PEOPLE สื่ออเมริกันเก่าแก่ได้ลงบทสัมภาษณ์ของซีวอนในวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาทางออนไลน์ และ Newsweek สื่ออเมริกันเก่าแก่อีกเจ้าได้ลงบทสัมภาษณ์ของยูนิต D&E ในวันที่ 31 มีนาคมผ่านมาทางออนไลน์เช่นกัน จึงขออนุญาตนำคำแปลบทสัมภาษณ์ของสื่อทั้งสองเจ้ามาแบ่งปันค่ะ
► ดารา K-Pop ซีวอน ชเว เปิดใจเกี่ยวกับ 'Hate Comments' ทางออนไลน์ และการเอาชนะมันหลังจากความกลัว [
1]
► ทงเฮและอึนฮยอก Super Junior-D&E และความรู้สึก 'หลงทาง' ในช่วงโรคระบาด [
2]
► ดารา K-Pop ซีวอน ชเว เปิดใจเกี่ยวกับ 'Hate Comments' ทางออนไลน์ และการเอาชนะมันหลังจากความกลัว
สมาชิกวง Super Junior รายนี้ได้ร่วมมือกับ UNICEF Korea ครั้งแรกในปี 2010 และได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการสนับสนุนปัญหาด้านมนุษยธรรมของเด็ก รวมถึงเรื่องพัฒนาการในวัยเด็ก ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต การศึกษา การกลั่นแกล้ง การแพทย์ และนโยบายทางสังคม
อย่างเช่น ในช่วงการระบาดใหญ่นี้ ชเวเป็นผู้นำการประชุมเยาวชนจิตเมตตาทางออนไลน์ โดยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนและทำงานร่วมกับเด็กโดยตรงเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ล่าสุดดารารายนี้ยังบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนความพยายามต่อ Climate Change ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Life Donation ของ UNICEF
เพื่อเป็นเกียรติแก่การทำงานของเขาร่วมกับองค์กร ดาราวัย 35 ปีได้เปิดใจกับ PEOPLE เกี่ยวกับประสบการณ์ บทเรียน และความทรงจำอันมีค่าที่สุดของเขากับ UNICEF
คุณเข้ามามีส่วนร่วมกับ UNICEF ครั้งแรกได้อย่างไร? มีทูต UNICEF ที่คุณชื่นชมบ้างไหม?
มีทูต UNICEF หลายคนที่ผมอยากเรียนรู้และเจริญรอยตาม แต่คนที่ผมนึกถึงมากที่สุดคือ Audrey Hepburn เธอไม่ได้เป็นนักแสดงที่เก่งที่สุดในยุคของเธอเท่านั้น แต่ความถ่อมตนของเธอยังสร้างความประทับใจให้พวกเราทุกคน เธอไม่ถือตัวและยื่นมือไปทุกที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ หลังจากเกษียณ เธอก็อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนยากไร้ในแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย แม้แต่ช่วงเวลาที่เธอต่อสู้กับโรคมะเร็ง เธอก็แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทที่มีต่อ UNICEF และด้วยหัวใจอันงดงามที่เธอแสดงให้เห็นนี้ ผมเชื่อว่านี่กลายมาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกคน
คุณช่วยแบ่งปันโมเมนท์ที่มีความหมายและเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณมากที่สุดในระหว่างการทำงานร่วมกับ UNICEF ได้ไหม?
ครั้งหนึ่งผมเคยเข้าร่วมการประชุมที่มาเลเซียในปี 2018 ที่มีหัวข้อเป็นเรื่องการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต มีการแบ่งปันเรื่องราวจากผู้พูดมากมาย รวมถึงช่วง Q&A หลายคนในที่ประชุมคิดว่าผมคงไม่เคยเจอหรือได้รับความคิดเห็นมุ่งร้ายมาก่อน เมื่อถึงตาที่ผมจะพูด มีคนถามขึ้นมาว่า "ในฐานะศิลปิน K-pop คุณได้รับความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆ มากมาย คุณคงนึกไม่ออกว่าพวกเราต้องผ่านอะไรมาบ้าง คุณจะทำอย่างไรถ้าคุณได้รับความคิดเห็นที่แสดงถึงความเกลียดชังมากๆ ทางออนไลน์?"
