สวัสดีค่ะทุกๆคนที่เข้ามาอ่านบทความเรา นี่เป็นเรื่องราวของเราเองและเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก็เป็นความจริงทั้งหมดค่ะ
เราเป็นเด็นป.5คนนึงที่มีโอกาศสามารถเลือกเดินไปในเส้นทางไหนก็ได้ เพราะยังไม่ถึงวัยที่ต้องเครียดอะไร(แต่เราแค่เป็นคนคิดเยอะเลยเครียดตั้งแต่ป.5ค่ะ)
ตั้งแต่ตอนป.1ถึงป.3เรามีความฝันอยากจะเป็นดีไซน์เนอร์
มาก เราได้ลองร่างชุดที่อยากจะทำให้คนในครอบครัวใส่และร่างให้เพื่อนตามความอบของพวกเขา และเรายังเคยนั่งทำชุดเองด้วย แต่ก็นั่นแหละค่ะ เด็กป.2ที่ไหนเขาจะเย็บชุดเองได้ มันก็พังอยู่ดีค่ะ ตอนป.3เราก็ยังไม่ยอมแพ้พยายามร่างชุดอยู่นั่นแหละค่ะร่างจนแม่ต้องแบกกระดาษกองหนึ่งไปเผาเพราะมันเยอะเกิน
พอเราขึ้นป.4ช่วงเทอมแรกเราก็ได้ตัดใจทิ้งความฝันนี้ไปค่ะ เพราะเราได้รู้มาว่าอาชีพนี้ถ้าจะเป็นต้องมีใจรักจริงๆและมีความพยายามมาก แถมกว่าจะเป็นร้านที่ดังได้นี่ไม่ใช่ง่ายๆจึงตัดใจไปและความฝันต่อไปก็คือหมอ
ช่วงต่อมาเลยค่ะหลังจากตัดใจไปเราก็หาในเน็ตเลยค่ะอาชีพที่เป็นแล้วอยู่นาน ก็อย่างที่บอกไป หมอ ค่ะ
ช่วงป.4ตอนนั้นเริ่มเหนื่อยเลยไม่ได้คิดอะไรแต่พอขึ้นป.5ก็กลับมาเป็นคนคิดเยอะอีกแล้วค่ะ ตอนนั้นคือเราอยากเป็นหมอมากแถมวางแผนในอนาคตไว้แล้ว ด้วยว่าม.ต้นเข้าเรียนแถวบ้านแม่ไม่ให้ไปไกล ส่วนม.ปลายเราต้องสอบเข้าเตรียมอุดมให้ได้! พอขึ้มมหาลัยครอบครัวไม่อยากให้อยู่กรุง(ถามเค้าแล้วว่าถ้าอยากขึ้นมหาลัยจะให้ไปกรุงไหมแต่เค้าบอกไม่ค่ะ)เลยคิดไปมช.ค่ะ
คือเราซีเรียสกับการเป็นหมอมากจนขนาดอ่านหนังสือป.6กับของม.1ตั้งแต่อยู่ป.5อ่ะค่ะ
แต่ก็มีวันนึงต้นปีนี้เลยค่ะ2022เราได้ไปดูรายการเอาคนมาแข่งกันแล้วเดบิ้วท์รายการหนึ่ง
ซึ่งพอดูจบเราก็ได้ตรัสรู้ว่า อ้าาาาา โลกเรามันมอาชีพแบบนี้ด้วยเหรอ และก็อย่างที่คนที่อ่านมาถึงตอนนี้คิดค่ะ
ใช่ค่ะไอโรคคิดมากมันมาอีกแล้ว
ก็เสริจเน็ตไปเลยสิคะเสริจไปเสริจมาก็ได้ตรัสรู้ว่าอย่างBTS,Blackpink,nct,exo พวกนี้ก็คือวงkpopนั่นเองค่ะ เราก็ค้นลุกขึ้นไปอีก ยิ่งค้นลึกยิ่งมีความอยากเป็น จนตอนนี้เรียกได้ว่าตอนนี้แทบจะเป็นติ่งkpopเต็มตัวแล้วค่ะ
เราก็ได้รู้มาอีกว่า กว่าจะเป็นไอดอลมันต้องฝึกหนักมาก
