ถึงน้องแตงโม

พี่เขียนสิ่งนี้เพื่อขอบคุณน้องจากใจจริงๆ ในวันที่น้องล่วงลับไปแล้ว แต่คุณความดีหรือบทเรียนในชีวิตที่พี่ได้จากเรื่องราวของน้อง มันเป็นประโยชน์แม้ในวันที่น้องจากไปแล้วก็ตามครับ

มุมมองของพี่ว่าด้วยเรื่องการ #connect ในยุคที่เราต้องใช้ชีวิตห่างๆกันเพราะ social distancing, WFH, Covid pandemic

ผมหวังว่ามุมมองผมอาจเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปที่ติดตามข่าวน้องแตงโมมาตลอดเกือบเดือนที่ผ่านมา บุญนี้จะส่งถึงน้องพี่เชื่อนะ

ดูจากข่าว สงสารที่น้องเคยขาดความมั่นใจเพราะคิดว่าประชาชนคนทั่วไปคงไม่รักน้องเพราะอาจเคยมีบางเหตุการณ์ในชีวิตที่ทำให้น้องเชื่อแบบไปนั้น

สำหรับพี่ อาชีพการเป็นนักแสดงพี่ดูที่ความสามารถและการเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ส่วนตัวพี่ว่าน้องน่ะเล่นละครช่วงหลังๆเล่นถึงบทบาทมาก พี่จำจาก #คุณรังรอง #ใบไม้ที่ปลิดปลิว คนดูเขาเชื่อว่าน้องเล่นอยู่ในบทนั้นจริงๆ มีพัฒนาการดีมากพี่เลยชื่นชมจุดนี้ว่าถ้ามองเรื่องความสามารถในงานน้องก็ไม่แพ้ดาราชั้นนำคนอื่นๆเลยหละ

แม้ชีวิตส่วนตัวคนทั่วไปอาจไม่ได้รับรู้ว่าน้องเป็นคนชอบทำบุญช่วยเหลือคนอื่นมาตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมเลยสำหรับคนดีแบบนี้ในสังค…ว่าคนเราทำความดีแล้วไม่จำเป็นต้องมาป่าวประกาศเพื่อหวังผลของความดีนั้นให้คนทั่วไปต้องรับรู้ แต่ถ้าการโพสต์เพื่อหวังว่าจะเป็นสะพานบุญหรือการเป็นตัวอย่างให้คนอื่นทำตามเพื่อให้สังคมเราดีขึ้นอันนี้พี่ไม่ติด ซึ่งพี่เลยเชื่อว่าที่สุดแล้วน้องมีความดีและบุญสะสมอยู่มากในชีวิต

แต่คนทั่วไปรวมทั้งพี่คนนึง ได้มารับรู้ทีหลังช่วงน้องเสียชีวิตไปแล้วว่าน้องทำความดีเหล่านั้นมาตลอด แต่บุญกุศลน่ะมันตามติดตัวน้องไปนั่นหละไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม #พี่ยังเชื่อในความดีว่าทุกศาสนาอยากให้คนที่มีมากกว่าได้แบ่งปันช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่า
อีกหนึ่งเรื่องคือ น้องอาจไม่ได้รับรู้หรือรู้สึกถึงความรักจากคนทั่วไปในช่วงที่น้องยังมีชีวิต น้องเลยขาดความมั่นใจ (ดูจากข่าวมา) ซึ่งมันเป็นส่วนนึงที่ส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้า

ขาดการเชื่อมต่อและปฏิสัมพันธ์ #connect กับคนในสังคม หรืออาจไม่ได้เปิดใจรับพลังดีๆจาก social ที่เขาส่งผ่านไปให้น้อง เพราะบางช่วงบางคอมเม้นที่รุนแรงทำให้ใจน้องบอบช้ำ อันนี้พี่เข้าใจเพราะน้องเป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องเจอคนในทุกรูปแบบ

