เมื่อก่อน ตง ชอบแต่งกลอนส่งสถานีวิทยุ ..
เพื่อฝากให้ หมุ่ยจึง ฟัง
โดยแต่งกลอนตามเนื้อหาของเพลง
คนจัดรายการวิทยุก็อ่านบทกลอนก่อน (คลอเสียงเพลง)
แล้วก็เปิดเพลงนั้นให้ฟังเต็มๆ
ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีรายการแบบนี้ไหม ?
======
^^^^
วันนี้เอาเพลงที่เพิ่งแปลงจากเพลงจีนกลางเป็นสำเนียงไฮ้หน่ำมาให้ฟัง
....ก็ขอเชิญชวน ทุกท่าน......
ไม่ว่า คนลาว ไทย แขกมอญ เขมร กะฉิ่น ฯลฯ
รวมถึง จีน (รวมทุกจีน ไม่ว่าคนจีนกลาง แต้จิ๋ว ไฮ้หน่ำ ฮากกา กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ฯลฯ)
แต่งกลอน ตามเนื้อาเพลงนี้ครับ
https://youtu.be/Y0gb08HV-rY
====== มีแถม======
:::: บางส่วน ของ หมุ่ยจึงตงตัวภาค 2 :::
เอามาให้อ่านพอให้หายคิดถึง...
==============
“ตง...จะ...หรือ..”
“ฮึ....อะไร..”
“ก็….” ซบหน้าแนบอกพ่อของลูก
“จะให้พูดจริงๆ ไหมล่ะ ?”
“ฮื่อ..”
“นอนกอดเมียอย่างนี้ ทั้งหอมทั้งนิ่มละมุนไปทั้งตัว...” ตงลูบไล้แผ่นหลังหมุ่ยจึง “ใครจะอดใจไหวล่ะ...แต่..”
“แน่ะ..เงียบซะงั้น...แต่อะไร”
“ถ้าไม่มีลูกหมู.....” เปลี่ยนมือจากแผ่นหลังเนียนละมุนมาสัมผัสหน้าท้อง “ไม่เป็นไรหรอก....ตงไม่เป็นไร....นอนเถอะ..” กระชับกอดเมียรักแนบแน่นขึ้น “ขอแค่ได้นอนกอดทั้งคืน...”
“อนุญาตให้นะ...” หมุ่ยจึงผ่อนลมหายใจอุ่นซาบซ่านอกพ่อหมูพลางฉอเลาะคิกๆ อู้อี้ๆ .... “แน่ะ...จริงๆนะ ยอมให้เลย..”
“นอนเถอะ...อย่ายั่ว...”
“ไม่ได้ยั่ว ให้ไป..จริงจริ๊งงงง !....” ผละออกจากออก สองมือยันตงออกห่าง ในเงาสลัวของแสงเทียนวับแวมยังเห็นเป็นประกายล้อเลียน “ก็แค่ตงไปที่บ้านสาวๆ พวกนั้น...”
“สาวบ้านไหน ?”
“ทำเป็นไก๋...บ้านยกพื้นเป็นแถวๆ ท้ายตลาดบนนั่นไง .... ดึกแล้วไปตอนนี้ไม่มีใครเห็นหรอก..”
“นี่แนะ..แนะนำดีนัก....” ไม่ทันขาดคำแม่หมูจอมยั่ว ตงกดจมูกขยี้แก้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
“โอยยยย..พอๆๆ .. ตง ..อึ๊ยส์...” ปากว่าพอ สองแขนกลับยิ่งกอดรัดตงแน่น “เนี่ยะ ... พอบอกอนุญาตคึกขึ้นมาเป็นกระทิงเปลี่ยวเชียว อยากไปแล้วละสิ...” เมื่อกี้บอกอนุญาต น้ำเสียงกลับสะบัดง้ำงอน
“ตงไม่ใช่คนพรรค์นั้น”
“พรรค์ไหน”
“พรรค์ไหนก็ช่างเถอะ ... หมุ่ยจึงจำไม่ได้หรือตงตะโกนก้องฟ้าบนยอดเขาหมุ่ยจึงตงตัวว่าอย่างไร?”
“ฮึ ..จำไม่ได้..ลืมไปแล้ว..”