ตั้งแต่ ฝึก->ออดิชั่น->เป็นเทรนนี->ฝึกต่อไปจนได้เดบิวท์->
เดบิวท์
ซึ่นตอนนี้เรียกได้ว่าเราอยากจะเป็นไอดอลขั้นสุดค่ะไฟตอนนี้มันจุดขึ้นมาอีกรอบเหมือนตอน2รอบที่แล้วและตอนนี้มันก็ยังไม่ดับค่ะและไฟยังแรงเหมือนจุดใหม่ด้วย
ตั้งแต่ที่เราเริ่มค้นข้อมูลเราก็ฝึกแกะท่ามาเรื่อยๆและซ้อมเต้นซ้อมร้องแต่เราฝึกได้แค่วันละ4ชั่วโมงเท่านั้นค่ะเพราะยังไม่มีใครรู้นอกจากพี่เพราะถ้าฝึกตอนกลางคืนกำแพงบ้านเรามันบางเดี๋ยวคนอื่นได้ยินแล้วมาถามว่าทำอะไร
(ตอนนี้ยังไม่กล้าบอกคนอื่นนอกจากพี่และเพื่อนสนิทที่ไว้ใจเพราะพี่บอกว่าถ้าแม่รู้แม่อาจไม่ยอมรับก็ได้แล้วถ้าแม่ไม่ยอมรับก็ตัดใจได้เลย)เรียกได้ว่าเราฝึกตลอด1เดือนจนตอนนี้สามารถแกะท่า1เพลงได้ภายในเวลาไม่เกิน2ชั่วโมงค่ะแต่มันก็มีปัญหาล็อคท่าอยู่บ้างแต่ก็ต้องฝึกต่อไปแต่เอาจริงคือที่แกะท่ามาก็จำได้หมดถ้าล็อคท่าได้ตอนนี้ท่าที่แกะมาก็สมบูรณ์ค่ะ
แต่ก็อย่างว่าค่ะโรคคิดเยอะมันยังอยู่ค่ะ เราก็คิดตลอดเลยว่าคนบนโลกมีอยู่ตั้งกี่คนจะเอาชนะได้เหรอ?
คิดเหรอว่าที่ไทยมีคนอยากออดิชั่นแค่ไม่กี่คน?
แกคิดว่าตัวเองเป็นเทรนนีแล้วจะได้เดบิวท์เหรอ?
รู้ม้ยว่าเป็นไอดอลมันต้องเสียเงินเยอะแค่ไหน?
อีกหนึ่งคนในร่างกายเรามันชอบถามคำถามพวกนี้กับเราเสมอค่ะ จนตอนนี้ก็เริ่มเครียดๆแล้วได้มาตั้งกระทู้นี่แหละค่ะ จนตอนนี้เราคิดว่าเราจะได้เป็นไอดอลไหม
และเรายังสามารถเป็นไอดอลได้อีกไหม?
ช่วยตอบคำถามเราด้วยค่ะ
ตอนนี้ถ้าเพื่อเป็นไอดอลเรายอมทิ้งเพื่อนการเรียนและครอบครัวเพื่อผลลัพท์ที่ดีค่ะ
แถมตอนนี้เรายังเริ่มดูแลรูปลักแล้วด้วยในช่วงนอยๆไม่อยากคิดเราก็ดูแลรูปลักไปค่ะ
อ้อลืมบอกตอนนี้เราเริ่มเรียนเรียนภาษาเกาหลีด้วยค่ะ
จนถึงตอนนี้อาจปวดตาไปบ้างเพราะการพิมพ์ของเราเราขอโทษและขออภัยค่ะ ยังไงก็ตามอยากฝากคุณที่อ่านอยู่ช่วยตอบคำถามที่เราถามอยู่ในเรื่องที่เราเล่ามาหน่อยค่ะ
เพราะมันยากและเหนื่อยเกินไปสำหรับเด็กอายุ11ที่ปีนี้จะอายุ12จะหาคำตอบได้
ยังไงก็ตาม
ช่วยตอบคำถามเราด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
และขอโทษด้วยค่ะที่เราพิมพ์ยาวเกินไปและมันดู
