เรื่องราวจากคนที่เรียกตัวเองว่าครู

สวัสดีครับผมมีเรื่องราวบางอย่างที่อยากจะเล่าให้ทุกคนฟังเป็นเรื่องราวจากช่วงนึงในชีวิตของผม ผมไม่ได้ต้องการการเห็นด้วยจากใครๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าข้างผม อยากจะด่าผมก็ได้น้ะครับ เเค่ตัวผมในตอนนี้อยู่ๆเรื่องราวเก่าๆก็โถมเข้ามา ความทรงจำต่างๆ เเละตัวผมในตอนนี้ก็ไม่รู้สึกว่ามีใครที่พอจะรับฟังผมได้เลย ผมจึงอยากเเชร์เรื่องราวที่มันยังคงสร้างฝันร้ายให้ผมอย่างต่อเนื่องต่อให้ผมมองกลับไปจะไม่รู้สึกเเย่เเล้วเเต่สิ่งเหล่านี้มักจะมารบกวนในความฝันผมอยู่เสมอ ทำให้ผมหวาดกลัว เหมือนเป็นเเผลใจของผมตลอดเวลา จุดเริ่มต้นของฝันร้ายนี้เกิดมาจากตอนที่ผมอยู่ประถมศึกษาปีที่ 4 ครับ  มีครูคนหนึ่งซึ่งเป็นครูประจำชั้นของรุ่นพี่คนหนึ่งที่ผมรู้จัก(อยู่ป.5) ซึ่งครูคนนี้เคยเป็นครูประจำชั้นของ พี่เเท้ๆผมอีกที(อยู่ป.6)(ปล.โรงเรียนจะเเยกการดูเเลเป็นระดับชั้นเเละเเต่ล่ะระดับชั้นจะมีห้องย่อยเช่น ป1/1 ป1/2 ผม,รุ่นพี่ของผมเเละพี่เเท้ๆของผมอยู่ /6 ทำให้มีครูประจำชั้นเป็นครูเอเหมือนกันหมด )ขอเรียกครูคนนี้ว่าครูเอล่ะกันครับ เรื่องมีอยู่ว่าครูเอนั้น มักจะชอบตั้งฉายาของเด็กนักเรียนในห้อง ถ้าฟันเหยินก็จะล้อว่าเหยิน ถ้าผิวคล้ำก็จะล้อว่าดำ ซึ่งจากการกระทำเหล่านี้ ทำให้เด็กในห้องไม่ค่อยชอบเขาครับ รุ่นพี่ที่มีครูเอเป็นครูประจำชั้น เขาโดนครูเรียกว่าไออ้วนบ้างเบาหวานบ้าง เเละพี่เเท้ๆของผมโดน เรียก ว่าอีดำ ทีนี้เนื่องจากตอนนั้นผมได้คุยเล่นกับรุ่นพี่(ป.5)บ่อยมากเขาจึงเปิดประเด็นพูดถึงอาจารย์เอ โดยพี่ผมก็ช่วยเสริมว่าการกระทำของครูคนนี้เป็นความจริง ด่าครูคนนี้ให้ฟังเนื่องจากความโกรธ(ผมจำประโยคไม่ได้เเต่เอาโดยสรุปล่ะกันครับ) ครูเอยิ้มด่าเเต่คนอื่นตัวเองยิ้มเเรดจะตายวันๆอ่อยเเต่ครูผู้ชายไปวันๆ ซึ่งตัวผมในรู้สึกโกรธเเทนรุ่นพี่เเละพี่เเท้ๆผมมากเลยครับ ผมไม่เข้าใจว่าเขาเป็นใครถึงมาด่าพี่ผม ในวันรุ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นเพราะความโง่จากความโกรธของผมในตอนเด็กหรือด้วยความไร้หัวคิดประการใดของตัวผมเองก็ไม่อาจทราบได้ ผมได้นำเรื่องนี้ไปบอกเพื่อน ว่าครูเอนั้นชอบด่าเเต่คนอื่นทั้งที่จริงครูเอนั้นก็เเรดเเละนิสัยไม่ดีชอบอ่อยผู้ชายไปทั่ว เเต่ผมนั้นไม่รู้ว่าความจริงเเล้วเพื่อนผมนั้นได้รู้จักกับครูเออยู่ก่อนเเล้ว