เรามีปัญหาเรื่องครอบครัว ที่ตอนนี้มันหนักมากๆครอบครัวเรามีพ่อ แม่ พี่ และเรา ประกอบอาชีพค้าขายมาตลอด หลังจากเราและพี่เรียนจบก็ไม่ได้ทำงานที่ไหนเลย มาช่วยงานที่บ้าน ตอนนั้นเศรษฐกิจค่อนข้างดีมาก เลยไม่คิดว่าจะต้องไปหางานอื่นๆ แต่เวลาผ่านไปเริ่มประสบปัญหาทั้งทางบุคคลมีคนพยายามบีบบังคับให้ขายของไม่ได้ ไล่ที่บ้าง แจ้งเทศกิจบ้าง ประมาณว่าขายดีจนขัดหูขัดตาคนอื่น คือ เราไม่มีร้านที่ปลูกสร้างถาวรค่ะ ขายบนทางเท้า
พอเจอปัญหาหยุมหยิมแบบนี้จากที่เคยมีเงินเก็บก็กลายเป็น มีหนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะพิษโควิดและโดนย้ายที่ทำมาหากินมาอยู่ปทุม กว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ เงินที่มีก็หมดแล้ว ตอนนี้ก็แค่พอขายได้ไปวันๆ เราขายที่หน้าบ้าน(ปทุม) ซึ่งขายไม่ดีมากๆ พ่อแม่พี่ กลับเข้าไปขายในกทม ไป-กลับ ทุกวัน เพราะไม่มีบ้านที่นั่นแล้ว ขายดีบ้างไม่ดีบ้าง ไม่มีเหลือเก็บมีแค่ใช้หนี้ บางเดือนก็ต้องหยิบยืมญาติพี่น้อง เป็นมาแบบนี้ตลอด จนเราอยากออกไปทำงานข้างนอก เราไม่ได้หวังเงินเดือนหลายหมื่นหรอก เรารู้ดีว่าเราจะได้เงินเดือนราวๆไหน เพราะไม่เคยทำงานอื่นๆมาก่อนนอกจากงานที่บ้าน เรามีความตั้งใจส่งเงินให้ที่บ้าน70%ของเงินเดือนที่เราได้ เพราะเรามีที่พักฟรี เราขอเก็บเงินบางส่วนไว้ดำรงชีวิตซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น ที่เราอยากออกไป เพราะเราไม่เคยอินกับงานที่บ้านเลย เราไม่ชอบมาตลอด แล้วทุกวันนี้มันก็ขายแทบจะไม่ได้เงินอะไรเลยด้วย เราเคยคุยกับแม่แล้ว ว่าหนูขอออกไปทำงานข้างนอกได้ไหม คุยดีๆพูดด้วยเหตุและผล จะได้ช่วยหาเงินได้อีกทาง เพราะตรงนี้ก็ขายไม่ได้อะไร แต่ก็ทะเลาะค่ะ แม่ไม่เคยฟังอะไรเราเลย ตะคอกใส่ ใส่อารมณ์ แม่บอกว่า ตราบใดที่ครอบครัวเรายังอยู่บ้านที่นี่ ตัวเราไม่มีทางได้ไปไหน (แม่เรียกเราเป็นคำหยาบนะคะ)เหมือนว่าทุกวันนี้ขายของหน้าบ้านหวังฟลุ๊คได้เงินอะคะ จุดประสงค์หลักคือ ใช้เราเฝ้าบ้าน เลี้ยงหมา ซักผ้า ทำงานบ้านให้ทุกคน เราเหมือนคนไร้ซึ่งศักยภาพ เราอยากเลือกทางเดินชีวิตของเราบ้าง และเราก็ทำเพื่อที่บ้าน แต่ขอให้ตัวเราเองมีความสุขกับสิ่งที่เราเลือกได้ ไม่ได้เลยหรอ หรือ เราไม่สามารถเลือกอะไรให้ชีวิตเราได้เลย เราอายุ32แล้วนะคะ เรารู้สึกแย่มากๆที่ในทุกๆวันต้องทำงานตรงนี้ เราอยากหนีออกจากบ้านมากค่ะ เพราะไม่ว่าจะคุยเท่าไหร่ คุยยังไง แม่ชนะทุกครั้ง เราได้แต่ร้องไห้ ทำงานไปร้องไห้ไป เพราะเราไม่ชอบจริงๆ เรารองานเปิดรับสมัครนานมาก แล้วเขาก็เปิดรับจนได้ แต่แม่เราไม่ให้ไป มันน่าอายจังค่ะ ที่อายุ32แล้ว อยากหนีออกจากบ้าน
