ขอท้าวความก่อนนะคะ
คือเรามีแฟน แล้วแฟนให้เรามาอยู่ที่บ้านของแฟน และมีแม่แฟนอยู่ด้วย ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่ชายแฟนที่ซื้อเอาไว้ให้แม่อยู่ แต่ตัวแฟนมาอยู่กับแม่
ซึ่งตอนแรกเราก็อยู่ได้ไม่ติดอะไร แฟนดีกับเรา แม่แฟนก็ดีกับเรามาก แต่เพราะไม่ใช่บ้านเราเราเลยยังมีความเกร็ง ความเกรงใจ ความไม่เป็นธรรมชาติในการอยู่ในบ้าน เพราะไม่ใช่บ้านของเรา หลังจากนั้นเราก็ได้แต่งงานจดทะเบียนกัน เราตั้งท้อง แล้วมีความคิดเข้ามาในหัวว่า ถ้าเรามีลูกแล้วเราก็อยากจะแยกบ้านออกมา เพราะเราก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว เราอยากมีพื้นที่ๆเป็นของตัวเอง อยากมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พูดตรงๆเลยคือเราก็อยากจะอยู่ในบ้านกันแบบ พ่อ แม่ ลูก อยากทำอะไรก็ทำแบบไม่เกร็ง แบบที่คุ้นเคยที่เป็นบ้านของตัวเอง อะไรแบบนี้ แล้วอีกอย่างคือบ้านที่อยู่กันตอนนี้ก็มีแค่2ห้องนอน คือห้องแม่แฟนกับห้องแฟนเรา เรามีลูกติด1คนและกับแฟนเราที่เพิ่งเพิ่งคลอดอีก1คนจึงทำให้พื้นที่บ้านมันดูคับแคบเกินไป อีกอย่างบ้านที่เราอยู่กับแฟนก็เป็นบ้านของพี่ชายแฟนที่ซื้อไว้ ซึ่งไม่ใช่บ้านของตัวเอง จึงคุยกับแฟนเรื่องที่จะซื้อบ้าน บอกแฟนว่าเพราะอะไรถึงอยากซื้อบ้าน แฟนเราก็ตกลงที่จะซื้อบ้าน และเลือกซื้อบ้านที่อยู่ใกล้ๆแม่แฟน เพราะจะได้ไปมาหาแม่ได้สะดวก เราก็โอเคไม่ติดอะไร บ้านที่จองไว้ก็สร้างเสร็จแล้ว แต่แฟนดันติดปัญหาเรื่องการยื่นกู้บ้าน แฟนจึงไปปรึกษาพี่สาวของแฟนขอให้มาช่วยกู้ร่วมเพื่อจะซื้อบ้าน เพราะตอนเราท้องเราออกจากงานมาทำให้เราไม่สามารถกู้ร่วมกับแฟนได้ พี่สาวก็ถามรายระเอียด แฟนเราก็อธิบายรายระเอียดไป แต่เพราะกลัวพี่สาวจะไม่ช่วยเลยไม่พูดอะไรมาก แล้วก็มีคำถามจากพี่สาวที่ว่าซื้อบ้านใกล้ๆแม่ จะไม่เอาแม่ไปอยู่ด้วยหรอ จะไม่ให้แม่ไปอยู่ด้วยหรอ แล้วแฟนเราด้วยความกลัวว่าพี่สาวจะไม่ช่วย ก็เลยตอบๆไปว่า ให้แม่ไปอยู่ด้วยนั่นแหละ แต่กลัวแม่จะเป็นห่วงบ้านหลังเก่าเลยหาซื้อไว้ใกล้ๆบ้านเพื่อแม่จะได้กลับไปดูง่ายๆ ในใจเรานี่คือแอบนอยแฟนเลย ทำไมถึงไม่ยอมบอกพี่สาวไปตรงๆว่าเป็นแบบไหน จนทำให้เราไม่พูดกับแฟน เรารู้ว่าแฟนเรารับรู้ว่าเราเป็นอะไร แต่ก็เข้าใจแฟนว่าแฟนกลัวพี่สาวจะต่อว่า จนแฟนมาถามเรา เราก็อธิบายและถามไปตรงๆว่าทำไมไม่บอกพี่สาวไปตรงๆ ว่าที่ซื้อบ้านเพราะอะไร แต่ก็ไม่ได้จะทิ้งแม่ ก็เลือกซื้อบ้านใกล้ๆเพื่อที่จะไปหาแม่สะดวก จนบางครั้งเราก็คิดว่าแฟนจะคิดกับเราในแง่ลบหรือเปล่าว่าไม่อยากให้แม่แฟนมาอยู่ด้วย แต่จริงๆเราแค่อยากแยกออกมาเพราะมีครอบครัวแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้คิดที่จะเอาพ่อกับแม่เรามาอยู่ที่บ้านใหม่ด้วยเหมือนกัน เพราะอยากอยู่แบบเป็นบ้านของตัวเอง
