สวัสดีทุกคน จขกท จะมารีวิวจักรยานไฟฟ้า Ninebot eMoped รุ่น B65 ประหยัดไฟ ครบ จบทุกอย่าง ให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เชื่อแน่ว่าคงมีหลายๆคนกำลังมองหาจักรยานไฟฟ้าคุณภาพ ประสิทธิภาพดี ประหยัดไฟจริง ไม่จกตา และมองหาจักรยานไฟฟ้าที่ใช้งานได้อย่างยาวนานคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป เพราะจะเห็นว่าจักรยานไฟฟ้าช่วงนี้ในท้องตลาดเขาก็มีหลายเกรดนะครับ ตั้งแต่แบบถูกมากจนไปจนถึงหลักหมื่นก็มีครับ

ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องการเลือกซื้อสักหน่อย หลักๆก็คือขึ้นอยู่พิจารณาการการใช้งานของเรา ในตลาดที่ราคาต่างกัน ก็ขึ้นอยู่ที่ฟีเจอร์ สเปค และอะไรอีกหลายๆอย่าง ฉะนั้นผมเลือก Ninebot eMoped รุ่น B65 ด้วยดีไซน์และฟังชั่นและที่สำคัญคือการรับประกันก็ครอบคลุมทุกสิ่งอย่างครับ รุ่นนี้ถือว่ารับประกันนานมากจากที่ผมหาข้อมูลจากร้านอื่นๆครับ ตัวแบตเตอรี่ประกัน 3 ปี หรือ 60,000 กม. ตัวมอเตอร์ 2 ปี ครับประกันศูนย์โมโนวีล

ส่วนตัวผมมองว่า จะซื้อของใดๆ ก็ตาม ยิ่งถ้าเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากเรื่องราคา ฟังก์ชันแล้ว เราว่าการเลือกซื้อกับบริษัทที่น่าเชื่อถือและประกันก็สำคัญ เพราะอย่างน้อยจะได้มั่นใจว่าซื้อไปแล้ว ใช้ไปแล้วไม่เกมส์ ขอเป็นเจ็บแต่จบและอุ่นใจในประกันเลยมาจบที่รุ่นนี้ครับ

การใช้งาน

มาพูดถึงการใช้งาน  หลังจากที่ใช้งานจริงขี่รอบหมู่บ้านได้มาสัปดาห์หนึ่ง ภาพรวมการขับขี่ง่ายสะดวกไม่มีอะไรยุ่งยากครับ เริ่มต้นมาเปิดปิดเครื่อง ใช้ NFC Smart Key เป็นบัตรสีเทาเหมือนของคอนโดไว้ใช้แตะที่จอไฮโซมากครับ ปลอดภัยจอดไว้ไม่ต้องกลัวโจรมางัดเพราะไม่ใช้กุญแจเปิด หลักๆคือผมซื้อ มาเพื่อใช้แทนจักรยานจริงๆ ใช้ขี่ในหมู่บ้าน ไปหน้าปากซอย ผมชอบตัวดีไซน์รถครับ มันดูล้ำดี มีตะขอให้ห้อยของเพื่อความสะดวกเวลาไปซื้อของอะไรมาก็ห้อยได้ เห็นพนักงานขายบอกจะมีอุปกรณ์เสริมมาจำหน่ายเดือนมีนานี้ครับ พวกเบาะเสริมหรือที่ใส่ขวดน้ำ ตัวรุ่นนี้ความเร็วสูงสุด 38 กม/ชม. วิ่งได้ไกลถึง 65 กม ต่อชาร์จ เลยครับ ผมแพลนว่าจะเอาไปวิ่งขับที่โรงงานด้วยเพราะระยะทางในโรงงานค่อนข้างไกลซึ่งอาจจะเหมาะกับระยะทางที่ตัวเครื่องให้มา ตอนนี้ใช้ที่บ้านให้คนในครอบครัวลองใช้ด้วยกันก่อนครับค่อนข้างเห่อ อีกโหมดที่ชอบคือ Cruise Control ไม่ต้องบิดไม่ต้องปั่นให้เหนื่อยครับนั่งอยู่เฉยรถก็ไปแล้วครับส่วนการใช้งานกลางคืน มีไฟแบบ LED อุ่นใจตอนกลางคืน สว่างมีทั้งไฟหน้าและไฟหลัง มีโช้คหน้าหลังขับผ่านเนินเตาหมู่บ้านผ่านได้สบายครับ นอกจากนี้ยังมีระบบปั่นไฟกลับด้วยนะคือเดี๋ยวนี้จักรยานไฟฟ้าคันไหนๆก็น่าจะมีกันหมด ถ้าไม่มีนี่ตัดสินใจซื้อยากเลยครับ


