วันนี้ของมาแช์ประสบการณ์ซื้อของจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง สามร้าน ซึ่งก็เคยซื้อจากทุกร้านและหลายรอบ
ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมานะครับ
แต่ละร้านมีการอบรม และส่งต่ออุปนิสัย วัฒนธรรมองค์กร ของพนักงานขายแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆครับ ซึ่งอาจ
เป็นผลต่อกำไร ยอดขาย และ การซื้อซ้ำของลูกค้าครับ ขอแชร์เป็น 1 ในกระบอกเสียงจากลูกค้าครับ
การไปเลือกซื้อผมแต่งตัวปรกติ นะครับ เสื้อยืด ,กางเกงขาสั้นสภาพดี แบบคนเดินห้างทั่วๆไป และเวลาทำการปรกติ
แต่ละร้านมีคาแรกเตอร์ที่เห็นได้แบบนี้ ในมุมมองผมนะครับ
ร้าน P
1. พนักงานไม่สนอะไรสักนิด ปล่อยลูกค้าเดินผ่าน ไปหาเอง หันไปก็หลบสายตา
2. เมื่อถามหาสินค้า ก็ทำหน้าเหนื่อยใจ ไม่กระตือรือล้น ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อ / ของที่ตัวเองจะขาย
3. ขอลองก็ให้ลองแบบเสียมิได้ พอขอดูตัวอื่นมาเทียบก็ บอกว่าไม่มี / ราคาต่าง สูงกว่า และ "เลือกปฏิบัติชัดเจนจากการแต่งตัว"
4. ส่งของจะล่าช้า หลายครั้งพบว่า ผู้ส่งและติดตั้งไม่ใช่พนักงานของร้านนี้และไม่ใส่ชุดฟอร์มมา
ร้าน H
1. พนักงานสอบถามตั้งแต่แรกเข้าว่าหาสินค้าอะไรให้ช่วยไหม และบอกว่าอยู่โซนไหน ชี้จุดหรือเดินนำเลย
2. มีการแนะนำสินค้า และเอามาวางให้ลองแบบไม่หวงของ เต็มใจบริการ หัวใจงานบริการเต็มเปี่ยมจริงๆ
3. แม้ยังไม่ตัดสินใจก็ยังขอบคุณที่เข้ามาเลือก และแนะนำถ้ามีรุ่นอื่น ยี่ห้ออื่นที่ใกล้เคียง และโปรลดให้อีก
4. รับผิดชอบการส่ง ตรงเวลา และ Call center ทำงาน ตามงานจริง
ร้าน B,T
1. พนักงานปล่อยดูแบบห่างๆ ไปหาเอง ของวางแยกตามยี่ห้อ
2. หากต้องแนะนำ จะพูดเฉพาะสินค้าที่ตัวเองขาย และ Discredit แบรนด์อื่นชัดเจน
3. ถ้าซื้อจ่ายตังแล้ว ถึงจะบริการดีเลิศ
4. รับผิดชอบการส่ง แต่มักไม่ตรงเวลา แต่วันจะไม่เลื่อน และ Call center ทำงาน ตามงานจริง
บางที่ช่างที่มาติดตั้งก็เป็น Sub นอกไม่ใส่ชุดฟอร์ม แต่ก็ชำนาญงานอยู่
ถ้าร้านที่เหลือไม่ถูกกว่ามากๆ แบบ Flashsale ส่วนใหญ่ ผมจะซื้อร้าน H แม้แพงกว่า "ก็ซื้อ" เพราะการบริการ
และความสบายใจ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุให้ของเขาถึงขายดี ขยายสาขาได้เรื่อยๆ และมีอัตราการซื้อซ้ำจากผู้บริโภค วัยกลางคนแบบผมเยอะ
แต่ละท่านมีประสบการณ์อย่างไรบ้างก็มาแชร์กันนะครับ
ในภาวะที่ การซื้อ online มีสูง ถ้าร้านเหล่านี้ไม่ปรับการบริการหน้าบ้านให้สนใจลูกค้า Walk In ให้มากกว่านี้
พนักงาน Sale หน้าร้านคงอยู่ยากนะครับ
