พระอาจารย์จอมขมังเวทย์เผชิญปีศาจอเวจี





พระอาจารย์จองขมังเวทย์เผชิญปีศาจอเวจี


ป่าดิบเชิงดอยสูงมักมีอากาศเยือกเย็นอยู่ตลอดวัน ยิ่งเป็นช่วงกลางคืนด้วยแล้วยิ่งหนาวจนสั่น ทั้งพระและลูกศิษย์ยังไม่ไว้ใจในสัตว์ใหญ่อย่างช้าง เพราะเห็นร่องรอยของมันมาตลอดทาง การก่อกองไฟให้สูงขึ้นจึงช่วยให้อุ่นใจได้ระดับหนึ่ง พอหมดแสงของวัน ป่าทั้งป่าก็พลันมืดมิด แว่วเสียงเห่าหอนของหมาในทางโน้นทางนี้ สลับกับเสียงนกเค้าแมว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าสู่ยามดึก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคนและสัตว์น่าจะหลับสนิท บ้านของพรานถมมืดทึบ เจ้าจ้อยนอนตัวงออยู่ในกลดของพระบุญหลาย ส่วนอีกกลด พระเสาร์ก็คงหลับไปแล้วเหมือนกัน แต่พระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ยังคงนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่หน้ากลด กองไฟส่องแสงวูบวาบกระทบต้นไม้ใบไม้รอบข้าง แสงสว่างของหิ่งห้อยลอยไปลอยมา อยู่ท่ามกลางม่านสีดำของยามราตรี พลันเสียงหมาในที่เห่าอยู่ไกล ๆ ก็เปลี่ยนเป็นหอนโหยหวนขึ้นมา เสียงหอนของมันฟังดูเยือกเย็นจับใจ 

พระอาจารย์บุญหลายนั่งเงี่ยหูฟังเสียงหมาหอนอยู่สักครู่ ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา คล้ายเสียงใครมาร้องไห้กระซิกอยู่ใกล้ ๆ สักพักก็มีสายลมพัดมาแผ่วเบา พร้อมกับกลิ่นสาบสางประหลาดลอยมากระทบจมูก

พระอาจารย์ลืมตาขึ้นมอง ท่านสะดุ้งขึ้นน้อย ๆ เมื่อมองเห็นร่างเลือนรางของผู้หญิงคนหนึ่ง น่าจะอายุไม่เกินยี่สิบปี หล่อนมานั่งพนมมืออยู่ต่อหน้าท่าน ห่างไปสักสามวา ใบหน้าของร่างนั้นแม้จะเลือนราง มองเห็นไม่ชัด แต่สังเกตเห็นว่าสีหน้าของหล่อนอมทุกข์ เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก

“นมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ” เสียงแผ่วเบาเจือสะอื้นดังออกมาจากร่างเลือนรางนั้น

หญิงสาวผู้นี้เป็นใคร และทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวให้พระอาจารย์บุญหลายเห็น ติดตามชีวิตของเธอได้ที่ช่องยูทูปข้างล่างนี้ค่ะ

https://youtu.be/kU23Zy0dtXA

(มีความจำเป็นต้องให้ไปติดตามที่ช่องยูทูปค่ะ ต้องขอโทษ FC สายอ่านทุกท่านด้วยนะคะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่