ผมชะงักไปเล็กน้อยตอนได้ยินคำถามนี้ครั้งแรก แต่ก็ตอบกลับไปอย่างใจเย็นและเล่าถึงช่วงเวลาที่ผมเคยได้รับความคิดเห็นที่แสดงความเกลียดชังทางออนไลน์นับพัน และผมรู้สึกกลัวและตกใจแค่ไหนในตอนนั้น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมตระหนักได้ก็คือผู้คนสามารถพูดคุยเรื่องราวของผมในโลกออนไลน์ได้ แต่คำพูดเหล่านั้นทำอะไรผมไม่ได้ ผมจึงบอกพวกเขาไปว่าอย่ากลัว และถ้าหากพวกเขารู้สึกเหนื่อยหรือลำบาก ก็ขอให้บอกผมเพราะผมจะไปอยู่ข้างๆ
หลังการประชุม ระหว่างที่เดินทางไปสนามบินเพื่อไปบรูไน ผมเช็ก SNS ของตัวเอง ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถเช็กทุก DM ที่ได้รับได้ในทันที แต่ก็มีสองข้อความที่ดึงความสนใจของผมในวันนั้น ทั้งสองข้อความมาจากคนละคน พวกเขาส่งข้อความมาบอกผมว่าพวกเขาเคยคิดจะตัดสินใจทำอะไรที่มันรุนแรงสุดโต่ง แต่ได้รับความกล้าหาญและเปลี่ยนใจหลังจากได้ยินผมพูด ทูตหลายคนออกนอกสถานที่เพื่อไปให้ความช่วยเหลือ แต่ผมตระหนักได้ว่าการส่งเสียงของผมในฐานะส่วนหนึ่งของ UNICEF สามารถเป็นประโยชน์กับคนทางออนไลน์ได้มากกว่า นั่นคือช่วงเวลาที่ส่งผลต่อผมอย่างแท้จริงที่ได้เป็นกระบอกเสียงและปกป้องเยาวชนในชุมชนออนไลน์ทั่วโลก
คุณได้เรียนรู้อะไรจากเด็กๆ ที่คุณได้พบและใช้เวลาร่วมกันผ่าน UNICEF?
เด็กๆ ที่ผมเจอสอนให้ผมรู้สึก 'ขอบคุณ' และ 'ให้คุณค่า' กับสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันที่เรามองข้ามไป เป็นสองประเด็นหลักที่ผมได้เรียนรู้จากการเฝ้ามองเด็กๆ ที่ค้นพบความสุขที่แท้จริงแม้ในเรื่องที่เล็กน้อยที่สุด
เยาวชนจำนวนมากต่อสู้กับแรงกดดันที่จะ "สมบูรณ์แบบ" บนโซเชียลมีเดีย ในฐานะคนที่มีแพลตฟอร์มขนาดใหญ่และผู้ติดตามจำนวนมาก คุณหวังว่าเยาวชนจะได้รับอะไรจากโซเชียลมีเดีย? คุณมีคำแนะนำให้พวกเขาในเรื่องการรักษาสุขภาพจิตให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงอาการหมดกำลังใจที่อาจมาพร้อมกับโซเชียลมีเดียหรือไม่?
ผมไม่รู้ว่าจะสามารถให้คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ทุกคนอยากได้หรือเปล่า แต่ถ้าให้ลอง ผมอยากจะเริ่มด้วยการบอกว่าโซเชียลมีเดียในปัจจุบันไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มธรรมดาที่ผู้ใช้แบ่งปันชีวิตประจำวันกับเพื่อนๆ เท่านั้น แต่เป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถแบ่งปันความหวัง ความรัก ความสบายใจ หรือแม้แต่ความกล้าหาญได้ แม้ว่าคำตอบของผมจะยังไม่ครอบคลุมพอ แต่อยากจะขอเสริมว่าแต่ละคนก็มีภารกิจของตัวเอง และผมหวังว่าผู้คนจะใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารกับผู้อื่นไปพร้อมๆ กับค้นหาการเป็นกระบอกเสียงและภารกิจของตัวเอง แทนที่จะใช้มันให้เป็นแค่โซเชียลมีเดียธรรมดาเฉยๆ
คุณเป็นคนเดียวที่ได้รับเลือกจากเอเชียให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้นำระดับโลกของ UNICEF Next Generation มันมีความหมายอย่างไรต่อคุณบ้างในการเป็นทูตของประเทศของคุณในระดับโลกและการได้รับเกียรติในลักษณะนี้?
มีช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบมากขึ้น แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณมากสำหรับโอกาสที่จะได้เพิ่มความแน้นแฟ้นอย่างนอบน้อมและจริงใจกับเพื่อนวัยเยาว์เพื่อให้ได้ใกล้กันมากขึ้น ผมหวังว่าผมจะมีหัวใจที่เปิดกว้างอยู่เสมอขณะที่เป็นกระบอกเสียงเพื่อพวกเขา
คุณหวังว่าจะบรรลุสิ่งใดผ่านการร่วมมือกับ UNICEF Next Generation?