เหมือนวกๆวนๆ ขอโทษค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เราเคยอยากเป็นไอดอลแต่ตอนนี้เราไม่รู้จะเดินเส้นทางไหนดี (เราพิมพ์ยาวมากกรุณาหยอดตาหลังอ่านด้วยค่ะเดี๋ยวตาแห้งหมด)
เราเป็นเด็นป.5คนนึงที่มีโอกาศสามารถเลือกเดินไปในเส้นทางไหนก็ได้ เพราะยังไม่ถึงวัยที่ต้องเครียดอะไร(แต่เราแค่เป็นคนคิดเยอะเลยเครียดตั้งแต่ป.5ค่ะ)
ตั้งแต่ตอนป.1ถึงป.3เรามีความฝันอยากจะเป็นดีไซน์เนอร์
มาก เราได้ลองร่างชุดที่อยากจะทำให้คนในครอบครัวใส่และร่างให้เพื่อนตามความอบของพวกเขา และเรายังเคยนั่งทำชุดเองด้วย แต่ก็นั่นแหละค่ะ เด็กป.2ที่ไหนเขาจะเย็บชุดเองได้ มันก็พังอยู่ดีค่ะ ตอนป.3เราก็ยังไม่ยอมแพ้พยายามร่างชุดอยู่นั่นแหละค่ะร่างจนแม่ต้องแบกกระดาษกองหนึ่งไปเผาเพราะมันเยอะเกิน
พอเราขึ้นป.4ช่วงเทอมแรกเราก็ได้ตัดใจทิ้งความฝันนี้ไปค่ะ เพราะเราได้รู้มาว่าอาชีพนี้ถ้าจะเป็นต้องมีใจรักจริงๆและมีความพยายามมาก แถมกว่าจะเป็นร้านที่ดังได้นี่ไม่ใช่ง่ายๆจึงตัดใจไปและความฝันต่อไปก็คือหมอ
ช่วงต่อมาเลยค่ะหลังจากตัดใจไปเราก็หาในเน็ตเลยค่ะอาชีพที่เป็นแล้วอยู่นาน ก็อย่างที่บอกไป หมอ ค่ะ
ช่วงป.4ตอนนั้นเริ่มเหนื่อยเลยไม่ได้คิดอะไรแต่พอขึ้นป.5ก็กลับมาเป็นคนคิดเยอะอีกแล้วค่ะ ตอนนั้นคือเราอยากเป็นหมอมากแถมวางแผนในอนาคตไว้แล้ว ด้วยว่าม.ต้นเข้าเรียนแถวบ้านแม่ไม่ให้ไปไกล ส่วนม.ปลายเราต้องสอบเข้าเตรียมอุดมให้ได้! พอขึ้มมหาลัยครอบครัวไม่อยากให้อยู่กรุง(ถามเค้าแล้วว่าถ้าอยากขึ้นมหาลัยจะให้ไปกรุงไหมแต่เค้าบอกไม่ค่ะ)เลยคิดไปมช.ค่ะ
คือเราซีเรียสกับการเป็นหมอมากจนขนาดอ่านหนังสือป.6กับของม.1ตั้งแต่อยู่ป.5อ่ะค่ะ
แต่ก็มีวันนึงต้นปีนี้เลยค่ะ2022เราได้ไปดูรายการเอาคนมาแข่งกันแล้วเดบิ้วท์รายการหนึ่ง
ซึ่งพอดูจบเราก็ได้ตรัสรู้ว่า อ้าาาาา โลกเรามันมอาชีพแบบนี้ด้วยเหรอ และก็อย่างที่คนที่อ่านมาถึงตอนนี้คิดค่ะ
ใช่ค่ะไอโรคคิดมากมันมาอีกแล้ว
ก็เสริจเน็ตไปเลยสิคะเสริจไปเสริจมาก็ได้ตรัสรู้ว่าอย่างBTS,Blackpink,nct,exo พวกนี้ก็คือวงkpopนั่นเองค่ะ เราก็ค้นลุกขึ้นไปอีก ยิ่งค้นลึกยิ่งมีความอยากเป็น จนตอนนี้เรียกได้ว่าตอนนี้แทบจะเป็นติ่งkpopเต็มตัวแล้วค่ะ
เราก็ได้รู้มาอีกว่า กว่าจะเป็นไอดอลมันต้องฝึกหนักมาก
