สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ลายเพิ่งออกค่ะ บางคนก็เก็บได้นาน แต่ก็ดีแล้วที่เห็นก่อน เค้าคงมั่นใจว่าคุณจะแต่งกับเค้าเลยไม่จำเป็นต้องปิดอะไรอีก และถ้าก่อนแต่งเค้าแสดงให้เห็นแล้วและคุณไม่ว่าอะไร หลังแต่งจะหนักกว่าเดิมและเค้าจะพูดว่า ก็เห็นมาตั้งแต่ก่อนแต่งแล้วไม่ใช่หรอ
อย่ากลัวที่จะอยู่คนเดียว มันไม่ได้แย่อะไรเลย ดีกว่าแต่งแล้วชีวิตแย่กว่าเดิมแล้วจะกลับมาคิดว่า "รู้งี้"
อายุก็ไม่ได้เยอะเดี๋ยวก็มีคนผ่านมาอีก ยิ่ง profile คุณดีไม่น่าจะว่างนาน เลือกดีๆเลือกนานๆไม่ต้องรีบ
อย่ากลัวที่จะอยู่คนเดียว มันไม่ได้แย่อะไรเลย ดีกว่าแต่งแล้วชีวิตแย่กว่าเดิมแล้วจะกลับมาคิดว่า "รู้งี้"
อายุก็ไม่ได้เยอะเดี๋ยวก็มีคนผ่านมาอีก ยิ่ง profile คุณดีไม่น่าจะว่างนาน เลือกดีๆเลือกนานๆไม่ต้องรีบ
สมาชิกหมายเลข 6673568 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7311831 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7159329 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1476906 ถูกใจ, น้องคนเล็กของตระกูล Peverell ถูกใจ, Anamiga ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4946255 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1948184 ถูกใจ, CUCU0701 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2317104 ถูกใจรวมถึงอีก 95 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 21
เราคิดว่าปัญหานี้มันแก้ได้นะคะ
การที่คนๆนึงใจเย็นมาได้ตลอด 4 ปี แต่มาโมโหร้ายขึ้นจากเหตุการณ์บางอย่าง เค้ายังสมควรได้รับโอกาสนะคะ
เพราะบนโลกนี้ไม่มีใครเป็นคนดี ใจเย็นได้ 100% อยู่แล้ว
ตัวผู้ชายฐานะด้อยกว่า ขยับตัวมาในธุรกิจของผู้หญิง ก็คงอยากทำให้มันดี อยากพิสูจน์ตัวเอง
แต่สุดท้ายมันไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังสูญเงินหลักล้าน คุณเครียดแค่ไหน เค้าก็เครียด ผิดหวังในตัวเองไม่แพ้กัน
เวลาคนเราเจอเหตุการณ์กดดันมากๆ ก็สติแตกได้เป็นธรรมดา บางคนถึงขั้นคิดสั้น ฆ่าตัวตายในชั่ววินาทีเลยก็มี
ถ้าเค้าโมโหร้ายบ่อยๆ สติแตกง่ายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น คุณบอกให้หยิบของให้หน่อย เค้าโมโหปรี๊ดๆปรี่ตัวมาตบคุณ อันนั้นเราจะแนะนำให้เลิกอย่างไว
แต่เหตุการณ์นี้เป็น ‘เรื่องใหญ่’ ค่ะ ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม
ไม่สติแตกกับเรื่องแบบนี้ จะให้สติแตกกับเรื่องแบบไหน
คำแนะนำคือให้แยกกันทำงานค่ะ
แต่มันยากตรงนี้แหละ เพราะมันมีสิ่งที่ต้องระวังคือเค้าน่าจะขาดความมั่นใจในตัวเองไปแล้ว คุณพึ่งให้โอกาสเค้ามาทำตรงนี้ได้ไม่นาน แต่จะให้หยุดทำซะแล้ว เป็นใครก็รับรู้ได้ว่ามันเกิดจากความผิดพลาด ความล้มเหลวของตัวเค้าแน่ๆ
ฉะนั้นคุณต้องหาวิธีพูดให้ซอฟต์ที่สุด ให้เรื่องมันช้ำน้อยที่สุด คุยกันด้วยเหตุผลและความรักความเข้าใจค่ะ
