วันเดียว เที่ยวได้ ที่บางพลี

บันทึกแห่งการเดินทางของสาวสองวัย:วันเดียว เที่ยวได้ ที่บางพลี
By Auntie & Yayee


หลังจากที่โอมิครอนเริ่มแผลงฤทธิ์ เราก็เพลาๆการเดินทางลง แต่วันนี้ทำธุระเสร็จเร็วพอมีเวลาเหลือ ก็หาที่ไปต่อแล้วก็นึกถึงบางพลีขึ้นมาได้  บางพลี อยู่ที่ไหน ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่แค่สมุทรปราการนี่เอง เป็นที่ๆคิดจะไปเที่ยวหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้ไปซะที วันนี้ได้ฤกษ์เดินทางกันแล้ว

ก่อนเดินทางได้รับคำแนะนำจากอดีตท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ทั้งแนะนำเส้นทางแบบละเอียดไม่ง้อ google map หรือ GPS ใดๆ ไปถูกที่ไม่มีหลง รวมถึงร้านแนะนำ ร้านเด็ดต้องชิม ต้องซื้อกลับบ้าน เราเริ่มเดินทางกันเลย ตามรอยท่านดูว่าเป็นยังไง

บางพลีมีอะไรดี นอกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ก็มีวัดที่เราจะไปนี่แหละ เริ่มจากการขึ้นทางด่วนบางนา เกาะป้ายทางออกไปทางสมุทรปราการ เมื่อข้ามสะพานสำโรงแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ ขับตรงไปตลอดไม่เลี้ยวไปทางไหนเลย จนกว่าจะผ่านโรงพยาบาลบางพลี ให้ชะลอชิดซ้ายเลี้ยวเข้าวัดบางพลีใหญ่ใน จุดหมายปลายทางแรกของเรา วันนี้ที่จอดรถเหลือเฟือ เพราะเป็นวันธรรมดา

หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน

จอดรถแล้วก็ละลานตาไปกับแผงขายสินค้าสองข้างทาง กว่าจะเดินเข้าไปถึงพระอุโบสถที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต เข้าไปถึงก็สะดุดตากับความแปลกตรงที่มีขั้นบันไดให้ขึ้นไปปิดทองที่องค์หลวงพ่อโตได้ มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาปิดทองที่องค์หลวงพ่อกันไม่ขาดสาย เพราะความศรัทธาและเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ 

ปิดทองแบบเว้นระยะห่าง แบ่งกันขึ้นไป


ภาพรวมหลวงพ่อสามพี่น้อง


บริเวณด้านหน้าองค์หลวงพ่อโตนั้น ยังมีพระพุทธรูปจำลองของหลวงพ่อบ้านแหลม และ หลวงพ่อโสธรด้วย สืบเนื่องมาจากตำนานเล่าขาน เรื่องพระพุทธรูปลอยน้ำสามพี่น้อง บางตำนานก็ว่าห้าพี่น้อง ที่ลอยน้ำมา องค์ที่เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร คือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม องค์จริงประดิษฐานอยู่ที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร อำเภอบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม อีกองค์ที่เป็นพระพุทธรูปนั่ง ปางสมาธิ นั่นคือ หลวงพ่อโสธร ประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา

หลังจากที่สักการะขอพรและปิดทองที่องค์หลวงพ่อเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาชมบริเวณวัดกันบ้าง วัดนี้มีบริเวณกว้างขวาง ด้านข้างพระอุโบสถยังมีพระพุทธรูปมากมายให้สักการะ  

บริเวณด้านข้างพระอุโบสถ

มุมพระสิวลีด้านนอกพระอุโบสถ

ภายในวิหารด้านข้างพระอุโบสถ

ด้านข้างพระอุโบสถ

และแน่นอนหลังจากทำบุญเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายถัดไปที่ต้องไม่พลาด คือ ตลาดริมน้ำนั่นเอง เราต้องไปตามหาแกงส้มมะรุม และก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ ตามลายแทงของท่านรองผู้ว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นวันธรรมดาแต่ก็มีของขายนะ เมนูแนะนำนอกจากแกงส้มที่อร่อยสมคำเล่าลือแล้ว ในตลาดยังมีร้านขนมหวาน ที่ขอแนะนำขนมชั้นนุ่มๆไม่หวาน ทำกันสดๆ ขายแทบไม่ทันอีกด้วย 

