(ขออนุญาตต่อจาก
https://ppantip.com/topic/41326943 ซึ่งเป็นเครื่องเสียงรถยนต์มาเป็นโพสต์ใหม่นะครับ)
อย่างที่หลายท่านทราบ การฟังด้วยสายเสียงปกติ กับสาย Optial ต่างกัน
กรณีสาย Optical หรือหรือการส่ง Bluetooth จะถูก Reproduced ที่ปลายทางจาก Digital เป็น Analog แทบไม่มี Noise ระหว่างทาง
ดังนั้น กรณีต้นฉบับเป็น CD นั้น สาย Optical หรือ Bluetooth Codec LDAC Level 3 จะให้เสียงเหมือนกันเป๊ะ ที่ปลายทาง
เพราะ Optical wire / Wireless เป็นแค่การส่งข้อมูล Digital
ต่างจากการฟังด้วยสายเสียง จะขึ้นกับวัสดุของตัวนำไฟฟ้า เพราะ จะมี R / L / C ตกคร่อมกลางทาง ทำให้เสียงเปลี่ยนไปจากต้นฉบับ
นอกจากนี้ เราควรจับคู่ Impedance ของเครื่องเล่นกับหูฟังเกือบทุกคู่
เพราะถ้าไม่ Match เรากำลังใช้เครื่องเล่นที่ไม่เหมาะกับหูฟัง ทำให้ได้เสียงดีไม่สุด
เช่น เครื่องเล่น 16 โอห์ม ผมจะใช้หูฟังที่มีความต้านทานใกล้เคึยงกัน ไม่ใช้หูฟัง 32 / 48 โอห์ม เป็นต้น
อย่างสุด ๆ ต่อเครื่องเล่น 16 โอห์ม ดังกล่าว ผมจะใช้หูฟัง แค่ 24 โอห์ม
ดังนั้น กรณีที่ใช้สายเสียง (ไม่ใช่กรณี Digital transmission) ถ้าไม่แมทช์ ก็เสียโอกาสได้เสียงดีที่สุด
แม้เครื่องเล่น / หูฟัง จะราคาเป็นหมื่น
ทำด้านบนอย่างนี้ พร้อมกับเลือกเครื่องเล่นที่ปรับ Phase ให้เป็นเส้นตรงได้ จะได้เสียงทุกความถี่ออกมาพร้อมกัน ไม่เพี้ยน
ดังนั้น ถ้าเครื่องเล่นหรือ DAC ไม่มีการปรับ Phase ให้เป็นเส้นตรง Group delay จะไม่เท่ากัน
เครื่องเล่น หรือ DAC นั้นอาจให้เสียงที่ดี แต่ไม่ใช่เสียงที่นักดนตรีเล่นจริง
(เพราะแต่ละความถี่ของแต่ละเครื่องดนตรี / นักร้อง ออกมาที่หูฟัง / ลำโพงไม่พร้อมกัน ต่างจากต้นฉบับที่ฟังต่อหน้า)
ทั้งนี้ การจับคู่ Impedance ดังกล่าว ไม่มีผลกับสาย Optical หรือการส่ง Wireless แต่อย่างใด เพราะข้อมูลที่ส่งมาเป็น Digital คงตัวอยู่แล้ว
(แต่ Phase / Group delay ยังมีส่วนอยู่นะครับ ยิ่งใช้ Equalizer ยิ่งมีผล)
ดังนั้น การที่เราได้ยินจากสองสาย (สายเสียงปกติ vs. Optial) ต่างกัน เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าว ครับ
คำถามผมที่ยังค้างคาใจ คือ เราได้ยิน Hi-res ต่างจาก CD quality ไหม?
ถ้าได้ยิน เราได้ยินเฉพาะเพลงที่มีเครื่องดนตรีความถี่สูง ใช่ไหม?
