ปลาดิบตัวที่ 713 ขนย้ายจากญี่ปุ่นขึ้นฝั่งโชซ็อน
แล่ซาชิมิ(สรุปเป็นภาษาอังกฤษ)โดย bkcomp
ลากซาซิมิมาให้ชิม(แปลเป็นไทย)โดยผมเอง
หากรสชาติมันเปลี่ยน(เน่า เพราะเอาซาชิมิไปดำน้ำส่วนหนึ่ง) ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าต้องการซาชิมิแบบสดๆ ก็ไปตามที่อยู่ตามลิ้งค์นี้เลย
https://www.reddit.com/r/Kingdom/comments/te5h75/kingdom_713_kr_spoilers/
(ผมได้ทำการดัดแปลงประโยคให้ดูเป็นการบรรยายเหมือนของ Jeeswag มากขึ้น เพื่อให้อรรธรสในการอ่านครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉีหลี่, แคว้นจ้าว:
ปี้ออกคำสั่งให้พลเกาทัณฑ์หน้าเดิน เมื่อพวกเขาอยู่ในระยะพร้อมยิง
สือที่อยู่แนวหลังก็กล่าวขึ้นว่า "ไอ้ปราการนี่มันอะไรกัน?" ทหารที่อยู่ด้านหลังก็พูดเสียงงวยงง
ปี้สั่งการให้พลโล่คอยคุ้มกันด้านหน้า
ทหารฉินค่อยๆเคลื่อนไป. และปลุกขวัญว่าอย่าหวาดวิตกแล้วเคลื่อนต่อไปด้านหน้า"
ทหารฉินรู้สึกว่ามีความสับอย่างเห็นได้ชัด ว่าใยพวกจ้าวจึงไม่ยิงลูกคันศรสักทีในเมื่อพวกเขาเข้าไปยังระยะแล้ว
ทหารต่างพากันสับสนเข้าไปอีก. พวกเขาสงสัยว่าพวกจ้าวกำลังรอให้พวกเขาเข้าไปใกล้งั้นหรา?
ทหารของปี้ที่อยู่ถัดจากเขาเอ่ยขึ้นว่า "ใต้เท้าปี้ เราจะดำเนินการอันใดต่อขอรับ"
ปี้จึงกล่าวว่า "ไม่ว่าจ้าวจักทำอันใดก็ไม่สำคัญ! ตอนนี้เราอยู่ในระยะแล้ว ทหารทุกนายหยุด ยิงได้..."
ทันใดนั้นเองถวารเมืองก็เปิดขึ้น แถวหน้าของทัพฉินต่างตื่นตระหนก
เตียวที่เห็นเช่นนั้นก็คิดว่า พวกเขาจะออกมาโจมตีพวกเขา
ซิ่นก็แปลกใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หมอหลุนก็ทำท่าหัวเราะชอบใจ
ปี้เอ่ยว่า: “ โอ้ไม่ มันมากันแล้ว ทัพม้าสกัดกั้นให้พลเกาทัณฑ์ออกจากแนวซะ"
ความระส่ำระส่ายเกิดขึ้นกับพลเกาทัณฑ์ของแนวหน้า
ขบวนทัพม้าต่างรีบเร่งตอบโต้ทัพขบวนจ้าวเพื่อปกป้องพลเกาทัณฑ์
ปี้ที่เห็นเช่นนั้นก็สบถคำ "แผนการปิดล้อมไม่ได้ผล ทหารม้าไปไม่ทันซะแล้ว
ประตูได้เปิดในที่สุด ก็มี 3 ผู้อาวุโสจ้าวออกมาพร้อมธงสีขาว
ฝ่ายฉินต่างพากันสับสนอลหม่าน. ผู้อาวุโสจ้าวกล่าวว่า พวกตนขอยอมแพ้และให้ฉินโปรดเมตตา ทัพฉินต่างก็สับสนกันเข้าไปอีก
สือถึงกับเอ่ยกลับสหายร่วมทัพที่กำลังสับสนว่า "นี่พวกเจ้ายังไม่เข้าใจในสิ่งที่ตาเจ้าเห็นดอกหรา ว่าปราการนั่นมันว่างเปล่ามาตั้งแต่เริ่มแล้ว"
ปี้ก็เอ่ยว่า "เราชนะ"
กองกำลังฉินของปี้ทั้งหมดต่างพากันเริ่มกู้ร้องไชโยแด่ชัยชนะ
ซิ่นถึงกลับเอ่ยว่า "สงสัยไอ้พิธีกรรมที่อาเฮียปี้ทำก่อนหน้านี้จักทำให้พวกเขาชนะน่ะ"