ทางเดินภายในตลาด ผู้คนบางตาในวันธรรมดา
วิวฝั่งตรงข้ามตลาด

มุมให้อาหารปลา 

ร้านค้าขายของจิปาถะ

ขนมสมัยเด็กที่หาไม่ได้ในเมือง แต่จะอยู่คู่ตลาดโบราณแบบนี้

หลังจากเดินเล่น แวะเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณเรียบร้อยแล้ว ก็ช็อปปิ้งอาหารการกิน ขนมของฝาก กลับไปฝากคนทางบ้านแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางไปวัดถัดไป ที่ห่างกันไม่ไกลเลย แค่ขับรถต่อเข้าไปในซอยตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ วัดบางพลีใหญ่กลาง สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ พระมหาเจดีย์พิศาลวุฒิกิจมงคลมหาชนบูชิต และ สถูป ที่สร้างคล้ายกับ ธัมเมกขสถูป ที่สารนาถ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา

ลานจอดรถด้านหน้าพระมหาเจดีย์

สถูป ด้านหน้าพระมหาเจดีย์
หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าไปข้างในพระเจดีย์ ภายในมีทั้งหมดเก้าชั้น เราใช้วิธีขึ้นลิฟท์ไปสุดที่ชั้นสี่ แล้วเดินต่อ ทางเดินขึ้นเป็นทางลาดวนขึ้นไป ในแต่ละชั้นจะมีห้องที่มีการเขียนภาพพุทธประวัติบนผนัง แต่บางชั้นก็ยังเสร็จไม่เรียบร้อย  

ห้องโถงชั้นบนและภาพพุทธประวัติ

ห้องโถงชั้นบน

โถงชั้นล่าง มีพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่อยู่ด้านหลัง
ด้านบนสามารถออกมาชมวิวได้ มองเห็นบริเวณวัดอีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่ยืนเล็งกันอยู่ชั้นบนว่าตรงไหนควรจะเป็นวิหารพระนอน พักจนหายเมื่อยแล้วก็ได้เวลาเดินลงมา เมื่อเดินข้ามถนนเข้ามาในรั้ววัด ก็เดินตรงไปยังวิหารพระนอน ถ้าไปจากฝั่งพระมหาเจดีย์ เราเข้าประตูด้านหลังวิหารก็ได้ แต่ถ้าเดินอ้อมมาด้านหน้าวิหารก็จะเห็นความสวยงามของวิหาร ด้านหน้าวิหารมีท้าวเวสสุวรรณ 

ด้านหน้าวิหารพระนอน
ก่อนเข้าประตู จะมีพระร่วงโรจนฤทธิ์ และ คติธรรม ชั่งหัวมัน ให้ได้ปล่อยวาง ก่อนจะเดินเข้าไปในวิหาร

พระร่วงโรจนฤทธิ์
เมื่อก้าวเข้าประตูมา ก็จะเห็นสมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร ซึ่งเป็นพระปางสีหไสยาสน์มีความยาวถึง 53 เมตร ซึ่งมีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย และพระนอนองค์นี้เองที่เราตั้งใจจะมาสักการะ เนื่องจากในสมัยก่อนพระศรีเมืองทอง พระนอนที่วัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทองนั้น ครองอันดับพระนอนที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมาช้านาน ตามด้วยพระนอนจักรสีห์ ที่จังหวัดสิงห์บุรี และ พระนอนวัดโพธิ์ ที่กรุงเทพฯและสามอันดับที่กล่าวมานั้น เคยไปสักการะมาหมดแล้ว แต่เมื่อพระนอนที่วัดบางพลีใหญ่กลางสร้างเสร็จก็แซงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งทันที เมื่อมีโอกาสจึงต้องมาสักการะและชมความงามขององค์พระกัน

สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร
 ความพิเศษขององค์พระ ไม่ได้อยู่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเท่านั้น  แต่เราสามารถเข้าไปภายในองค์พระได้ด้วย หลังจากที่เดินขึ้นบันไดไป  4 ชั้น ในที่สุดเราก็ได้เห็นหัวใจองค์พระ ได้ปิดทองที่หัวใจพระพุทธรูปสมใจปรารถนา

หัวใจพระนอน
หลังจากที่ปิดทอง อธิษฐานขอพรเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาปิดทริปวันเดียว เที่ยวได้ที่บางพลีแล้ว เรากลับออกมา โดยไม่ได้ย้อนกลับไปทางเดิม แต่ทำตามท่านรองผู้ว่าแนะนำ คือมาออกทางด้านถนนกิ่งแก้ว กลับรถ แล้วตรงไปออกถนนบางนา-ตราด ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีกลับบ้าน มีทั้งบุญและของฝากกลับไปฝากคนที่บ้านอันจบการเดินทางในวันนี้ 

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่