หมั่นเขี้ยวคนแกล้งลืม ตงบิดบีบจมูกแม่หมูเบามือ....
“อำไอ้อ้ายอิงๆ...” หมุ่ยจึงพูดอู้ๆ อี้ๆ เพราะมือตงบีบจมูก ...
“ว่าอะไรนะ” ตงปล่อยมือ
“จำไม่ได้จริงๆ”
“ฟังนะ...” ตงทวนคำ ....วันนั้น ... ท่ามกลางสายลมและเวิ้งสูงจากยอดเขา วันที่ตะโกนก้องไปทั่วหุบเขา “.... หมุ่ยจึงงงงงงงงง....ตงตัววววววววว ....!
...ก้อนหินทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้นของหมุ่ยจึงตงตัว ท้องฟ้าไกลจนสุดฟ้า ผืนดินสุดลิบๆ ขอจงเป็นพยานให้ว่าตงมีรักมั่น รักเดียวไม่เปลี่ยนแปร ไม่ลืมเลือน หมุ่ยจึงคือคนเดียวในหัวใจจนหมดสิ้นลมหายใจ หากไม่เป็นดั่งคำสาบาน....”
“บอกแล้วนะว่าอย่าสาบาน..ดื้อจริง...”
ที่แท้ท้ายตลาดบนมีซ่องนางโลม
เมื่อตงเย้าว่า ... ไม่เป็นไร รอให้ลูกหมูออกมาก่อนแล้วเอาไปฝากเตียกับอาอี๊
“เอาลูกไปฝากเตี่ยทำไม?”
“อ้าว...! เราสองคนก็จะได้ไปปีนเขาหมุ่ยจึงตงตัวกันอีกไง....จะได้มีลูกหมูอีกตัว...”
“เซี้ยว ๆๆๆๆ...” ” กำปั้นน้อยๆ ทุบหน้าอกพ่อหมู “ทะเล้นนัก....” ในเงาสลัวแก้มยิ่งแดงอุธัจเมื่อหวนย้อนถึงเรื่องราววันนั้นในเพิงน้อยบนเขาท่ามกลางฝนฟ้ากระหน่ำ ... ช่างเหมือนกับเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี้เอง
ชวนแต่งกลอน..ตามเพลง...ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีรายการแบบนี้ไหม ?
เพื่อฝากให้ หมุ่ยจึง ฟัง
โดยแต่งกลอนตามเนื้อหาของเพลง
คนจัดรายการวิทยุก็อ่านบทกลอนก่อน (คลอเสียงเพลง)
แล้วก็เปิดเพลงนั้นให้ฟังเต็มๆ
ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีรายการแบบนี้ไหม ?
======
^^^^
วันนี้เอาเพลงที่เพิ่งแปลงจากเพลงจีนกลางเป็นสำเนียงไฮ้หน่ำมาให้ฟัง
....ก็ขอเชิญชวน ทุกท่าน......
ไม่ว่า คนลาว ไทย แขกมอญ เขมร กะฉิ่น ฯลฯ
รวมถึง จีน (รวมทุกจีน ไม่ว่าคนจีนกลาง แต้จิ๋ว ไฮ้หน่ำ ฮากกา กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ฯลฯ)
แต่งกลอน ตามเนื้อาเพลงนี้ครับ
https://youtu.be/Y0gb08HV-rY
====== มีแถม======
:::: บางส่วน ของ หมุ่ยจึงตงตัวภาค 2 :::
เอามาให้อ่านพอให้หายคิดถึง...
==============
“ตง...จะ...หรือ..”
“ฮึ....อะไร..”
“ก็….” ซบหน้าแนบอกพ่อของลูก
“จะให้พูดจริงๆ ไหมล่ะ ?”
“ฮื่อ..”
“นอนกอดเมียอย่างนี้ ทั้งหอมทั้งนิ่มละมุนไปทั้งตัว...” ตงลูบไล้แผ่นหลังหมุ่ยจึง “ใครจะอดใจไหวล่ะ...แต่..”
“แน่ะ..เงียบซะงั้น...แต่อะไร”
“ถ้าไม่มีลูกหมู.....” เปลี่ยนมือจากแผ่นหลังเนียนละมุนมาสัมผัสหน้าท้อง “ไม่เป็นไรหรอก....ตงไม่เป็นไร....นอนเถอะ..” กระชับกอดเมียรักแนบแน่นขึ้น “ขอแค่ได้นอนกอดทั้งคืน...”