เตียวที่ได้ยินงั้นก็เอ่ยกลับไปว่า "ไม่น่าเป็นไปได้ที่พิธีกรรมนั่นจักทำให้เกิดผลเช่นนี้"
กลุ่มผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหลังกำแพงในปราการเล่าว่า ภายในปราการนั้นมีเพียงคนป่วยหรือแก่เกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้. ทุกคนต่างพากันทิ้งปราการนี้ไปแล้ว
กลุ่มผู้เฒ่าไม่ได้ถูกทำร้ายอันใด และทัพหวนฉีก็เข้าไปในปราการ แล้วเริ่มทำการปล้นสดม ทรัพย์สมบัติมากมายต่างถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
อ้ายส่านที่เห็นคนของหวนฉีกำลังปล้นสดมก็กล่าวว่า "หากกลุ่มโจรของหวนฉีไม่เป็นพันธมิตรด้วยแล้ว. ข้าจักสังหารพวกมันทุกตัวให้เหี้ยน. ถึงกระนั้นก็เถอะ ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาที่ดีๆที่พวกเราจะพักได้ซะก่อน"
อ้ายส่านกล่าวจะหาที่ที่มันสะอาดๆเหมาะที่จะนอน
เหมิงเถียนก็กล่าวกลับไปว่า "แทนที่จะมองหาสถานที่ดีๆอะไรแบบนั้น ข้าต้องการที่จักสำรวจปราการนี้ก่อน. เรามิควรวางใจทัพหวนฉีจนมองผ่านพวกมันไปได้ ใช้ทหารทั้งหมดสืบค้นอย่างถี่ถ้วน"
อ้ายส่านจึงขานว่า "น้อมรับตามบัญชาขอรับ"
ทัพเฟ่ยซิ่นได้รับรายงานว่า ทัพเล่อหัวของเหมิงเถียนได้ทำการสืบค้นในปราการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซิ่นกับเล่ยคุยถึงความประหลาดที่พวกเขาได้ปราการมาโดยไร้ซึ่งการต่อสู้. มันดูง่ายดายเกินไป.
เตียวก็เอ่ยว่าการที่ฉินได้ปราการโดยไร้ซึ่งการต่อสู้นั้นเป็นอะไรที่น่าสงสัย
แต่ก็เป็นข่าวดีสำหรับพวกเขา เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานที่ที่ดีในการต่อสู้เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับความเสียหายอันใด
ทัพหวนฉีและเหมิงเถียนตรวจค้นปราการแล้ว ก็ไม่พบความผิดปกติอันใด
ทหารฉินกว่าแสนสี่หมื่นนายจึงต่างพากันทยอยเข้าไปในเมือง
นี่จึงเป็นคืนก่อนการบุกยี่อัน
เซียงหยาง, แคว้นฉิน:
ราชบริพารฉินต่างพูดคุยกันว่า ไฉนทัพหวนฉีจึงยึดปราการฉีหลี่ได้รวดเร็วปานฉะนี้ และตอนนี้กำลังเตรียมพร้อมบุกล้อมยี่อัน
พวกเขาต่างกล่าวว่า นี่ช่างเป็นข่าวที่ยอดเยี่ยม
ราชบริพารต่างแสดงความยินดีในความสำเร็จต่ออ๋องในการยึดปราการได้
เจิ้งจึงตรัสถามชางผิงจวินว่า เขาคิดเช่นไรกับสถานการณ์นี้
ชางผิงจวินจึงทูลตอบไปว่า "เรายังมิเห็นท่าทีต่อต้านอันใดจากภูมิภาคอุดรแดนจ้าว การยึดปราการล่าสุดนี้ ไร้ซึ่งการนองเลือดใดๆ นี้จึงเป็นสิ่งที่คาดได้เนื่องจากแนวรบด้านหน้าอุดรจ้าวนั้น คาดไม่ถึงว่าจักกลายเป็นศูนย์กลางของการศึกซะแล้ว. ทว่า... กระหม่อมกลับระแวงความแข็งแกร่งภายในยี่อัน".
