ถ้าใครอ่านแล้วเห็นว่า เราเข้าใจการรักษาของหมอคนแรกผิด โต้แย้งได้เลยนะคะเราอาจจะเข้าใจผิดไปเองค่ะ
ยาวหน่อยนะคะ ไม่แน่ใจจะมีใครอ่านจบไหม เราแค่อยากหาพื้นที่ระบายความในใจ 


เราให้แม่เอาแมวไปรักษาที่ รพ.สัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี 
แมวเราเป็นโรคไต แล้วจู่ๆวันนึงก็เดินไม่ได้ ที่บ้านเราคิดว่าขาน้องหัก 
เลยพาไป x-ray ปรากฏว่า ถุงปัสสาวะน้องใหญ่มาก หมอบอกต้องรีบเอาปัสสาวะออก ไม่งั้นจะติดเชื้อในกระแสเลือด
หมอเลยวางยาสลบ ทั้งๆที่น้องไม่ได้ อดอาหารมาแล้วหมอก็ให้ยามาทานที่บ้าน นัดอีกทีวันพุธ (ถ่ายปัสสาวะวันจันทร์) เพราะหมอ ผญ เข้าวันพุธ  
หลังจากน้องแมวตื่นขึ้นมาจากยาสลบ น้องมีอาการหายใจลำบากมากๆ เลยตัดสินใจพาน้องไปหาหมอ วันอังคาร ไปเจอหมออีกคน ผู้ชาย 
หมอพาน้องเข้าตู้อ๊อกซิเจน และแอดมิด แม่เราไปเยี่ยมน้องทุกวัน พนักงานเอาอาหารแมวไม่ใช่โรคไตให้น้องกิน แม่เราเลยโมโห เหวี่ยงอาหารลงพื้น
 ไม่พอใจว่าทำไมไม่เอาอาหารโรคไตให้น้อง แล้วก็บอกว่าน้องขยับตัวไม่ได้ เอาไปไว้ข้างหลังน้อง น้องจะกินได้ไง แม่เราเลยเอาอาหารยื่นให้น้องน้องก็กิน วันต่อมา แม่เราไปเยี่ยมน้องอีกครั้ง แม่เห็นหมอเดินมา แม่บอกหมอน้องทานอาหารได้แล้ว  น้องดีขึ้นบ้างไหม หมอบอกไม่ดีขึ้น แม่ถามว่าไม่ดีขึ้นยังไงหมอบอกไม่รู้ ต้องตรวจเลือด แม่บอก ตรวจเลยสิหมอ หมอบอกไม่ว่าง มีสัตว์อื่นต้องดูแล แม่ถามว่าที่น้องทรุดลงเพราะถูกวางยาสลบไหม หมอก็ไม่พอใจ คิดว่า แม่โทษหมอ แต่แม่เราแค่ถาม แล้วถามแม่เราว่า เป็นอะไรกับแมวมากไหม ??  ถ้าไม่พอใจ ย้ายไปรักษาที่อื่นได้

แม่เราก็เสียความรู้สึกมาก ที่โดยพูดจาแบบนั้นและยืนค่ำหัวแม่เรา ทั้งๆ ที่แม่เราอายุเยอะกว่ามาก(แม่เรานั่งยองๆ คุยกับแมว ที่พื้น)
 หลังจากแม่เรากลับบ้าน หมอก็โทรมา บอกผลเลือดต่างๆ แม่บอกตอนโทรมา รอบนี้พูดจาดี ก็เลยปรับความเข้าใจกัน 
หมอเข้าใจว่า คนที่คุยด้วยที่ รพ เป็น ลูกสาวไม่ใช่คุณแม่ (แล้วมันควรหรอ กับใครก็ไม่ควร ) 
ต่อมาไปเยี่ยมอีก แม่ถามหมอว่า น้องหายใจผิดปกติ หมอบอกหายใจปกติ
รักษาอยู่ 6 วัน อาการน้องมีแต่ทรุดลงๆ เพราะผลเลือดแย่ลง เชื้อในกระแสเลือดก็ยังสูง และ หมอไม่มีการใส่ท่อปัสสาวะให้น้องเลย
 เราเลยตัดสินใจย้ายที่รักษา ไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า เพราะเราก็รู้สึกหมอคนนี้มันดูโง่ๆ ขอโทษที่พูดแรงนะ 
คือขนาดหน้าตาแม่เรามาเยี่ยมแมวทุกวัน ยังจำไม่ได้ เลย แค่ปล่อยผม ก็ลืม แค่ถอดแว่นก็ลืม คิดว่า คนละคน