ฟังก์ชั่นที่มี มันใหม่และเหนือกว่าจักรยานคันอื่นจริงๆ
เห่อของใหม่จริงๆ กลิ่นความหอมและฟีเจอร์มันล้นออกมาจนอยากจะเล่า 555 เวอร์มากครับ จะขอเล่าฟังก์ชั่นหน่อย มันอดไม่ได้จริงๆ Ninebot eMoped B65 มีฟังก์ชั่นที่แปลก แบบจักรยานไฟฟ้าทั่วไปในไทยมันไม่มี อันนี้ที่ผมชอบ เพราะมันโดดเด่นด้านนี้ครับ อันแรกเป็นเรื่องคีย์การ์ดที่แตะจอเพื่อปลดล็อก ครับ เด่นมาก ตอนไป 7-11 แตะจอเครื่องร้องเปิดเครื่องคือมันเด่นจริงๆ แล้วก็ตัวสมาร์ทเซ็นเซอร์ครับ มี 2 จุด คือเบาะเวลานั่งจะมีเสียงปลดล็อกด้วย ดังป๊อกๆ น่ารักดี อีกที่ตรงขาตั้ง ส่วนนี้จะเป็นจุด Safety ที่สำคัญครับ มันทำให้ไว้ใจได้ว่ารถจะไม่พุ่งครับ ปุ่มฟังก์ชั่นที่แฮนด์ฝั่งขวา ที่ใช้ในการเปิดใช้งานโหมดต่างๆ Cruise Control, เปิดที่เก็บแบต, เปิดไฟหน้าครับ โอ้ลืมบอกเลยรุ่นนี้เมื่อเข้าที่มืดไฟหน้าเปิด Auto ด้วยนะ ในตอนเช้าจะเป็นไฟ DayLight และโหมดสุดท้ายที่อยากขายเป็นโหมดกันขโมยครับ เวลาล็อกไว้มีคนมาเข็นจะร้อง หน้าจอจะขึ้นเป็น “-P” และหน่วงที่ล้อให้ขยับไม่ได้

ทดลองขี่ไป 7-11 แถวบ้าน
ฟีลลิ่งการขับขี่คือดีต่อใจมากครับ หลังจากซื้อมาก็ได้ทดลองออกขี่ไป 7-11 ครับ เริ่มต้นการออกตัวของรถเหมือนรถมอไซค์เลยครับบิดไป ผมลองเพิ่มน้ำหนักซ้อนกับคุณแฟนการออกตัวปกติเหมือนตอนซ้อนคนเดียวครับรุ่นนี้เค้าให้กำลังมอเตอร์ 400วัตต์ แต่แปลก มันแรงกว่า 400 วัตต์ที่เคยลองผ่านๆ มา การออกตัวโดยที่มีคนซ้อนเลยไม่มีความรู้สึกฝืดๆหรือหน่วงกว่าปกติครับ ต่างจากจักรยานไฟฟ้าทั่วไปที่การออกตัวจะต่อนข้างเนิบๆฝืดๆครับ

ความประหยัดไฟ
ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้เราอยู่ยุคที่ทุกอย่างแพงไปหมด แม้กระทั่งน้ำมันที่ควรจะถูกได้แต่ก็ไม่ถูก พูดละขึ้นครับ ทุกคนรู้หรือไม่เราสามารถคำนวณค่าไฟต่อการชาร์จเองได้ง่ายๆ สาเหตุที่จขกท เลือกรุ่นนี้เพราะจนกท คำนวณมาอย่างดีแล้วครับ วิธีการคำนวณก็ง่ายๆเลยครับ ก่อนอื่นเราต้องทราบ V (Volt) และ Ah (Amp x hours) เพื่อมาคำนวณ Watt สำหรับหา Kw (Kilowatt) พร้อมตัวแปรสำคัญคือหน่วยค่าไฟนั่นเอง สำหรับค่าไฟนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วยเพราะไม่เท่ากัน โดยครั้งนี้จะใช้หน่วยไฟอยู่ที่ 4 บาท ครับ 