เจิ้งจึงตรัสว่า "ข้าเองก็กังวลอย่างหลังเช่นกัน"
ชางผิงจวินจึงทูลไปว่า "กระนั้นก็อย่าได้กังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพที่อยู่ในสมรภูมิ ย่อมคำนึงถึงสิ่งที่เราคิดไว้ในหัวของพวกเขาสำหรับศึกวันพรุ่งนี้"
ฉีหลี่, แคว้นจ้าว
ขณะเดียวกันนั้น... หวนฉีก็กำลังทำตัวอัธยาศัยอยู่ ณ ใจกลางปราการโดยมีคนเผ่าจื้อฉีเป็นคนคุ้มกัน (ผม: ซึ่งคาดว่าเป็นเมียแก)
สักพักคนคุ้มกันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเตรียมชักดาบ ปรากฎว่าเป็นหน่ากุยที่มาหา
หวนฉีจึงทักไปว่า "นี่ก็นานมาแล้วนะ หน่ากุย"
หน่ากุย: "ไง สบายดีไหม?"
หน่ากุยคิดในใจว่า "ใดหวนฉีจึงอยู่ตามลำพังกับคนของจื้อฉีคนเดียวกัน?"
หวนฉีเอ่ยถามว่า "เจ้าต้องมีอะไรสักอย่างสินะ ถึงมานี่?"
หน่ากุยจึงตอบ "อ่า เราต้องคุยกันสักหน่อย"
เยี่ยน
ใกล้กับชายแดนเยี่ยนและจ้าว
อู้หลู่ตัว: "โอ๊ะโอ้ กำลังสุกงมได้ที่แล้วสิเนี่ย" (bkcomp: the ripening is correctly starting เขาบอกว่าแปลมางี้)
ข้าราชบริพารเยี่ยน: "ท่านแม่ทัพอู้หลู่ตัว ใยท่านถึงมายัง ณ ที่แห่งนี้ห่างจากสู้รบแถบอุดรของเยี่ยนละขอรับ?" (เดิมอู้หลู่ตัวประจำการอยู่แถบชายแดนตอนเหนือของเยี่ยนคอยกันพวกซงหนู)
อู้หลู่ตัวก็หัวเราะออกมาแล้วเอ่ยว่า: "ข้ารีบแจ้นกลับมาเพื่อเฝ้ามองการศึกที่สำคัญระหว่างฉินและจ้าวนะเซ้"
หากฉินรุกอุดรและยึดยี่อันได้ล่ะก็ ท้ายที่สุดมันก็จักหมายว่าเยี่ยนต้องเผชิญกับฉินในมิช้าวัน. หากเป็นเช่นนั้น พวกข้าก็คงได้สนุกโลดเล่นไปเลยนะสิว่ามะ? โยวจี๋(คนสวมหน้ากาก) หล่าเหมยอู่"
โยวจี๋จึงกล่าวว่า "เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลยสิขอรับ"
ในขณะที่หล่าเหมยอู่ก็โฮ่ร้องด้วยความสนุก
ราชพริพารเยี่ยนต่างพากันเหงื่อตก แล้วจึงเอ่ยถามว่า "มันเยี่ยมตรงไหนมิทราบ?"
แล้วหนึ่งในพวกเขาก็บอกว่า หล่าเหมยอู่เสียงดังเกินไปแล้ว.