การที่แฟนคุณทำตรงนี้ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเค้าล้มเหลว แต่เป็นเพราะเค้าไม่ถนัดในด้านนี้มากกว่า
ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวธุรกิจ แต่เค้าอาจจะทำงานประจำ เป็นข้าราชการได้ดีก็ได้ ช่วยแฟนคุณหาจุดที่ทำให้เค้ารู้สึกภูมิใจในตัวเองให้ได้อีกครั้ง เดี๋ยวทุกอย่างมันจะค่อยๆดีขึ้นเอง
แล้วเห็นหลายคนบอกว่าคุณเก่ง พึ่งพาตัวเองได้ จนดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายคนนี้ก็ได้
แต่เราเข้าใจคุณนะ ต่อให้เก่ง แกร่งแค่ไหน ก็ยังอยากมีคนมาเติมพลังใจให้อยู่ดี
ไม่ต้องดีเลิศเลอก็ได้ แค่อยู่ด้วยแล้วเข้าใจ มีความสุขก็พอ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ มันดูเหมือนร้ายแรง แต่เราว่าพวกคุณจะผ่านมันไปได้
การที่คนๆนึงใจเย็นมาได้ตลอด 4 ปี แต่มาโมโหร้ายขึ้นจากเหตุการณ์บางอย่าง เค้ายังสมควรได้รับโอกาสนะคะ
เพราะบนโลกนี้ไม่มีใครเป็นคนดี ใจเย็นได้ 100% อยู่แล้ว
ตัวผู้ชายฐานะด้อยกว่า ขยับตัวมาในธุรกิจของผู้หญิง ก็คงอยากทำให้มันดี อยากพิสูจน์ตัวเอง
แต่สุดท้ายมันไม่ประสบความสำเร็จ แถมยังสูญเงินหลักล้าน คุณเครียดแค่ไหน เค้าก็เครียด ผิดหวังในตัวเองไม่แพ้กัน
เวลาคนเราเจอเหตุการณ์กดดันมากๆ ก็สติแตกได้เป็นธรรมดา บางคนถึงขั้นคิดสั้น ฆ่าตัวตายในชั่ววินาทีเลยก็มี
ถ้าเค้าโมโหร้ายบ่อยๆ สติแตกง่ายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น คุณบอกให้หยิบของให้หน่อย เค้าโมโหปรี๊ดๆปรี่ตัวมาตบคุณ อันนั้นเราจะแนะนำให้เลิกอย่างไว
แต่เหตุการณ์นี้เป็น ‘เรื่องใหญ่’ ค่ะ ไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม
ไม่สติแตกกับเรื่องแบบนี้ จะให้สติแตกกับเรื่องแบบไหน
คำแนะนำคือให้แยกกันทำงานค่ะ
แต่มันยากตรงนี้แหละ เพราะมันมีสิ่งที่ต้องระวังคือเค้าน่าจะขาดความมั่นใจในตัวเองไปแล้ว คุณพึ่งให้โอกาสเค้ามาทำตรงนี้ได้ไม่นาน แต่จะให้หยุดทำซะแล้ว เป็นใครก็รับรู้ได้ว่ามันเกิดจากความผิดพลาด ความล้มเหลวของตัวเค้าแน่ๆ
ฉะนั้นคุณต้องหาวิธีพูดให้ซอฟต์ที่สุด ให้เรื่องมันช้ำน้อยที่สุด คุยกันด้วยเหตุผลและความรักความเข้าใจค่ะ
การที่แฟนคุณทำตรงนี้ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเค้าล้มเหลว แต่เป็นเพราะเค้าไม่ถนัดในด้านนี้มากกว่า
ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวธุรกิจ แต่เค้าอาจจะทำงานประจำ เป็นข้าราชการได้ดีก็ได้ ช่วยแฟนคุณหาจุดที่ทำให้เค้ารู้สึกภูมิใจในตัวเองให้ได้อีกครั้ง เดี๋ยวทุกอย่างมันจะค่อยๆดีขึ้นเอง
แล้วเห็นหลายคนบอกว่าคุณเก่ง พึ่งพาตัวเองได้ จนดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายคนนี้ก็ได้
แต่เราเข้าใจคุณนะ ต่อให้เก่ง แกร่งแค่ไหน ก็ยังอยากมีคนมาเติมพลังใจให้อยู่ดี
