- เรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2018 บริษัทฯที่นำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากยุโรปแห่งหนึ่ง ได้จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าที่โกดังของบริษัทฯ แถวถนนเทพรัตน์ ผมได้ไปซื้อตู้เย็น(ของใหม่)จากงานวันนั้น
- และได้ใช้งานเป็นปกติมาจนกระทั่งวันที่ 18/3/22 ตู้ไม่เย็นจึงติดต่อบริษัทฯผู้จำหน่าย เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ารับประกันเพียง 2 ปีผมจึงเข้าใจว่าสิ้นสุดการรับประกันแล้ว ถ้าจะเรียกช่างบริษัทฯมาซ่อมจะเสียค่าบริการ 1,262 บ. ไม่รวมค่าอะไหล่ ผมจึงเรียกช่างใกล้บ้านมาตรวจเช็คให้ และแจ้งว่าคอมเพรสเซอร์เสีย ช่างยังบอกว่าปกติคอมเพรสเซอร์จะทนทานมาก บริษัทฯมักรับประกัน 5 ปี บางยี่ห้อรับประกัน 10 ปี
- ผมจึงติดต่อบริษัทฯ วันที่ 21/3/22 เบื้องต้นผมก็เจออุปสรรคแรก ที่คิดว่าเป็น เล่ห์เหลี่ยมที่จะสร้างขัดขวางการใช้สิทธิ์รับประกันสินค้าให้กับลูกค้าคือ Call Center (ภรรยาเป็นคนคุยกับ Call Center) บอกให้ผมหาใบเสร็จที่ซื้อให้ดู ผมก็แย้งว่า ปกติไม่มีการถามหาใบเสร็จนะ เพราะที่ตัวตู้ก็มีสติ๊กเกอร์ของบริษัทฯติดไว้ บอกชื่อรุ่น Serial No. วันที่ผลิตคือ 21/02/2018 ชัดเจนแล้ว แต่ก็ยังยืนยันให้ผมต้องหาใบเสร็จมายืนยันจึงจะเปิดใบซ่อมให้
- ผมต้องค้นหาใบเสร็จจนเจอและถ่ายส่งให้ดู จึงยอมเปิดใบซ่อมให้และนัดส่งช่างมาตรวจเช็ควันที่ 23/3/22 ช่างเช็คแล้วแจ้งว่า คอมเพรสเซอร์เสีย ต้องรออะไหล่นาน 3 เดือนและเสียค่าน้ำยากับอะไหล่บางตัวเพิ่มเป็นเงิน 7,950 บ. ทั้งที่ตอนติดต่อกับ Call Center ก็บอกว่าถ้าคอมเพรสเซอร์เสีย ไม่ต้องเสียค่าอะไหล่ ซึ่งผมเห็นว่าบริษัทฯทำแบบนี้ไม่ยุติธรรม เพราะช่างนอกที่เรียกมาดูก็แจ้งราคาเปลี่ยนคอม+เติมน้ำยา 7,500 บ. แต่การให้บริษษัทฯเคลมตามสิทธิ์รับประกันกลับเสีย คชจ. แพงกว่า เหมือนกับไม่มีการรับประกันอะไร และอะไหล่ตัวอื่นที่ช่างบริษัทฯแจ้งก็ไม่มีในรายการซ่อมที่ช่างข้างนอกมาตรวจเช็ค แล้วแจ้งว่าต้องเปลี่ยน
- ทำให้ผมระแวงว่า นี่อาจเป็นเล่ห์เหลี่ยมอีกขั้นหนึ่ง ที่บริษัทฯอบรมช่างให้นำมาใช้ในกรณีต้องเคลมประกัน ก็ให้เพิ่มอะไหล่ตัวอื่นที่อยู่นอกการรับประกันเข้าไปแล้วบวกราคาเพิ่ม หรือไม่? อีกทั้งผมยังต้องรออะไหล่นาน 3 เดือน โดยไม่บอกว่าระหว่างที่รอจะมีตู้เย็นสำรองมาให้ผมใช้งานแทนหรือไม่
- สุดท้าย เมื่อผมเห็นความไม่จริงใจในการให้บริการ และแสดงความรับผิดชอบในการรับประกันสินค้าของบริษัทฯ ที่ควรมีธรรมาภิบาล มีความชัดเจนโปร่งใสไม่หมกเม็ด แบบที่กระทำแบบนี้ ผมจึงไม่ยอมเซ็นรับใบเสนอราคางานซ่อมของบริษัทฯ ที่ช่างพยายามตื๊อให้เซ็น เพราะถ้าเซ็นไปก็จะถูกผูกมัดและต้องรอโดยไม่มีกำหนด(3 เดือนที่บอกอาจไม่ได้จริงตามนั้น)
- หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับจาก Call Center ของบริษัทฯอีกเลย จนคิดว่าคงโดนเทเสียแล้ว จึงมาเล่าให้ทุกท่านฟังและระวังกันครับ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากยุโรป ที่คิดว่าคุณภาพดีน่าเชื่อถือ บางทีก็อาจเจอนโยบายรับประกันแบบหมกเม็ดไม่โปร่งใสของผุ้นำเข้าแบบนี้ได้