เพราะตามโพสต์แรก เครื่องดนตรีความถี่ต่ำ ไม่มี Harmonic ที่จะก่อให้เกิด Alias
ดังนั้น ฟังเพลง Rock ด้วยไฟล์ CD quality กับไฟล์ Hi-res ทั้งสองไฟล์ควรให้เสียงเกือบเหมือนกัน
ในขณะที่ฟัง Orchestra นั้น ไฟล์ CD quality กับไฟล์ Hi-res จะต่างกัน เพราะ Alias
ทั้งนี้ ขึ้นกับความไวของไมค์ห้องอัดด้วยครับ
คุณเลือกหูฟัง / เครื่องเล่นเพลง / ไฟล์เสียงอย่างไร
อย่างที่หลายท่านทราบ การฟังด้วยสายเสียงปกติ กับสาย Optial ต่างกัน
กรณีสาย Optical หรือหรือการส่ง Bluetooth จะถูก Reproduced ที่ปลายทางจาก Digital เป็น Analog แทบไม่มี Noise ระหว่างทาง
ดังนั้น กรณีต้นฉบับเป็น CD นั้น สาย Optical หรือ Bluetooth Codec LDAC Level 3 จะให้เสียงเหมือนกันเป๊ะ ที่ปลายทาง
เพราะ Optical wire / Wireless เป็นแค่การส่งข้อมูล Digital
ต่างจากการฟังด้วยสายเสียง จะขึ้นกับวัสดุของตัวนำไฟฟ้า เพราะ จะมี R / L / C ตกคร่อมกลางทาง ทำให้เสียงเปลี่ยนไปจากต้นฉบับ
นอกจากนี้ เราควรจับคู่ Impedance ของเครื่องเล่นกับหูฟังเกือบทุกคู่
เพราะถ้าไม่ Match เรากำลังใช้เครื่องเล่นที่ไม่เหมาะกับหูฟัง ทำให้ได้เสียงดีไม่สุด
เช่น เครื่องเล่น 16 โอห์ม ผมจะใช้หูฟังที่มีความต้านทานใกล้เคึยงกัน ไม่ใช้หูฟัง 32 / 48 โอห์ม เป็นต้น
อย่างสุด ๆ ต่อเครื่องเล่น 16 โอห์ม ดังกล่าว ผมจะใช้หูฟัง แค่ 24 โอห์ม
ดังนั้น กรณีที่ใช้สายเสียง (ไม่ใช่กรณี Digital transmission) ถ้าไม่แมทช์ ก็เสียโอกาสได้เสียงดีที่สุด
แม้เครื่องเล่น / หูฟัง จะราคาเป็นหมื่น
ทำด้านบนอย่างนี้ พร้อมกับเลือกเครื่องเล่นที่ปรับ Phase ให้เป็นเส้นตรงได้ จะได้เสียงทุกความถี่ออกมาพร้อมกัน ไม่เพี้ยน
ดังนั้น ถ้าเครื่องเล่นหรือ DAC ไม่มีการปรับ Phase ให้เป็นเส้นตรง Group delay จะไม่เท่ากัน
เครื่องเล่น หรือ DAC นั้นอาจให้เสียงที่ดี แต่ไม่ใช่เสียงที่นักดนตรีเล่นจริง
(เพราะแต่ละความถี่ของแต่ละเครื่องดนตรี / นักร้อง ออกมาที่หูฟัง / ลำโพงไม่พร้อมกัน ต่างจากต้นฉบับที่ฟังต่อหน้า)
ทั้งนี้ การจับคู่ Impedance ดังกล่าว ไม่มีผลกับสาย Optical หรือการส่ง Wireless แต่อย่างใด เพราะข้อมูลที่ส่งมาเป็น Digital คงตัวอยู่แล้ว
(แต่ Phase / Group delay ยังมีส่วนอยู่นะครับ ยิ่งใช้ Equalizer ยิ่งมีผล)
ดังนั้น การที่เราได้ยินจากสองสาย (สายเสียงปกติ vs. Optial) ต่างกัน เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าว ครับ
คำถามผมที่ยังค้างคาใจ คือ เราได้ยิน Hi-res ต่างจาก CD quality ไหม?
ถ้าได้ยิน เราได้ยินเฉพาะเพลงที่มีเครื่องดนตรีความถี่สูง ใช่ไหม?
เพราะตามโพสต์แรก เครื่องดนตรีความถี่ต่ำ ไม่มี Harmonic ที่จะก่อให้เกิด Alias
ดังนั้น ฟังเพลง Rock ด้วยไฟล์ CD quality กับไฟล์ Hi-res ทั้งสองไฟล์ควรให้เสียงเกือบเหมือนกัน
ในขณะที่ฟัง Orchestra นั้น ไฟล์ CD quality กับไฟล์ Hi-res จะต่างกัน เพราะ Alias
ทั้งนี้ ขึ้นกับความไวของไมค์ห้องอัดด้วยครับ