การซื้อบ้านครั้งนี้ก็คือให้พี่สาวมาช่วยยื่นกู้ร่วมด้วย ไม่ได้ให้ช่วยส่งงวดบ้านแต่อย่างใด เงินที่ส่งก็เป็นเงินแฟนทั้งหมด แล้วถ้าเราทำงานได้แล้วเราก็ต้องเป็นคนหาเงินช่วยแฟนส่งอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว จนตอนนี้เราไม่รู้จะยังไง เหตุผลที่อยากได้บ้านใหม่เพราะอะไร ถ้าซื้อแล้วแต่ไม่ได้อยู่แบบครอบครัวพ่อแม่ลูก เราก็คิดว่าถ้างั้นเราจะต้องซื้อบ้านหลังใหม่ไปทำไมถ้าไม่ได้แยกเหมือนเดิม สู้อยู่บ้านหลังเก่าแบบเดิมไม่ดีกว่าหรอ ทั้งๆที่เราก็มีลูก มีครอบครัวแล้ว ส่วนพี่สาวแฟนแกไม่มีลูกมีแต่สามีที่จดทะเบียนแต่แกก็ไม่ได้จะเอาแม่ไปอยู่ด้วยเลย ทำไมต้องเป็นแฟนที่จะต้องรับแม่อยู่ด้วย
ปล.จริงๆแล้วพี่สาวแฟนดีมากเป็นคนห่วงครอบครัว ไม่เคยทิ้งแม่ทิ้งน้องชาย แต่แค่ไม่ได้มาอยู่ด้วยกัน เข้าใจแกว่าแกกลัวแม่จะไม่มีคนดูแล แต่เราก็อยากจะแยกบ้านออกมาจริงๆ
-เราเห็นแกตัวเกินไปมั้ยที่ต้องการแบบนี้?...
-แล้วเราควรทำยังไงต่อดี?...
เราผิดหรือเป็นคนเห็นแก่ตัวเกินไปมั้ย ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองและต้องการความเป็นส่วนตัว
คือเรามีแฟน แล้วแฟนให้เรามาอยู่ที่บ้านของแฟน และมีแม่แฟนอยู่ด้วย ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่ชายแฟนที่ซื้อเอาไว้ให้แม่อยู่ แต่ตัวแฟนมาอยู่กับแม่
ซึ่งตอนแรกเราก็อยู่ได้ไม่ติดอะไร แฟนดีกับเรา แม่แฟนก็ดีกับเรามาก แต่เพราะไม่ใช่บ้านเราเราเลยยังมีความเกร็ง ความเกรงใจ ความไม่เป็นธรรมชาติในการอยู่ในบ้าน เพราะไม่ใช่บ้านของเรา หลังจากนั้นเราก็ได้แต่งงานจดทะเบียนกัน เราตั้งท้อง แล้วมีความคิดเข้ามาในหัวว่า ถ้าเรามีลูกแล้วเราก็อยากจะแยกบ้านออกมา เพราะเราก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว เราอยากมีพื้นที่ๆเป็นของตัวเอง อยากมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พูดตรงๆเลยคือเราก็อยากจะอยู่ในบ้านกันแบบ พ่อ แม่ ลูก อยากทำอะไรก็ทำแบบไม่เกร็ง แบบที่คุ้นเคยที่เป็นบ้านของตัวเอง อะไรแบบนี้ แล้วอีกอย่างคือบ้านที่อยู่กันตอนนี้ก็มีแค่2ห้องนอน คือห้องแม่แฟนกับห้องแฟนเรา เรามีลูกติด1คนและกับแฟนเราที่เพิ่งเพิ่งคลอดอีก1คนจึงทำให้พื้นที่บ้านมันดูคับแคบเกินไป อีกอย่างบ้านที่เราอยู่กับแฟนก็เป็นบ้านของพี่ชายแฟนที่ซื้อไว้ ซึ่งไม่ใช่บ้านของตัวเอง