เราย้ายไปโรงพยาบาลสัตว์ทิพย์พิมาน เครื่องมือพร้อมกว่า พอแมวเราไปถึง คุณหมอโรงพยาบาลแห่งใหม่ มาดูไม่ถึง 10 วิ บอกน้องหายใจกระแทก
 เลยรีบเอาเข้าตู้อ๊อกซิเจน (หมอคนเดิมบอก หายใจปกติ) แล้วท้องน้องป่องมาก หมอเลยรีบถ่ายปัสสาวะน้องออกมา ครึ่งลิตร 
หมอทำได้โดยไม่จำเป็นต้องวางยาสลบเหมือนหมอคนแรก จากนั้น หมอรีบใส่ต่อท่อปัสสาวะให้น้องทันที (หมอเดิมไม่ใส่) 
น้องอยู่ในตู้อ๊อกซิเจนตลอด 24 ชม และหมอมีการถ่ายเลือด ให้น้องแมวเรา (ที่เดิมไม่มีการพูดถึงการถ่ายเลือดเลย)
 ถ่ายเลือดเพื่อที่จะเพิ่มค่าเม็ดเลือดแดง แต่ก็ไม่ทันแล้ว หลังจากที่น้องได้เลือดไป น้องจากเราไปแล้ว น้องนอนได้แค่ 2 คืน  
เพราะ เรามารักษาที่นี่ช้า ไปด้วยค่ะ หมอบอกว่า น้องได้เลือดแล้ว แต่น้องจะใช้เลือดได้สมบูรณ์ต้องประมาณ 24 ชม 
เราไม่โกรธหมอคนนี้เลยนะคะ เพราะทราบว่าเต็มที่แล้ว แต่ที่มาเล่า คือ หมอ รพ.คนแรกรักษาได้แย่มาก 
เพราะเราไปดูเคสแมวที่เป็นโรคไตที่อาการหนัก ที่เดินไม่ได้ทุกตัว จะใส่สายท่อปัสสาวะ ทุกวัน แต่ทำไมหมอไม่ใส่ให้น้อง
 แล้วการที่น้องติดเชื้อในกระแสเลือดเพราะน้องฉี่ไม่ค่อยออก แต่หมอไม่ต่อท่อ แล้ว โรคติดเชื้อในกระแสเลือดมันจะบรรเทาลงยังไง 
ถ้าหมอบอกว่า ถ่ายปัสสวะให้น้อง แล้วทำไมท้องน้องป่องขนาดนั้นหมอคนแรกบอกเม็ดเลือดแดงต่ำ 
แต่หมอก็ไม่เคยคิดว่า คุยเรื่องถ่ายเลือด ทั้งๆที่เรามีแมวมาบริจาคเลือดได้

เราเลยอยากมาเตือนอุทาหรณ์ ค่ะ เราเสียแมวไปแล้วว แม่เราเสียใจและยังทำใจไม่ได้ เลี้ยงมาป้อนนม ตั้งแต่ เกิดเลย เพราะแม่น้องมาคลอดที่เท้าแม่เรา แล้วแม่น้องแมวก็หายไป ทิ้งน้องให้แม่เราดูแล จน 13 ปี แม่เรารักเหมือนลูก ค่ารักษากี่หมื่นก็ยอมจ่าย