เราจะหาทางออกปัญหานี้ยังไงดีค่ะ
น่าอายจัง อายุ32 แต่อยากหนีออกจากบ้าน(ปัญหาครอบครัว)
พอเจอปัญหาหยุมหยิมแบบนี้จากที่เคยมีเงินเก็บก็กลายเป็น มีหนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะพิษโควิดและโดนย้ายที่ทำมาหากินมาอยู่ปทุม กว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ เงินที่มีก็หมดแล้ว ตอนนี้ก็แค่พอขายได้ไปวันๆ เราขายที่หน้าบ้าน(ปทุม) ซึ่งขายไม่ดีมากๆ พ่อแม่พี่ กลับเข้าไปขายในกทม ไป-กลับ ทุกวัน เพราะไม่มีบ้านที่นั่นแล้ว ขายดีบ้างไม่ดีบ้าง ไม่มีเหลือเก็บมีแค่ใช้หนี้ บางเดือนก็ต้องหยิบยืมญาติพี่น้อง เป็นมาแบบนี้ตลอด จนเราอยากออกไปทำงานข้างนอก เราไม่ได้หวังเงินเดือนหลายหมื่นหรอก เรารู้ดีว่าเราจะได้เงินเดือนราวๆไหน เพราะไม่เคยทำงานอื่นๆมาก่อนนอกจากงานที่บ้าน เรามีความตั้งใจส่งเงินให้ที่บ้าน70%ของเงินเดือนที่เราได้ เพราะเรามีที่พักฟรี เราขอเก็บเงินบางส่วนไว้ดำรงชีวิตซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น ที่เราอยากออกไป เพราะเราไม่เคยอินกับงานที่บ้านเลย เราไม่ชอบมาตลอด แล้วทุกวันนี้มันก็ขายแทบจะไม่ได้เงินอะไรเลยด้วย เราเคยคุยกับแม่แล้ว ว่าหนูขอออกไปทำงานข้างนอกได้ไหม คุยดีๆพูดด้วยเหตุและผล จะได้ช่วยหาเงินได้อีกทาง เพราะตรงนี้ก็ขายไม่ได้อะไร แต่ก็ทะเลาะค่ะ แม่ไม่เคยฟังอะไรเราเลย ตะคอกใส่ ใส่อารมณ์ แม่บอกว่า ตราบใดที่ครอบครัวเรายังอยู่บ้านที่นี่ ตัวเราไม่มีทางได้ไปไหน (แม่เรียกเราเป็นคำหยาบนะคะ)เหมือนว่าทุกวันนี้ขายของหน้าบ้านหวังฟลุ๊คได้เงินอะคะ จุดประสงค์หลักคือ ใช้เราเฝ้าบ้าน เลี้ยงหมา ซักผ้า ทำงานบ้านให้ทุกคน เราเหมือนคนไร้ซึ่งศักยภาพ เราอยากเลือกทางเดินชีวิตของเราบ้าง และเราก็ทำเพื่อที่บ้าน แต่ขอให้ตัวเราเองมีความสุขกับสิ่งที่เราเลือกได้ ไม่ได้เลยหรอ หรือ เราไม่สามารถเลือกอะไรให้ชีวิตเราได้เลย เราอายุ32แล้วนะคะ เรารู้สึกแย่มากๆที่ในทุกๆวันต้องทำงานตรงนี้ เราอยากหนีออกจากบ้านมากค่ะ เพราะไม่ว่าจะคุยเท่าไหร่ คุยยังไง แม่ชนะทุกครั้ง เราได้แต่ร้องไห้ ทำงานไปร้องไห้ไป เพราะเราไม่ชอบจริงๆ เรารองานเปิดรับสมัครนานมาก แล้วเขาก็เปิดรับจนได้ แต่แม่เราไม่ให้ไป มันน่าอายจังค่ะ ที่อายุ32แล้ว อยากหนีออกจากบ้าน
เราจะหาทางออกปัญหานี้ยังไงดีค่ะ