Social network มันมีความรวดเร็ว แทบจะไร้ข้อจำกัดใดๆ คนบางคนเลยเม้นเอาสะใจไม่ได้เกรงกลัวด้วยซ้ำว่ามันมีกฎหมายและบทลงโทษรุนแรงอยู่ถ้าไปกระทำอะไรที่ทำให้คนอื่นเสียหาย
คนบางคนใน socail เลยแสดงออกได้อย่างเกินพอดีและไม่สร้างสรรค์ อีกอย่างคนในยุคนี้ชอบอารมณ์แบบ over acting คือ ทั้งการรับสื่อจากการแสดงออกที่ใช้คำพูดและท่าทางดุดันเลยมำให้คนที่เสพสื่อเกิดการแสดงออกอารมณ์ของตัวเองมันไปทางเดียวกัน…ที่สุดแล้วคนบางคนก็เลยใช้ social เป็นช่องทางระบายทางอารมณ์ได้แบบไม่มีอะไรมาปิดกัน

ส่วนตัวพี่เองจะคบหรือไม่คบใครก็ตาม พี่ดูชีวิตเขาทั้งในรูปแบบปกติและในโซเชี่ยวว่าไปทางเดียวกันหรือป่าว
แนวๆที่มีความสุดโต่งหรือเป็นคนมีพลังลบๆและไม่ได้เหมือนตัวจริง พี่จะไม่รับเข้ามาในชีวิตเลย เพราะถือว่าน่ากลัวเกินไปที่จะคบหา และคงหาเหตุผลให้ไม่ได้ว่าทำไมคนแนวนั้นมีอารมณ์หลายแบบในตัวเอง

น้องอาจเคยได้รับ comment ที่มันเถิดกันไปแบบ extream ทั้งคำด่าหรือข้อมูลสิ่งทำร้ายจิตใจ โดยที่บางครั้งข้อมูลเหล่ามันไม่ใช่ความจริงด้วยซ้ำ พอกระทบใจน้องมันเลยทำให้น้องขาดความเชื่อมั่นในตัวเองไปเลยหรืออาจต้องลดการรับรู้ข้อมูลทางโซเชี่ยวทั้งที่มันมีสิ่งดีๆจากคนดีๆที่เขามอบให้น้องด้วย

จริงอยู่ว่ามันมีทั้งคอมเม้นดีและไม่ดีปะปนกัน พอเข้าไปดูยังไงมันก็คงมองเห็นสิ่งไม่ดีจากคนไม่ดีพวกนั้น แต่มีปัจจัยเยอะมาก เช่น การเลี้ยงดู การศึกษา หรือประสพการณ์ชีวิต สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เรามีระบบความคิดที่กลั่นกรองคอมเม้นและข้อมูลแย่ๆ รวมทั้งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์และไม่น่าเชื่อถือออกไปได้โดยไม่ได้ทำร้ายจิตใจเราด้วย หรือแม้แต่การ convert เรื่องลบๆเหล่านั้นให้เป็นพลังบวกกับชีวิตเราได้
แต่บางคนจิตใจอ่อนแอพอเจอเม้นแรงๆทำจิตตกหรือขาดความมั่นใจได้เลยทีเดียว

พอน้องเกิดการปิดกั้นจากตัวเองจากสังคมบางช่วง เพราะอาจไปเจอเม้นไม่สร้างสรรค์เข้าจิตใจมันเลยหดหู่ได้ เลยขาดการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์เพื่อให้น้องได้รับสิ่งดีๆ พลังดีๆจากคนรอบข้าง…สิ่งเหล่านี้และความรักดีๆจากสังคมเลยไปไม่ถึงน้องในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่

วันนี้แม้น้องจะจากไปแต่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง พี่ยังชื่นชมเลยว่าสังคมเรายังน่าอยู่มาก คนไทยยังมีจิตใจดีและมองคนที่คุณค่าของความดีแม้เขาจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม

#แตงโม
#ขอให้น้องแตงโมสู่สุขคติไปอยู่กับคุณพ่อบนสวรรค์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่