คำนวณค่าไฟต่อการชาร์จ การคำนวณหากิโลวัตต์
(48V x 21 Ah) = 1008 Watt / 1,000 = 1.00 kW นำกิโลวัตต์ที่หามาได้ คูณ กับ ค่าไฟ 1 หน่วย
1.00 kW x 4 (1 หน่วยค่าไฟ) = 4 บาท/ชาร์จ
คำนวณค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร ค่าไฟหารด้วยระยะทางที่วิ่งได้
 4 / 65 km = 0.061 บาท/กิโลเมตร
คือมันถูกมากๆเลย ชาร์จไฟ 1 ครั้ง แค่ประมาณ 4 บาท วิ่งได้ 65 กิโลเมตรครับ ส่วนนี้เลยทำให้ผมตัดสินใจซื้อครับ

ถูกใจเพราะถอดแบตได้
มาถึงส่วนสำคัญ เรื่องของแบตเตอรี่ จะวางอยู่ตำแหน่งตรงกลางของตัวถังจักรยานเลยครับ เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียม 48V 21Ah มาพร้อมระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร Battery Management System ซึ่งจะช่วยป้องกันแบตเตอรี่ร้อนขณะชาร์จ และช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร สามารถมั่นใจได้ตลอดอายุการใช้งาน น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 10.5 กิโลกรัม การชาร์จครั้งหนึ่งประมาณ 7-8 ชม. ตัวแบตเตอรี่เราสามารถยกถอดไปชาร์จกับไฟบ้านหรือไฟคอนโดฯ ได้ครับ สะดวกดี ใช้กุญแจไขที่สลักเพื่อปลดล็อกแบตเตอรี่ก่อน หรือบีบเบรกพร้อมกดปุ่มขวาที่แฮนด์ ก็จะเปิดเบาะเก็บแบตครับ จากนั้นถอดปลั๊กที่เสียบกับแบตเตอรี่ออก แล้วยกแบตเตอรี่ ออกไป เสียบอะแดปเตอร์ชาร์จกับเต้ารับไฟบ้านได้เลย

เปรียบเทียบกับจักรยานไฟฟ้าตามตลาดทั่วไป
หลักๆผมจะบอกเลยว่าต่างกันไม่กี่อย่างหรอกครับ เพราะผมเคยผ่านจักรยานไฟฟ้ารุ่นหลักพันมาแล้ว แต่สิ่งที่ต่างกันไม่กี่อย่างที่ผมบอกเลยอาจทำให้คุณเสียเงินทิ้งเสียเวลาและปวดใจได้ครับกับจักรยานไฟฟ้าหลักพันบางรุ่น  เรื่องแรกคือเรื่องที่คนขายส่วนใหญ่ไม่เคยบอก คือเรื่องแบตเสื่อม ค่าแบต จะเห็นได้ว่าจะรับประกันแบตไม่กี่เดือนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็น lead–acid batteryแบตพวกนี้อายุการใช้งานน้อย ถ้าไม่ค่อยได้ชาร์จแบต หรือไม่ค่อยได้ใช้งานแบตจะเสื่อมเร็ว อีกทั้งแบตคุณภาพต่ำๆก็บวมครับจะต้องเปลี่ยนใหม่  ต่างจาก Ninebot eMoped B65 ซึ่งใช้แบตลิเธียมไอออนแบตเตอรี่ที่ผลิตโดย Amperex Technology Limited ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตลิเธียมไอออนแบตเตอรี่ระดับโลก และเป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน ประหยัดระยะเวลาในการชาร์จ เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่มากกว่าเดิม ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา  และช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนาน ส่วนโครงสร้างตัวรถและอุปกรณ์ของจักรยานไฟฟ้าหลักพันส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทนและเป็นสนิมง่าย ตัดเรื่องกันน้ำไปได้เลยครับเสี่ยงมากคุณภาพตามราคาครับ
จะเห็นว่ามีหลายๆเจ้ามีไว้เพื่อขายจริงๆ ตามแพล์ตฟอร์มออนไลน์ร้านค้าต่างๆ แต่พอเกิดปัญหาแล้วบริการหลังการขายค่อนข้างติดต่อยาก และลูกค้าต้องลำบากหาอะไหล่เอง หรือไม่ได้รับประกันทุกชิ้นส่วนจริง แถมบางตัวก็หาไม่ได้ในตลาด ถ้าไปเจอแบบนี้ ปวดหัวยาวเลยครับ ราคาถูกมันแลกมากับพัง มันพังง่ายมาก ตามสภาพจริงๆครับๆ ส่วนตัวคืออยากแนะนำ Ninebot eMoped B65 ทางศูนย์ไทยเขารับประกันครอบคลุมทุกสิ่งอย่าง และมีศูนย์บริการหาง่ายใจกลางกรุงเทพ ที่สำคัญคือต่อให้ประกันหมดทางร้านยังรับซ่อมตลอดชีพไปเลยครับ สามารถโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ call center ได้ตลอดครับ สำหรับการติดต่อสอบถามปัญหา ถ้ารถมีปัญหา เราไม่ต้องแบกรถไปที่ศูนย์บริการเองครับสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะส่งรถมารับถึงหน้าบ้านเลยครับ อุ่นใจคือไม่หายไม่แกล้งตอบให้ลูกค้าสบายใจครับ 

