ในปี 2546 คงไม่มีคอหนังคนไหนไม่ยอมรับกับความสำเร็จทะลุเพดานของ "แฟนฉัน" หนังที่มีเนื้อหาพาไปสู่บรรยากาศในยุค 1980's ผ่านการแสดงออกของเหล่าเด็กน้อยไร้เดียงสา อันเป็นจุดกำเนิดการประสานงานระหว่าง "แกรมมี่-ไทเอ็นเทอร์เทนเม้นท์-หับโห้หิ้น" ก่อนจะควบรวมเป็น "จีทีเอช" ในเวลาถัดมา

โดยในหนังเรื่องนั้นเองก็ยังได้สร้างดารานำ(วัยเด็ก)ให้เกิดแก่วงการบันเทิงอย่างน้อย 3 ราย คือ "แน็ก ชาลี" พระเอกของเรื่อง "โฟกัส จีระกุล" นางเอกของเรื่อง และ "แจ๊ค เฉลิมพล" ตัวขโมยซีนของเรื่อง ซึ่งภายหลังคนเหล่านี้ยังมีผลงานการแสดงออกมาไม่ขาดระยะกระทั่งถึงปัจจุบัน 

แต่ที่เกินหน้ากว่าใครและมีให้เจอแทบทุกวันเห็นจะเป็น "น้องแจ๊ค" เพราะนอกจากเป็นนักแสดงและพิธีกรคิวทองแล้ว ล่าสุดยังโดดมาจับงานเบื้องหลังไปตามวัยและประสบการณ์ นั่นคือการเป็นผู้กำกับหนัง โดยประเดิมด้วยหนังพีเรียดตีความใหม่เรื่อง "แดง พระโขนง" ร่วมกับ "เอ็กซ์ วัชรพงษ์" เพื่อนซี้ของเขา

ในอดีตเราคุ้นเคยแต่หนังเรื่อง "แม่นาค" กับ "พ่อมาก" ที่ถูกสร้างกันบ่อยครั้ง(รวมถึงครั้งที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล) แต่สำหรับทายาทนาม "แดง พระโขนง" ก็จะเป็นครั้งแรกที่เน้นเรื่องราวเฉพาะตัวละครให้ปรากฏสู่วงกว้าง พรั่งพร้อมไปด้วยนักแสดงชั้นนำทั้ง "เด็ก" และ "ผู้ใหญ่" (ที่โดยมากเป็นดาราตลก)

แถมยังโชคดีที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายตรงกับช่วงเมษาฮาวายพอดี...ที่อาจจะเป็นตัวเก็งหนังไทยทำเงินสูงสุดแห่งปีถ้าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือขัดหูขวางตาไปเสียก่อน แม้ว่าการนี้อาจจะดูฮือฮาน้อยกว่าเรื่องของคุณพ่อและคุณแม่ก็ช่างเถอะนะ

อย่างน้อยเราคงต้องขอปรบมือในความดีของ "เอ็ม พิคเจอร์ส" และผู้สร้างคู่บุญอย่าง "บั้งไฟ ฟิล์ม" ที่กล้าฉีกภาพเดิม ๆ ให้แลดูในอีกมิติหนึ่ง สมกับที่ทุ่มทุนและลงมือทำเป็นแรมปี

ไม่เสียแรงที่ "น้องแจ๊ค" คร่ำหวอดอยู่เพียงเบื้องหน้ากว่า 22 ปี พอมายืนข้างหลัง...ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนไปแห่ชื่นชมในฝีมือของเขามากน้อยเท่าใด? 

และเราขอบอกกล่าวผ่านทางนี้ว่า ระวังพวกฉกฉวยโอกาสที่แอบอ้างว่าจะฉายหนังเรื่องนี้ชนโรงผ่านทางออนไลน์ ถือเป็นการทำนาบนหลังคน...ถือเป็นความผิดอย่างไม่มีทางเลี่ยง...และถือเป็นการบั่นทอนกำลังใจอย่างหนัก

ขอบอกว่า...ถ้าคุณอยากสนุกกับ "แดง พระโขนง" เร็ว ๆ ต้องไปดูในโรงหนังทั่วไปเท่านั้นจึงจะสะใจที่สุด...ขอให้ได้ร้อยล้านแล้วกันนะ สวัสดี.