.........การยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นครั้งใหญ่ ในช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาการอาพาทที่โรงพยาบาล เนยเป็นไม่กี่คนที่สามารถเข้า-ออก ห้องรักษาตัวได้อย่างสนิทใจ แต่กลับพบว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการยักยอกทรัพย์
เปิดพฤติกรรมและเส้นทางยักยอกทรัพย์
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 นายเนย นามสมมุติ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด ฝ่ายฆราวาสของสมเด็จพระวันรัต ได้ใช้อุบาย หลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน จากนั้น นายเนย ได้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนำไปแสดงต่อพนักงานธนาคารกสิกรไทย แห่งหนึ่ง เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม
ต้นเดือนมกราคม 2565 นายเนย ยังคงใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน แล้วนำมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนเองต้องการ อีกเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ นายเนย ได้มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง เป็นผู้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวไปแสดงต่อพนักงานธนาคารกสิกรไทย เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม แล้วให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายทำธุรกรรมซื้อแคชเชียร์เช็คของธนาคารกสิกรไทย สั่งจ่ายให้แก่ นายเนย
จากนั้น นายเนยได้นำแคชเชียร์เช็คไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง ทางวัดวชิรธรรมารามได้ตรวจพบการทุจริตของนายเนย จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเนย ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในวันที่ 22 มีนาคม 2565
ต่อมา หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเนย ตามกฎหมาย แล้ว ทางวัดบวรนิเวศวิหาร เชื่อว่านายเนย น่าจะทุจริต เอาเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดของวัดบวรนิเวศวิหารไปด้วย
หลังจากนั้น นายเนย ได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองทำธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมาราม ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 80 ล้านบาทเศษ และวัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาทเศษ รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 190 ล้านบาทเศษ
รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 190 ล้านบาทเศษ การกระทำของ นายเนย จึงเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกง, ลักทรัพย์, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และฟอกเงิน โดยวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเนย ในวันที่ 1 เมษายน 2565
https://www.bangkokbiznews.com/news/997224
เบื้องลึก เปิดพฤติกรรม "นายเนย" ขโมยยักยอกเงินวัด 190 ล้าน ใช้อุบายหลอก "สมเด็จพระวันรัต" เบื้องหน้าและเบื้องหลังข่าวดัง
เปิดพฤติกรรมและเส้นทางยักยอกทรัพย์
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 นายเนย นามสมมุติ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด ฝ่ายฆราวาสของสมเด็จพระวันรัต ได้ใช้อุบาย หลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน จากนั้น นายเนย ได้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนำไปแสดงต่อพนักงานธนาคารกสิกรไทย แห่งหนึ่ง เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม
ต้นเดือนมกราคม 2565 นายเนย ยังคงใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน แล้วนำมาเขียนจำนวนเงินตามที่ตนเองต้องการ อีกเช่นเคย แต่ในครั้งนี้ นายเนย ได้มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง เป็นผู้นำใบถอนเงินฉบับดังกล่าวไปแสดงต่อพนักงานธนาคารกสิกรไทย เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม แล้วให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายทำธุรกรรมซื้อแคชเชียร์เช็คของธนาคารกสิกรไทย สั่งจ่ายให้แก่ นายเนย
จากนั้น นายเนยได้นำแคชเชียร์เช็คไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนเอง ทางวัดวชิรธรรมารามได้ตรวจพบการทุจริตของนายเนย จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเนย ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในวันที่ 22 มีนาคม 2565
ต่อมา หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดวชิรธรรมาราม ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายเนย ตามกฎหมาย แล้ว ทางวัดบวรนิเวศวิหาร เชื่อว่านายเนย น่าจะทุจริต เอาเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดของวัดบวรนิเวศวิหารไปด้วย
หลังจากนั้น นายเนย ได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองทำธุรกรรมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรนิเวศวิหาร มายังบัญชีเงินฝากของตนเอง เป็นเหตุให้วัดวชิรธรรมาราม ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 80 ล้านบาทเศษ และวัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาทเศษ รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 190 ล้านบาทเศษ
รวมความเสียหายของทั้งสองวัด เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 190 ล้านบาทเศษ การกระทำของ นายเนย จึงเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกง, ลักทรัพย์, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และฟอกเงิน โดยวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเนย ในวันที่ 1 เมษายน 2565
https://www.bangkokbiznews.com/news/997224