ไม่ต้องดีเลิศเลอก็ได้ แค่อยู่ด้วยแล้วเข้าใจ มีความสุขก็พอ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ มันดูเหมือนร้ายแรง แต่เราว่าพวกคุณจะผ่านมันไปได้
สมาชิกหมายเลข 1476906 ถูกใจ, Turn ถูกใจ, You Know No Better ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6178413 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4873100 ถูกใจ, Laquatee ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6900726 ถูกใจ, SHiSAMe ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4719887 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3046223 ถูกใจรวมถึงอีก 60 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 6
เราว่าคุยกัน ให้เค้าไปทำงานข้างนอกแทนได้มั้ยคะ
ผัวเมียไม่จำเป็นต้องทำงานที่เดียวกันหรอกค่ะ
ผัวเมียไม่จำเป็นต้องทำงานที่เดียวกันหรอกค่ะ
สมาชิกหมายเลข 7311831 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4946255 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4719887 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1551145 ถูกใจ, Y2J-RaPhaEll ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6068252 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6336650 ถูกใจ, Borg Sphere ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6628307 ถูกใจ, A little pig ถูกใจรวมถึงอีก 51 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 16
เอาเค้าออกจากงานที่คุณทำได้ไหม ถ้าเค้าดีจริง เค้าก็ควรยอมรับและเข้าใจ คือเดินออกไปจากธุรกิจของคุณ
แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยนะ ว่างานมันหายาก เพราะคุณให้เค้าออกจากที่เดิมมา คนเรามันมี ego ออกจากที่เก่ามาเป็นเจ้าของธุรกิจแม้จะของแฟนก็เถอะ แล้วจะให้เค้าไปหางานใหม่อีกเนี่ย
แต่ไงก็เถอะ ส่วนตัวมองว่าอย่าให้เค้าถือเงิน ผช หลายคนตอนดีกับเราไม่ใช่เพราะเค้าเป็นคนดี แต่เพราะเงินเค้าไม่มีต่างหาก วันนึงพอมีเงินกล้ากินกล้าใช้เค้าตะเปลี่ยนไปก็ไม่แปลก
อ้อ เคสคุณชะลอ การแต่งงานซะ ไม่ได้ให้เลิก แต่ชะลอ
ถ้าทุกวันนี้ใช้ชีวิตด้วยกันก็ปล่อยไปเรื่อยๆ แต่อย่าผูกมัดทางกม
แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยนะ ว่างานมันหายาก เพราะคุณให้เค้าออกจากที่เดิมมา คนเรามันมี ego ออกจากที่เก่ามาเป็นเจ้าของธุรกิจแม้จะของแฟนก็เถอะ แล้วจะให้เค้าไปหางานใหม่อีกเนี่ย
แต่ไงก็เถอะ ส่วนตัวมองว่าอย่าให้เค้าถือเงิน ผช หลายคนตอนดีกับเราไม่ใช่เพราะเค้าเป็นคนดี แต่เพราะเงินเค้าไม่มีต่างหาก วันนึงพอมีเงินกล้ากินกล้าใช้เค้าตะเปลี่ยนไปก็ไม่แปลก
อ้อ เคสคุณชะลอ การแต่งงานซะ ไม่ได้ให้เลิก แต่ชะลอ
ถ้าทุกวันนี้ใช้ชีวิตด้วยกันก็ปล่อยไปเรื่อยๆ แต่อย่าผูกมัดทางกม
