กรณีการจับกุมนายอภิรัตน์ หรือ เนย ชยางกูร ณ อยุธยา อดีตเจ้าหน้าที่บริการโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และอดีตไวยาวัจกร วัดบวรนิเวศวิหาร รวมทั้งเป็นคนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ที่มรณภาพไปแล้ว ก่อเหตุฉ้อโกงเงินวัดบวรฯ และวัดสาขาต่างๆ ไปกว่า 190 ล้านบาทตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 10 ส.ค.2565 ที่กองบังคับการปราบปราม พระมหาจรัญ สุจารโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. และพ.ต.ท.ชลิต ทิพย์ธำรง รองผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อตรวจสอบและยืนยันทรัพย์สินของกลางในคดี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. อายัดไว้เป็นของกลางจำนวน 326 รายการ
พระเครื่องเลี่ยมทอง เช่น พระกริ่งชัยวัฒน์ พระกริ่งปวเรศ พระไพรีพินาศ เหรียญพระพุทธชินสีห์โบราณที่ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นสมัยเสด็จประพาสยุโรป รวมจำนวนหลายร้อยองค์ รวมทั้งเครื่องเพชรทองต่างๆ อีกหลายสิบรายการ
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์สินจากการกระทำความผิดไปแล้วหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ราคา 15 ล้านบาท รถปอร์เช่ ราคา 6.9 ล้านบาท รถวอลโว่ รุ่น XC 40 ราคา 2.59 ล้านบาท รถเทสล่า ราคา 3.1 ล้านบาท, กระเป๋าแบรนด์เนม แอร์เมส ,หลุยส์ วิตตอง และตุ๊กตาหมีแบร์บริค รวมมูลค่าทรัพย์ที่ยึดคืนมาได้ทั้งหมดประมาณ 120 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเข้ายืนยันทรัพย์สินของกลางครั้งนี้ เพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินใดบ้างที่เป็นของวัด พนักงานสอบสวนก็จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ส่งคืนทรัพย์ดังกล่าวให้ตกเป็นของวัด แต่หากทรัพย์สินใดไม่สามารถระบุที่มาที่ไปได้ก็จะดำเนินการขายทอดตลาด และนำเงินที่ส่งคืนให้ทางวัดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นขณะนี้พนักงานสอบสวน ได้สั่งฟ้อง พร้อมส่งสำนวนการสอบสวนไปให้อัยการพิจารณาแล้ว ส่วนตัวนายอภิรัตน์ ผู้ต้องหา ขณะนี้ก็ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯด้วย
https://www.msn.com/th-th/news/national/พระวัดบวรฯ-ยืนยันของกลาง-ก่อนส่งคืนวัด-คดีอดีตไวยาวัจกร-ฉ้อโกง190-ล้าน/ar-AA10v9eY?li=BBr8Cnp
พระวัดบวรฯ ยืนยันของกลาง ก่อนส่งคืนวัด คดีอดีตไวยาวัจกร ฉ้อโกง190 ล้าน
ความคืบหน้า วันที่ 10 ส.ค.2565 ที่กองบังคับการปราบปราม พระมหาจรัญ สุจารโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. และพ.ต.ท.ชลิต ทิพย์ธำรง รองผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อตรวจสอบและยืนยันทรัพย์สินของกลางในคดี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. อายัดไว้เป็นของกลางจำนวน 326 รายการ
พระเครื่องเลี่ยมทอง เช่น พระกริ่งชัยวัฒน์ พระกริ่งปวเรศ พระไพรีพินาศ เหรียญพระพุทธชินสีห์โบราณที่ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นสมัยเสด็จประพาสยุโรป รวมจำนวนหลายร้อยองค์ รวมทั้งเครื่องเพชรทองต่างๆ อีกหลายสิบรายการ
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์สินจากการกระทำความผิดไปแล้วหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์หรู ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ราคา 15 ล้านบาท รถปอร์เช่ ราคา 6.9 ล้านบาท รถวอลโว่ รุ่น XC 40 ราคา 2.59 ล้านบาท รถเทสล่า ราคา 3.1 ล้านบาท, กระเป๋าแบรนด์เนม แอร์เมส ,หลุยส์ วิตตอง และตุ๊กตาหมีแบร์บริค รวมมูลค่าทรัพย์ที่ยึดคืนมาได้ทั้งหมดประมาณ 120 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเข้ายืนยันทรัพย์สินของกลางครั้งนี้ เพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินใดบ้างที่เป็นของวัด พนักงานสอบสวนก็จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ส่งคืนทรัพย์ดังกล่าวให้ตกเป็นของวัด แต่หากทรัพย์สินใดไม่สามารถระบุที่มาที่ไปได้ก็จะดำเนินการขายทอดตลาด และนำเงินที่ส่งคืนให้ทางวัดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นขณะนี้พนักงานสอบสวน ได้สั่งฟ้อง พร้อมส่งสำนวนการสอบสวนไปให้อัยการพิจารณาแล้ว ส่วนตัวนายอภิรัตน์ ผู้ต้องหา ขณะนี้ก็ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯด้วย
https://www.msn.com/th-th/news/national/พระวัดบวรฯ-ยืนยันของกลาง-ก่อนส่งคืนวัด-คดีอดีตไวยาวัจกร-ฉ้อโกง190-ล้าน/ar-AA10v9eY?li=BBr8Cnp