สิ่งหนึ่งที่ผมตระหนักได้ในระหว่างการออกนอกสถานที่ก็คือยังมีนโยบายที่สามารถปรับปรุงเพื่อสะท้อนถึงประเด็นและปัญหาของคนรุ่นนี้ให้ดีมากขึ้นได้ ผมยังไม่สามารถระบุได้ แต่ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่จะให้ผลตอบแทนได้คุ้มไปกว่าการได้ทุ่มเทตัวเองอย่างจริงจังเพื่อจัดการกับส่วนต่างๆ ที่ต้องการการพัฒนา และเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยเพื่อนวัยเยาว์ของพวกเรา
(มีต่อ)
[SJ] เปิดบทสัมภาษณ์ของซีวอนกับ PEOPLE 🇺🇸 และ บทสัมภาษณ์ของทงเฮและอึนฮยอกกับ Newsweek 🇺🇸
► ดารา K-Pop ซีวอน ชเว เปิดใจเกี่ยวกับ 'Hate Comments' ทางออนไลน์ และการเอาชนะมันหลังจากความกลัว [1]
► ทงเฮและอึนฮยอก Super Junior-D&E และความรู้สึก 'หลงทาง' ในช่วงโรคระบาด [2]
► ดารา K-Pop ซีวอน ชเว เปิดใจเกี่ยวกับ 'Hate Comments' ทางออนไลน์ และการเอาชนะมันหลังจากความกลัว
อย่างเช่น ในช่วงการระบาดใหญ่นี้ ชเวเป็นผู้นำการประชุมเยาวชนจิตเมตตาทางออนไลน์ โดยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนและทำงานร่วมกับเด็กโดยตรงเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ล่าสุดดารารายนี้ยังบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนความพยายามต่อ Climate Change ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Life Donation ของ UNICEF
เพื่อเป็นเกียรติแก่การทำงานของเขาร่วมกับองค์กร ดาราวัย 35 ปีได้เปิดใจกับ PEOPLE เกี่ยวกับประสบการณ์ บทเรียน และความทรงจำอันมีค่าที่สุดของเขากับ UNICEF
มีทูต UNICEF หลายคนที่ผมอยากเรียนรู้และเจริญรอยตาม แต่คนที่ผมนึกถึงมากที่สุดคือ Audrey Hepburn เธอไม่ได้เป็นนักแสดงที่เก่งที่สุดในยุคของเธอเท่านั้น แต่ความถ่อมตนของเธอยังสร้างความประทับใจให้พวกเราทุกคน เธอไม่ถือตัวและยื่นมือไปทุกที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ หลังจากเกษียณ เธอก็อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนยากไร้ในแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย แม้แต่ช่วงเวลาที่เธอต่อสู้กับโรคมะเร็ง เธอก็แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทที่มีต่อ UNICEF และด้วยหัวใจอันงดงามที่เธอแสดงให้เห็นนี้ ผมเชื่อว่านี่กลายมาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกคน
คุณช่วยแบ่งปันโมเมนท์ที่มีความหมายและเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณมากที่สุดในระหว่างการทำงานร่วมกับ UNICEF ได้ไหม?
ครั้งหนึ่งผมเคยเข้าร่วมการประชุมที่มาเลเซียในปี 2018 ที่มีหัวข้อเป็นเรื่องการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต มีการแบ่งปันเรื่องราวจากผู้พูดมากมาย รวมถึงช่วง Q&A หลายคนในที่ประชุมคิดว่าผมคงไม่เคยเจอหรือได้รับความคิดเห็นมุ่งร้ายมาก่อน เมื่อถึงตาที่ผมจะพูด มีคนถามขึ้นมาว่า "ในฐานะศิลปิน K-pop คุณได้รับความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆ มากมาย คุณคงนึกไม่ออกว่าพวกเราต้องผ่านอะไรมาบ้าง คุณจะทำอย่างไรถ้าคุณได้รับความคิดเห็นที่แสดงถึงความเกลียดชังมากๆ ทางออนไลน์?"