จึงคุยกับแฟนเรื่องที่จะซื้อบ้าน บอกแฟนว่าเพราะอะไรถึงอยากซื้อบ้าน แฟนเราก็ตกลงที่จะซื้อบ้าน และเลือกซื้อบ้านที่อยู่ใกล้ๆแม่แฟน เพราะจะได้ไปมาหาแม่ได้สะดวก เราก็โอเคไม่ติดอะไร บ้านที่จองไว้ก็สร้างเสร็จแล้ว แต่แฟนดันติดปัญหาเรื่องการยื่นกู้บ้าน แฟนจึงไปปรึกษาพี่สาวของแฟนขอให้มาช่วยกู้ร่วมเพื่อจะซื้อบ้าน เพราะตอนเราท้องเราออกจากงานมาทำให้เราไม่สามารถกู้ร่วมกับแฟนได้ พี่สาวก็ถามรายระเอียด แฟนเราก็อธิบายรายระเอียดไป แต่เพราะกลัวพี่สาวจะไม่ช่วยเลยไม่พูดอะไรมาก แล้วก็มีคำถามจากพี่สาวที่ว่าซื้อบ้านใกล้ๆแม่ จะไม่เอาแม่ไปอยู่ด้วยหรอ จะไม่ให้แม่ไปอยู่ด้วยหรอ แล้วแฟนเราด้วยความกลัวว่าพี่สาวจะไม่ช่วย ก็เลยตอบๆไปว่า ให้แม่ไปอยู่ด้วยนั่นแหละ แต่กลัวแม่จะเป็นห่วงบ้านหลังเก่าเลยหาซื้อไว้ใกล้ๆบ้านเพื่อแม่จะได้กลับไปดูง่ายๆ ในใจเรานี่คือแอบนอยแฟนเลย ทำไมถึงไม่ยอมบอกพี่สาวไปตรงๆว่าเป็นแบบไหน จนทำให้เราไม่พูดกับแฟน เรารู้ว่าแฟนเรารับรู้ว่าเราเป็นอะไร แต่ก็เข้าใจแฟนว่าแฟนกลัวพี่สาวจะต่อว่า จนแฟนมาถามเรา เราก็อธิบายและถามไปตรงๆว่าทำไมไม่บอกพี่สาวไปตรงๆ ว่าที่ซื้อบ้านเพราะอะไร แต่ก็ไม่ได้จะทิ้งแม่ ก็เลือกซื้อบ้านใกล้ๆเพื่อที่จะไปหาแม่สะดวก จนบางครั้งเราก็คิดว่าแฟนจะคิดกับเราในแง่ลบหรือเปล่าว่าไม่อยากให้แม่แฟนมาอยู่ด้วย แต่จริงๆเราแค่อยากแยกออกมาเพราะมีครอบครัวแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้คิดที่จะเอาพ่อกับแม่เรามาอยู่ที่บ้านใหม่ด้วยเหมือนกัน เพราะอยากอยู่แบบเป็นบ้านของตัวเอง
การซื้อบ้านครั้งนี้ก็คือให้พี่สาวมาช่วยยื่นกู้ร่วมด้วย ไม่ได้ให้ช่วยส่งงวดบ้านแต่อย่างใด เงินที่ส่งก็เป็นเงินแฟนทั้งหมด แล้วถ้าเราทำงานได้แล้วเราก็ต้องเป็นคนหาเงินช่วยแฟนส่งอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว จนตอนนี้เราไม่รู้จะยังไง เหตุผลที่อยากได้บ้านใหม่เพราะอะไร ถ้าซื้อแล้วแต่ไม่ได้อยู่แบบครอบครัวพ่อแม่ลูก เราก็คิดว่าถ้างั้นเราจะต้องซื้อบ้านหลังใหม่ไปทำไมถ้าไม่ได้แยกเหมือนเดิม สู้อยู่บ้านหลังเก่าแบบเดิมไม่ดีกว่าหรอ ทั้งๆที่เราก็มีลูก มีครอบครัวแล้ว ส่วนพี่สาวแฟนแกไม่มีลูกมีแต่สามีที่จดทะเบียนแต่แกก็ไม่ได้จะเอาแม่ไปอยู่ด้วยเลย ทำไมต้องเป็นแฟนที่จะต้องรับแม่อยู่ด้วย
ปล.จริงๆแล้วพี่สาวแฟนดีมากเป็นคนห่วงครอบครัว ไม่เคยทิ้งแม่ทิ้งน้องชาย แต่แค่ไม่ได้มาอยู่ด้วยกัน เข้าใจแกว่าแกกลัวแม่จะไม่มีคนดูแล แต่เราก็อยากจะแยกบ้านออกมาจริงๆ
-เราเห็นแกตัวเกินไปมั้ยที่ต้องการแบบนี้?...
-แล้วเราควรทำยังไงต่อดี?...