ราชบริพารเยี่ยนยังกล่าวต่ออีกว่า "นี่มิใช่เวลาที่จักมาทำเป็นเล่นนะ อู้หลู่ตัว"
"เพราะสถานการณ์ตึงเครียดนี้เอง เราจึงเรียกเจ้ามา ณ การนี้เมืองหลวงเองก็อยู่ในความระส่ำระส่าย"
อู้หลู่ตัวจึงหัวเราะและกล่าวว่า: "พวกเจ้าน่ะ ตื่นตูมเกินไปแล้ว ราชบริพารอย่างพวกเจ้ามองราวกับนี่จักเป็นชัยชนะอันง่ายดายสำหรับฉินงั้นล่ะ"
อู้หลู่ตัวกล่าวอีกว่า "ยี่อันและ Buno* ทั้งสองเป็นหัวเมืองกุญแจหลักแดนอุดรของจ้าว. ไอ้คนอย่างหลี่มู่มันไม่มีทางปล่อยให้ฉินยึดเมืองเหล่านี้แล้วควบคุมแดนอุดรของจ้าวได้โดยง่ายหรอก"
เหล่าราชบริหารเยี่ยนต่างพากันตะลึงเมื่อพวกเขาตระหนักได้ถึงการมีตัวตนอยู่ของหลี่มู่
ข้าราชบริพารเยี่ยนคนนึงเอ่ยถามขึ้นว่า "มิใช่ว่าหลี่มู่อยู่ที่หานตานเมืองหลวงจ้าวหรือขอรับ แล้วเขาจะทำได้ยังไง?"
อู้หลู่ตัวก็หัวเราะและกล่าวว่า "ก็แหงสิ หลี่มู่ก็อยู่ที่ยี่อันแล้ว"
ราชบริพารเยี่ยนอีกคนก็กล่าวว่า "เป็นไปได้อย่างไรกัน? เพราะไม่มีรายอะไรเช่นนั้นเลย" "ยี่อันเองก็ตั้งอยู่ในส่วนอุดรของจ้าว"
ราชบริพารแคว้นเยี่ยนทั้งหมดต่างก็กล่าวมาเหมือนๆกันว่า: ไม่มีรายงานอะไรเลย ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในอุดรที่บ่งบอกว่าหลีู่มู่อยู่ที่นั้น ฉินก็ได้ฉีหลี่แบบไร้การต่อต้านไปแล้ว
อู้หลู่ตัวจึงกล่าวกลับไปว่า "นั่นล่ะ จึงเป็นเหตุว่า ใดชายผู้นั้นจึงเป็นที่น่าหวาดเกรง. ขัอมูลที่มีจำกัด. การกีดกันข่าวสารการเคลื่อนไหวภายในแดนอุดร. ซึ่งถือได้ว่าการจัดการข้อมูลนี้นั้น เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นเดียวกับเมื่อ 12 ปีก่อน... หลี่มู่ปกปิดตนเองภายใต้ผังน่วนระหว่างศึกหม่าหยาง. มันวางแผนโค้นหวังฉีได้อย่างแยบยล."
อู้หลู่ตัวยังคงกล่าวต่ออีกว่า. "ย้อนกลับมาดูตอนนี้ หลี่มู่ก็ปกปิดการเคลื่อนไหวและอุบายจนถึงจุดที่มิมีผู้ใดจักรู้ว่าเขาวางแผนอันใด"
ข้าราชบริพารเยี่ยนจึงถามด้วยความสับสนว่า: "ปะ ประเดี๋ยวนะขอรับ ฉนั้นก็หมายความว่า... เพลานี้เอง หลี่มู่ก็ยังปกปิดการเคลื่อนไหวตนอยู่?"
อู้หลู่ตัวถึงกลับเอ่ยว่า: "ไร้ข้อกังขา แม้แต่หวังฉีเองก็มิอาจจับทางเข้าใจหลี่มู่ได้"
พออู้หลู่ตัวกล่าวเช่นนั้นจึงหัวเราะและกล่าวว่า "เรากำลังเป็นสักขีพยานของมหาศึกการณ์นี้แล้ว. ข้าชักสงสัยล่ะสิ ว่าผู้ใดจักตกเป็น "เหยื่อ" ให้กับหลี่มู่กันน่ัะ"
แล้วภาพก็ตัดมาเพนไปที่เหล่าแม่ทัพต่างของฉิน เฟ่ยซิ่น, เล่อหัว, ปี้และหวนฉี(ใครจะมีอันเป็นไป)
สัปดาร์หน้ามีต่อ!