ผมชะงักไปเล็กน้อยตอนได้ยินคำถามนี้ครั้งแรก แต่ก็ตอบกลับไปอย่างใจเย็นและเล่าถึงช่วงเวลาที่ผมเคยได้รับความคิดเห็นที่แสดงความเกลียดชังทางออนไลน์นับพัน และผมรู้สึกกลัวและตกใจแค่ไหนในตอนนั้น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมตระหนักได้ก็คือผู้คนสามารถพูดคุยเรื่องราวของผมในโลกออนไลน์ได้ แต่คำพูดเหล่านั้นทำอะไรผมไม่ได้ ผมจึงบอกพวกเขาไปว่าอย่ากลัว และถ้าหากพวกเขารู้สึกเหนื่อยหรือลำบาก ก็ขอให้บอกผมเพราะผมจะไปอยู่ข้างๆ
หลังการประชุม ระหว่างที่เดินทางไปสนามบินเพื่อไปบรูไน ผมเช็ก SNS ของตัวเอง ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถเช็กทุก DM ที่ได้รับได้ในทันที แต่ก็มีสองข้อความที่ดึงความสนใจของผมในวันนั้น ทั้งสองข้อความมาจากคนละคน พวกเขาส่งข้อความมาบอกผมว่าพวกเขาเคยคิดจะตัดสินใจทำอะไรที่มันรุนแรงสุดโต่ง แต่ได้รับความกล้าหาญและเปลี่ยนใจหลังจากได้ยินผมพูด ทูตหลายคนออกนอกสถานที่เพื่อไปให้ความช่วยเหลือ แต่ผมตระหนักได้ว่าการส่งเสียงของผมในฐานะส่วนหนึ่งของ UNICEF สามารถเป็นประโยชน์กับคนทางออนไลน์ได้มากกว่า นั่นคือช่วงเวลาที่ส่งผลต่อผมอย่างแท้จริงที่ได้เป็นกระบอกเสียงและปกป้องเยาวชนในชุมชนออนไลน์ทั่วโลก
คุณได้เรียนรู้อะไรจากเด็กๆ ที่คุณได้พบและใช้เวลาร่วมกันผ่าน UNICEF?
เด็กๆ ที่ผมเจอสอนให้ผมรู้สึก 'ขอบคุณ' และ 'ให้คุณค่า' กับสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันที่เรามองข้ามไป เป็นสองประเด็นหลักที่ผมได้เรียนรู้จากการเฝ้ามองเด็กๆ ที่ค้นพบความสุขที่แท้จริงแม้ในเรื่องที่เล็กน้อยที่สุด
เยาวชนจำนวนมากต่อสู้กับแรงกดดันที่จะ "สมบูรณ์แบบ" บนโซเชียลมีเดีย ในฐานะคนที่มีแพลตฟอร์มขนาดใหญ่และผู้ติดตามจำนวนมาก คุณหวังว่าเยาวชนจะได้รับอะไรจากโซเชียลมีเดีย? คุณมีคำแนะนำให้พวกเขาในเรื่องการรักษาสุขภาพจิตให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงอาการหมดกำลังใจที่อาจมาพร้อมกับโซเชียลมีเดียหรือไม่?
ผมไม่รู้ว่าจะสามารถให้คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ทุกคนอยากได้หรือเปล่า แต่ถ้าให้ลอง ผมอยากจะเริ่มด้วยการบอกว่าโซเชียลมีเดียในปัจจุบันไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มธรรมดาที่ผู้ใช้แบ่งปันชีวิตประจำวันกับเพื่อนๆ เท่านั้น แต่เป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถแบ่งปันความหวัง ความรัก ความสบายใจ หรือแม้แต่ความกล้าหาญได้ แม้ว่าคำตอบของผมจะยังไม่ครอบคลุมพอ แต่อยากจะขอเสริมว่าแต่ละคนก็มีภารกิจของตัวเอง และผมหวังว่าผู้คนจะใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารกับผู้อื่นไปพร้อมๆ กับค้นหาการเป็นกระบอกเสียงและภารกิจของตัวเอง แทนที่จะใช้มันให้เป็นแค่โซเชียลมีเดียธรรมดาเฉยๆ
คุณเป็นคนเดียวที่ได้รับเลือกจากเอเชียให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้นำระดับโลกของ UNICEF Next Generation มันมีความหมายอย่างไรต่อคุณบ้างในการเป็นทูตของประเทศของคุณในระดับโลกและการได้รับเกียรติในลักษณะนี้?
มีช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบมากขึ้น แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณมากสำหรับโอกาสที่จะได้เพิ่มความแน้นแฟ้นอย่างนอบน้อมและจริงใจกับเพื่อนวัยเยาว์เพื่อให้ได้ใกล้กันมากขึ้น ผมหวังว่าผมจะมีหัวใจที่เปิดกว้างอยู่เสมอขณะที่เป็นกระบอกเสียงเพื่อพวกเขา
คุณหวังว่าจะบรรลุสิ่งใดผ่านการร่วมมือกับ UNICEF Next Generation?
สิ่งหนึ่งที่ผมตระหนักได้ในระหว่างการออกนอกสถานที่ก็คือยังมีนโยบายที่สามารถปรับปรุงเพื่อสะท้อนถึงประเด็นและปัญหาของคนรุ่นนี้ให้ดีมากขึ้นได้ ผมยังไม่สามารถระบุได้ แต่ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่จะให้ผลตอบแทนได้คุ้มไปกว่าการได้ทุ่มเทตัวเองอย่างจริงจังเพื่อจัดการกับส่วนต่างๆ ที่ต้องการการพัฒนา และเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยเพื่อนวัยเยาว์ของพวกเรา
(มีต่อ)