“อนุญาตให้นะ...” หมุ่ยจึงผ่อนลมหายใจอุ่นซาบซ่านอกพ่อหมูพลางฉอเลาะคิกๆ อู้อี้ๆ .... “แน่ะ...จริงๆนะ ยอมให้เลย..”
“นอนเถอะ...อย่ายั่ว...”
“ไม่ได้ยั่ว ให้ไป..จริงจริ๊งงงง !....” ผละออกจากออก สองมือยันตงออกห่าง ในเงาสลัวของแสงเทียนวับแวมยังเห็นเป็นประกายล้อเลียน “ก็แค่ตงไปที่บ้านสาวๆ พวกนั้น...”
“สาวบ้านไหน ?”
“ทำเป็นไก๋...บ้านยกพื้นเป็นแถวๆ ท้ายตลาดบนนั่นไง .... ดึกแล้วไปตอนนี้ไม่มีใครเห็นหรอก..”
“นี่แนะ..แนะนำดีนัก....” ไม่ทันขาดคำแม่หมูจอมยั่ว ตงกดจมูกขยี้แก้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
“โอยยยย..พอๆๆ .. ตง ..อึ๊ยส์...” ปากว่าพอ สองแขนกลับยิ่งกอดรัดตงแน่น “เนี่ยะ ... พอบอกอนุญาตคึกขึ้นมาเป็นกระทิงเปลี่ยวเชียว อยากไปแล้วละสิ...” เมื่อกี้บอกอนุญาต น้ำเสียงกลับสะบัดง้ำงอน
“ตงไม่ใช่คนพรรค์นั้น”
“พรรค์ไหน”
“พรรค์ไหนก็ช่างเถอะ ... หมุ่ยจึงจำไม่ได้หรือตงตะโกนก้องฟ้าบนยอดเขาหมุ่ยจึงตงตัวว่าอย่างไร?”
“ฮึ ..จำไม่ได้..ลืมไปแล้ว..”
หมั่นเขี้ยวคนแกล้งลืม ตงบิดบีบจมูกแม่หมูเบามือ....
“อำไอ้อ้ายอิงๆ...” หมุ่ยจึงพูดอู้ๆ อี้ๆ เพราะมือตงบีบจมูก ...
“ว่าอะไรนะ” ตงปล่อยมือ
“จำไม่ได้จริงๆ”
“ฟังนะ...” ตงทวนคำ ....วันนั้น ... ท่ามกลางสายลมและเวิ้งสูงจากยอดเขา วันที่ตะโกนก้องไปทั่วหุบเขา “.... หมุ่ยจึงงงงงงงงง....ตงตัววววววววว ....!
...ก้อนหินทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้นของหมุ่ยจึงตงตัว ท้องฟ้าไกลจนสุดฟ้า ผืนดินสุดลิบๆ ขอจงเป็นพยานให้ว่าตงมีรักมั่น รักเดียวไม่เปลี่ยนแปร ไม่ลืมเลือน หมุ่ยจึงคือคนเดียวในหัวใจจนหมดสิ้นลมหายใจ หากไม่เป็นดั่งคำสาบาน....”
“บอกแล้วนะว่าอย่าสาบาน..ดื้อจริง...”
ที่แท้ท้ายตลาดบนมีซ่องนางโลม
เมื่อตงเย้าว่า ... ไม่เป็นไร รอให้ลูกหมูออกมาก่อนแล้วเอาไปฝากเตียกับอาอี๊
“เอาลูกไปฝากเตี่ยทำไม?”
“อ้าว...! เราสองคนก็จะได้ไปปีนเขาหมุ่ยจึงตงตัวกันอีกไง....จะได้มีลูกหมูอีกตัว...”
“เซี้ยว ๆๆๆๆ...” ” กำปั้นน้อยๆ ทุบหน้าอกพ่อหมู “ทะเล้นนัก....” ในเงาสลัวแก้มยิ่งแดงอุธัจเมื่อหวนย้อนถึงเรื่องราววันนั้นในเพิงน้อยบนเขาท่ามกลางฝนฟ้ากระหน่ำ ... ช่างเหมือนกับเพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานนี้เอง