Buno *เมื่องที่สองอันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับว่าเป็นเมืองไหนจากที่อู้หลู่ตัวกล่าวถึง ระหว่างเฟยเตี่ย肥地 ที่อยู่ติดถัดจากยี่อัน กับ ฝานวู่番吾 ที่ห่างออกไปทางพายับกับยี่อันนิดๆ
แต่จากข้อมูลที่ผมได้ไปค้นในวิกิมีดังนี้ครับ
In 233 BC, when Qin forces attacked the cities of Chili (赤麗) and Xuan'an (宣安),
Li Mu erected a fortified camp at Feidi (肥地; in present-day Gaocheng District, Hebei) and waited for the Qin general Huan Yi (桓齮) to divide his army and attack one of the divisions.
The plan succeeded, and Li Mu defeated the Qin army at Yi'an (宜安; around present-day Shijiazhuang, Hebei). He was rewarded with the title of Marquis of Wu'an (武安君).
A year later, he again defeated the Qin army at Fanwu (番吾; in present-day Pingshan, Hebei).
เราจะสังเกตุได้ว่าลำดับเหตุการณ์นั้น 233 ปีก่อน คริสตกาล ฉินบุกได้ฉีหลี่และซวนอัน(อันนี้ไม่แน่ใจว่าเราได้บุกซวนอันรึยัง เพราะในเรื่องเรายังไม่ได้เห็นป้อมนี้เลย หรือไม่อ.ฮาระแกจะเข้าใจผิดเรื่องตัวอักษร ซวนอัน宣安 และยี่อัน宜安 มันเขียนคล้ายๆกัน จึงลืมไปว่ามันมีซวนอันอยู่)
หลี่มู่ตั้งค่ายเสริม(คาดว่าเป็นค่ายกล)ที่เฟยเตี่ย(ปัจจุบันคือเขตเกาเฉิง, มณฑลเฮเป่ย) รอหวนฉีแห่งทัพฉินเพื่อแบ่งกองทัพและโจมตีหนึ่งกองพล(ณ ตรงนี้ เราอาจจะได้เห็นในตอนต่อไปว่าหลี่มู่จะแยกฉินออกเป้นสองทัพยังไง หรืออีกทัพที่ถูกแยกจะถูกส่งไปตีซวนอันจริงๆ)
แผนการสำเร็จลุล่วง หลี่มู่เอาชนะทัพฉินที่ยี่อันลงได้. และเขาก็ได้รับปูนบำเหน็จและถูกแต่งตั้งเป็นจ้าวเมืองวู่อัน(เมืองที่อยู่ปลายสุดทางตะวันตกของกำแพงกันหานตานในเรื่อง)
และปีต่อมา(232 bc) หลี่มู่ก็เอาชนะฉินได้อีกครั้งที่ฝานวู่(ศึกนี้คาดว่าหวนฉีจักตาย ไม่ก็หนีทัพ)
Spoil KINGDOM 713 แปลเป็นไทยจากคนสรุปอิ้งแบบงูๆปลาๆ
แล่ซาชิมิ(สรุปเป็นภาษาอังกฤษ)โดย bkcomp
ลากซาซิมิมาให้ชิม(แปลเป็นไทย)โดยผมเอง
หากรสชาติมันเปลี่ยน(เน่า เพราะเอาซาชิมิไปดำน้ำส่วนหนึ่ง) ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าต้องการซาชิมิแบบสดๆ ก็ไปตามที่อยู่ตามลิ้งค์นี้เลย
https://www.reddit.com/r/Kingdom/comments/te5h75/kingdom_713_kr_spoilers/
(ผมได้ทำการดัดแปลงประโยคให้ดูเป็นการบรรยายเหมือนของ Jeeswag มากขึ้น เพื่อให้อรรธรสในการอ่านครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้