เขาจึงได้บอกผมว่าทำไมผมถึงได้พูดอย่างนั้น พร้อมกับพูดชวนคนอื่นว่าจะไปฟ้องครูเอ ด้วยความที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อนกัน นึกว่าเพื่อนเเค่พูดติดตลกจึงได้บอกเพื่อนไปว่า 'งั้นไปบอกเลย' ตัดภาพมาที่ตอนเข้าเเถวก่อนขึ้นห้องเรียน(เมื่อพักกลางวันเสร็จโรงเรียนผมจะมาต่อเเถวกันเพื่อสวดมนต์ก่อนขึ้นชั้นเรียน) ครูเอได้เดินมาหาผมเเละตบหัวผมอย่างเเรง จนผมล้มลงไปนอนกับพื้น เเล้วจากนั้นครูเอได้หยิกหูของผมขึ้นมา พร้อมคำด่าทอ(ปล.ตอนนั้นผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ผมจำได้เพียงว่าผมร้องไห้ดังมากผมเเสบที่ศีรษะ เเละเจ็บที่หูเพราะโดนหยิก รวมถึงมีอาการมึน)จากนั้นเมื่อมีคนมองหลายคนเขาจึงให้ผมไปหาหลังจากนั้น โดยเขาให้ผมกราบเขาเเละได้ถามว่าไปเอาคำพูดนี้มาจากใคร ตอนนั้นที่ผมโดนสั่งให้กราบขอโทษผมได้ยินคำพูดหนึ่งคำที่มันยังคงจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นคำพูดของครูคนนึงที่เดินมาคุยกับครูเอ เขาบอกว่าเด็กมันปัญญาอ่อนจะไปเอาอะไรกับมันปัญญาอ่อนทั้งพี่ทั้งน้องมันนั่นเเหละ(รวมถึงมีการกล่าวถึงพ่อเเม่ผมด้วยเเต่ผมจำไม่ได้เลยเพราะเสียงร้องไห้ของผมมันดังราวกับว่าสามารถกลบได้ทั้งชั้นเรียน) ต่อจากวันนั้นครูเอได้ทำการติดต่อพ่อเเม่ของผมเพื่อเเจ้งพฤติกรรมเเละเรื่องก็จบเเค่นั้น เรื่องราวต่อจากนั้นผมจำไม่ได้อีกเลยราวกับภาพทุกอย่างเลือนหายไป ต่อจากปีนั้นผมได้ย้ายโรงเรียนไป ตอนป.5(เเม่เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นผมกลัวที่จะได้ครูเอเป็นครูที่ปรึกษามาก) เเละผมได้ย้ายไปโรงเรียนประถมเเถวบ้านเเล้วเรื่องในโรงเรียนเเห่งนี้ก็จบไป ผมจะมาเล่าต่อให้ฟังน้ะครับเรื่องราวนี้มียาวจนจบมัธยมต้น เเละอย่างที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นครับ ผมเเค่อยากให้มีคนรับฟังผม ถ้าคุณอ่านมาถึงตอนนี้ไม่ว่าคุณจะคิดว่าผมเป็นคนยังไงเเย่เเค่ไหน นิสัยไม่ดีผมไม่ไม่สามรถเเก้ไขเรื่องราวนี้ได้เนื่องจากเป็นอดีตที่ผ่านไปเเล้วผมได้เติบโตขึ้นเเข็งเเรงขึ้น มีความคิดมากขึ้นจากวันนั้นเเต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้ผมได้เป็นคนกระทำ  ผมจึงพร้อมน้อมรับคำด่าจากทุกท่านครับ ขอบคุณทุกคนมากครับที่อ่านบทความนี้ผมจะมาเล่าต่อในวันต่อไปน้ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่