เตือนภัยเล่ห์เหลี่ยมบริษัทฯนำเข้าตู้เย็นแบรนด์ยุโรป ยี่ห้อขึ้นต้นด้วย S และยี่ห้อ B หมกเม็ดรับประกันสินค้าแบบไม่โปร่งใส
- และได้ใช้งานเป็นปกติมาจนกระทั่งวันที่ 18/3/22 ตู้ไม่เย็นจึงติดต่อบริษัทฯผู้จำหน่าย เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ารับประกันเพียง 2 ปีผมจึงเข้าใจว่าสิ้นสุดการรับประกันแล้ว ถ้าจะเรียกช่างบริษัทฯมาซ่อมจะเสียค่าบริการ 1,262 บ. ไม่รวมค่าอะไหล่ ผมจึงเรียกช่างใกล้บ้านมาตรวจเช็คให้ และแจ้งว่าคอมเพรสเซอร์เสีย ช่างยังบอกว่าปกติคอมเพรสเซอร์จะทนทานมาก บริษัทฯมักรับประกัน 5 ปี บางยี่ห้อรับประกัน 10 ปี
- ผมจึงติดต่อบริษัทฯ วันที่ 21/3/22 เบื้องต้นผมก็เจออุปสรรคแรก ที่คิดว่าเป็น เล่ห์เหลี่ยมที่จะสร้างขัดขวางการใช้สิทธิ์รับประกันสินค้าให้กับลูกค้าคือ Call Center (ภรรยาเป็นคนคุยกับ Call Center) บอกให้ผมหาใบเสร็จที่ซื้อให้ดู ผมก็แย้งว่า ปกติไม่มีการถามหาใบเสร็จนะ เพราะที่ตัวตู้ก็มีสติ๊กเกอร์ของบริษัทฯติดไว้ บอกชื่อรุ่น Serial No. วันที่ผลิตคือ 21/02/2018 ชัดเจนแล้ว แต่ก็ยังยืนยันให้ผมต้องหาใบเสร็จมายืนยันจึงจะเปิดใบซ่อมให้
- ผมต้องค้นหาใบเสร็จจนเจอและถ่ายส่งให้ดู จึงยอมเปิดใบซ่อมให้และนัดส่งช่างมาตรวจเช็ควันที่ 23/3/22 ช่างเช็คแล้วแจ้งว่า คอมเพรสเซอร์เสีย ต้องรออะไหล่นาน 3 เดือนและเสียค่าน้ำยากับอะไหล่บางตัวเพิ่มเป็นเงิน 7,950 บ. ทั้งที่ตอนติดต่อกับ Call Center ก็บอกว่าถ้าคอมเพรสเซอร์เสีย ไม่ต้องเสียค่าอะไหล่ ซึ่งผมเห็นว่าบริษัทฯทำแบบนี้ไม่ยุติธรรม เพราะช่างนอกที่เรียกมาดูก็แจ้งราคาเปลี่ยนคอม+เติมน้ำยา 7,500 บ. แต่การให้บริษษัทฯเคลมตามสิทธิ์รับประกันกลับเสีย คชจ. แพงกว่า เหมือนกับไม่มีการรับประกันอะไร และอะไหล่ตัวอื่นที่ช่างบริษัทฯแจ้งก็ไม่มีในรายการซ่อมที่ช่างข้างนอกมาตรวจเช็ค แล้วแจ้งว่าต้องเปลี่ยน
- ทำให้ผมระแวงว่า นี่อาจเป็นเล่ห์เหลี่ยมอีกขั้นหนึ่ง ที่บริษัทฯอบรมช่างให้นำมาใช้ในกรณีต้องเคลมประกัน ก็ให้เพิ่มอะไหล่ตัวอื่นที่อยู่นอกการรับประกันเข้าไปแล้วบวกราคาเพิ่ม หรือไม่? อีกทั้งผมยังต้องรออะไหล่นาน 3 เดือน โดยไม่บอกว่าระหว่างที่รอจะมีตู้เย็นสำรองมาให้ผมใช้งานแทนหรือไม่
- สุดท้าย เมื่อผมเห็นความไม่จริงใจในการให้บริการ และแสดงความรับผิดชอบในการรับประกันสินค้าของบริษัทฯ ที่ควรมีธรรมาภิบาล มีความชัดเจนโปร่งใสไม่หมกเม็ด แบบที่กระทำแบบนี้ ผมจึงไม่ยอมเซ็นรับใบเสนอราคางานซ่อมของบริษัทฯ ที่ช่างพยายามตื๊อให้เซ็น เพราะถ้าเซ็นไปก็จะถูกผูกมัดและต้องรอโดยไม่มีกำหนด(3 เดือนที่บอกอาจไม่ได้จริงตามนั้น)
- หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับจาก Call Center ของบริษัทฯอีกเลย จนคิดว่าคงโดนเทเสียแล้ว จึงมาเล่าให้ทุกท่านฟังและระวังกันครับ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากยุโรป ที่คิดว่าคุณภาพดีน่าเชื่อถือ บางทีก็อาจเจอนโยบายรับประกันแบบหมกเม็ดไม่โปร่งใสของผุ้นำเข้าแบบนี้ได้