แชร์เรื่องเล่าประสบการณ์การซื้อของจาก ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง สามร้าน
ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมานะครับ
แต่ละร้านมีการอบรม และส่งต่ออุปนิสัย วัฒนธรรมองค์กร ของพนักงานขายแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆครับ ซึ่งอาจ
เป็นผลต่อกำไร ยอดขาย และ การซื้อซ้ำของลูกค้าครับ ขอแชร์เป็น 1 ในกระบอกเสียงจากลูกค้าครับ
การไปเลือกซื้อผมแต่งตัวปรกติ นะครับ เสื้อยืด ,กางเกงขาสั้นสภาพดี แบบคนเดินห้างทั่วๆไป และเวลาทำการปรกติ
แต่ละร้านมีคาแรกเตอร์ที่เห็นได้แบบนี้ ในมุมมองผมนะครับ
ร้าน P
1. พนักงานไม่สนอะไรสักนิด ปล่อยลูกค้าเดินผ่าน ไปหาเอง หันไปก็หลบสายตา
2. เมื่อถามหาสินค้า ก็ทำหน้าเหนื่อยใจ ไม่กระตือรือล้น ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อ / ของที่ตัวเองจะขาย
3. ขอลองก็ให้ลองแบบเสียมิได้ พอขอดูตัวอื่นมาเทียบก็ บอกว่าไม่มี / ราคาต่าง สูงกว่า และ "เลือกปฏิบัติชัดเจนจากการแต่งตัว"
4. ส่งของจะล่าช้า หลายครั้งพบว่า ผู้ส่งและติดตั้งไม่ใช่พนักงานของร้านนี้และไม่ใส่ชุดฟอร์มมา
ร้าน H
1. พนักงานสอบถามตั้งแต่แรกเข้าว่าหาสินค้าอะไรให้ช่วยไหม และบอกว่าอยู่โซนไหน ชี้จุดหรือเดินนำเลย
2. มีการแนะนำสินค้า และเอามาวางให้ลองแบบไม่หวงของ เต็มใจบริการ หัวใจงานบริการเต็มเปี่ยมจริงๆ
3. แม้ยังไม่ตัดสินใจก็ยังขอบคุณที่เข้ามาเลือก และแนะนำถ้ามีรุ่นอื่น ยี่ห้ออื่นที่ใกล้เคียง และโปรลดให้อีก
4. รับผิดชอบการส่ง ตรงเวลา และ Call center ทำงาน ตามงานจริง
ร้าน B,T
1. พนักงานปล่อยดูแบบห่างๆ ไปหาเอง ของวางแยกตามยี่ห้อ
2. หากต้องแนะนำ จะพูดเฉพาะสินค้าที่ตัวเองขาย และ Discredit แบรนด์อื่นชัดเจน
3. ถ้าซื้อจ่ายตังแล้ว ถึงจะบริการดีเลิศ
4. รับผิดชอบการส่ง แต่มักไม่ตรงเวลา แต่วันจะไม่เลื่อน และ Call center ทำงาน ตามงานจริง
บางที่ช่างที่มาติดตั้งก็เป็น Sub นอกไม่ใส่ชุดฟอร์ม แต่ก็ชำนาญงานอยู่
ถ้าร้านที่เหลือไม่ถูกกว่ามากๆ แบบ Flashsale ส่วนใหญ่ ผมจะซื้อร้าน H แม้แพงกว่า "ก็ซื้อ" เพราะการบริการ
และความสบายใจ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุให้ของเขาถึงขายดี ขยายสาขาได้เรื่อยๆ และมีอัตราการซื้อซ้ำจากผู้บริโภค วัยกลางคนแบบผมเยอะ
แต่ละท่านมีประสบการณ์อย่างไรบ้างก็มาแชร์กันนะครับ
ในภาวะที่ การซื้อ online มีสูง ถ้าร้านเหล่านี้ไม่ปรับการบริการหน้าบ้านให้สนใจลูกค้า Walk In ให้มากกว่านี้
พนักงาน Sale หน้าร้านคงอยู่ยากนะครับ