สมาชิกหมายเลข 6673568 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7311831 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5892048 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7159329 ถูกใจ, ชุดกันฝนสีดำ ถูกใจ, บราวนี่หิมะ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6628307 ถูกใจ, Mysterious Login!!! ถูกใจ, 52Hz-whale ถูกใจ, #Miniconcert ถูกใจรวมถึงอีก 19 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 1
โมโหร้ายไม่ไหวนะ วันดีคืนดีทำร้ายคุณกับลูกขึ้นมาทำไง โมโหแบบควบคุมตัวเองไม่อยู่ น่ากลัว
สมาชิกหมายเลข 6673568 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7311831 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4946255 ถูกใจ, You Know No Better ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 886793 ถูกใจ, Iceclover ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5499444 ถูกใจ, anegi ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4801491 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6359484 ถูกใจรวมถึงอีก 30 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ตอบตกลงแต่งงานไปแล้ว แต่พึ่งเห็นด้านมืดแล้วเกิดลังเลขึ้นมา
ต่อมาเราเจอกับแฟนคนนี้ตอนเราอายุ 35
เรารู้สึกว่าเค้าเป็นคนนิสัยดีมาก
ที่สำคัญรักเราและลูกๆมาก
ทั้งที่ไม่ใช่ลูกเค้าเลย
ลูกเราก็รักเค้ามากๆเช่นกัน (รักมากกว่าพ่อตัวเอง)
คบกันมา4ปีแบบเค้าย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเรา
เค้าขอเราแต่งงานค่ะ
เราก็ตอบตกลง เพราะเค้าน่ารักมากจริงๆ ดูแลเราดีทุกอย่าง
ทำอาหารเช้า-เย็นให้ทานแทบทุกวัน
ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงอะไรเลย
เรารู้สึกเหมือนถูกหวยรางวัลที่1เลยค่ะ
หลังจากตัดสินใจไปแบบนั้น เราก็ชวนเค้ามาทำงานในธุรกิจของเราเพราะงานเค้าไม่ค่อยมั่นคง เป็นลูกจ้างกินเงินเดือน (ส่วนเราเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกและโลจีสติกดูแลบริษัทที่สร้างมา 6แห่งด้วยตัวคนเดียว)
แต่พอมาทำงานด้วยกัน เรากลับทะเลาะกันบ่อย
เพราะเราคิดว่าวิสัยทัศเค้าไม่ค่อยโอเคเลย
บริหารคนและบริหารงานไม่เก่ง
แต่เค้าไม่ยอมรับตรงนี้เลย
เค้าเถียงว่าเค้าทำงานมาก่อน แก่กว่าเรา
ประสบการณ์เยอะกว่าเรา
และเริ่มโมโหร้ายเวลาเถียงกัน
ครั้งนี้ถึงขั้นทำลายข้างของในออฟฟิศ
และทำร้ายตัวเองไม่หยุด(ต่อหน้าพนักงานทั้งออฟฟิศ) แบบควบคุมตัวเองไม่ได้
พอจบเรื่อง ก็จะขอโทษ บอกไม่ทำอีกแล้ว
และบอกว่ารักเรามากๆ
ตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าจะเอายังไงดี
เริ่มไม่แน่ใจว่าควรแต่งงานมั๊ย
สับสนค่ะ ไม่อยากเลิก แต่ก็เหมือนไม่อยากแต่งขึ้นมา
ควรไปยังไงต่อดี สับสนจริงๆค่ะ
อยากขอคำแนะนำค่ะ