สรุปโดยรวม
ผมขอพูดถึงความประทับใจ ความชอบ หลังจากที่ใช้งานมา มีทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน โดยเรียงลำดับจากความชอบมากที่สุด

1. ความประหยัด เพราะเจ้านี่เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบ 100% ไม่ต้องใช้น้ำมัน ชาร์จไฟบ้านได้ จากการคำนวณต้อง ชาร์จไฟเพียงครั้งละ 4 บาท และ เดินทางเพียง กิโลเมตรละ 0.06 บาท เท่านั้น ถ้ามองคุณขี่สัก 690 กม. เทียบเป็นระยะทาง ขับรถจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ (ถ้าขี่ถึงนะ 55555) คิดเป็นเงินประมาณ 42 บาท!! บอกเลยว่าประหยัดและคุ้มค่ามากครับ บอกลาปัญหาน้ำมันเรื่องน้ำมันแพงและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้เลยครับ

2. ความปลอดภัย ครอบคลุมทั้งตอนใช้งานและไม่ได้ใช้งานครับ โดยเฉพาะ Smart Feature เอาขาตั้งลง คือรถจะบิดไม่ไป หรือว่าเอาขาตั้งขึ้นแต่ผมยืนก็บิดไม่ไปเช่นกันครับ โหมดนี้อุ่นใจสำหรับใครที่มีเด็กเล็กชอบมานั่งเล่นรถป้องกันอุบัติเหตุ ช่วงตอนกลางคืน ไฟหน้า ไฟเบรก สว่างมาก รวมถึงมี NFC Smart Key กันขโมยด้วย จอดตอนไปซื้อของก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนยกจักรยานไฟฟ้าของเราไป
หากเราล็อกเครื่องไว้และมีคนต้องการขโมย ตัวเครื่องจะร้องแจ้งเตือน และหน่วงที่ล้อทำให้ไม่สามารถเข็นไปได้

3. ดีไซด์หน้าตารูปร่าง เป็นจักรยานไฟฟ้าที่ดีไซน์ทันสมัยสวยหรูดูแพงมากบวกกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุมทันสมัยตอบโจทย์ มีการใช้งานง่าย ไม่ต้องหัดก็สามารถขับ ถ้าขี่จักรยานธรรมดาได้ก็ขี่เจ้านี่ได้เลย คล่องพอตัว ลงทุนซื้อคันเดียวใช้งานกันได้ทั้งบ้านเลยครับ

สรุปรวมๆสำหรับตัวนี้เลยผมว่าเป็นจักรยานไฟฟ้า Ninebot eMoped ตอบโจทย์ในเรื่องการประหยัดไฟและเหมาะสำหรับครอบครัวมากใช้งานได้เข้าถึงทุกคน ที่สำคัญคือมันประหยัดพลังงาน ผมค่อนข้างมั่นใจในคุณภาพสินค้าตัวนี้มากๆเพราะลองใช้แล้วมันดี ดีตรงไม่เปลืองไฟเลยเนี่ยแหละ หากใครสนใจหรืออยากจะไปสอยตาม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บเค้าได้เลย เพียงแค่พิมพ์ชื่อรุ่นก็เจอข้อมูลจากเว็บเค้าแล้วครับ หรือใครยังไม่แน่ใจสามารถไปทดลองก่อนซื้อได้ที่ศูนย์บริการครับ สะดวกมากเหมาะสำหรับยุคที่น้ำมันแพงที่สำหรับคนที่กำลังมองหารถจักรยานไฟฟ้าแบบนี้ อย่าคิดนานครับ