่ยม" ขอฝากไว้เท่านี้ครับ