ตั้งแต่ ฝึก->ออดิชั่น->เป็นเทรนนี->ฝึกต่อไปจนได้เดบิวท์->
เดบิวท์
ซึ่นตอนนี้เรียกได้ว่าเราอยากจะเป็นไอดอลขั้นสุดค่ะไฟตอนนี้มันจุดขึ้นมาอีกรอบเหมือนตอน2รอบที่แล้วและตอนนี้มันก็ยังไม่ดับค่ะและไฟยังแรงเหมือนจุดใหม่ด้วย
ตั้งแต่ที่เราเริ่มค้นข้อมูลเราก็ฝึกแกะท่ามาเรื่อยๆและซ้อมเต้นซ้อมร้องแต่เราฝึกได้แค่วันละ4ชั่วโมงเท่านั้นค่ะเพราะยังไม่มีใครรู้นอกจากพี่เพราะถ้าฝึกตอนกลางคืนกำแพงบ้านเรามันบางเดี๋ยวคนอื่นได้ยินแล้วมาถามว่าทำอะไร
(ตอนนี้ยังไม่กล้าบอกคนอื่นนอกจากพี่และเพื่อนสนิทที่ไว้ใจเพราะพี่บอกว่าถ้าแม่รู้แม่อาจไม่ยอมรับก็ได้แล้วถ้าแม่ไม่ยอมรับก็ตัดใจได้เลย)เรียกได้ว่าเราฝึกตลอด1เดือนจนตอนนี้สามารถแกะท่า1เพลงได้ภายในเวลาไม่เกิน2ชั่วโมงค่ะแต่มันก็มีปัญหาล็อคท่าอยู่บ้างแต่ก็ต้องฝึกต่อไปแต่เอาจริงคือที่แกะท่ามาก็จำได้หมดถ้าล็อคท่าได้ตอนนี้ท่าที่แกะมาก็สมบูรณ์ค่ะ
แต่ก็อย่างว่าค่ะโรคคิดเยอะมันยังอยู่ค่ะ เราก็คิดตลอดเลยว่าคนบนโลกมีอยู่ตั้งกี่คนจะเอาชนะได้เหรอ?
คิดเหรอว่าที่ไทยมีคนอยากออดิชั่นแค่ไม่กี่คน?
แกคิดว่าตัวเองเป็นเทรนนีแล้วจะได้เดบิวท์เหรอ?
รู้ม้ยว่าเป็นไอดอลมันต้องเสียเงินเยอะแค่ไหน?
อีกหนึ่งคนในร่างกายเรามันชอบถามคำถามพวกนี้กับเราเสมอค่ะ จนตอนนี้ก็เริ่มเครียดๆแล้วได้มาตั้งกระทู้นี่แหละค่ะ จนตอนนี้เราคิดว่าเราจะได้เป็นไอดอลไหม
และเรายังสามารถเป็นไอดอลได้อีกไหม?
ช่วยตอบคำถามเราด้วยค่ะ
ตอนนี้ถ้าเพื่อเป็นไอดอลเรายอมทิ้งเพื่อนการเรียนและครอบครัวเพื่อผลลัพท์ที่ดีค่ะ
แถมตอนนี้เรายังเริ่มดูแลรูปลักแล้วด้วยในช่วงนอยๆไม่อยากคิดเราก็ดูแลรูปลักไปค่ะ
อ้อลืมบอกตอนนี้เราเริ่มเรียนเรียนภาษาเกาหลีด้วยค่ะ
จนถึงตอนนี้อาจปวดตาไปบ้างเพราะการพิมพ์ของเราเราขอโทษและขออภัยค่ะ ยังไงก็ตามอยากฝากคุณที่อ่านอยู่ช่วยตอบคำถามที่เราถามอยู่ในเรื่องที่เราเล่ามาหน่อยค่ะ
เพราะมันยากและเหนื่อยเกินไปสำหรับเด็กอายุ11ที่ปีนี้จะอายุ12จะหาคำตอบได้
ยังไงก็ตาม
ช่วยตอบคำถามเราด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
และขอโทษด้วยค่ะที่เราพิมพ์ยาวเกินไปและมันดู
เหมือนวกๆวนๆ ขอโทษค่ะ
ขอบคุณค่ะ