ผมกับแฟนเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน เรียนคณะ สาขาเดียวกัน เมื่อก่อนก็แค่หยอกล้อกันประสาเพื่อน จนวันนึง เรารู้สึกว่าเราชอบคนคนนี้ ก็เลยจีบ และตกลงคบกัน วันคบเขาก็ถามผมว่าผม จริงจังกับเขาหรือเปล่า ผมก็ตอบว่าผมจริงจังมากๆ
แล้วพอคบกับเขามาทุกอย่างดูโอเคมีความสุขดี เราทั้งคู่แลกเปลี่ยนความสุข เสียงหัวเราะกัน ระหว่างนั้นก็มีเรื่องที่ต้องปรับตัวกันหน่อยตามประสาคู่รักใหม่ เช่น ผมเป็นคนชอบอัปคลิปแบบสาวๆ สวยๆ ลงสตอรี่ ซึ่งนางเองไม่ชอบ ก็คุยกันก็แก้ปัญหาไปได้
แต่อยู่ๆ วันนึง พอเราก้าวสู่เดือนที่สี่ ผมเดินทางไปมอบของบริจาคให้กับน้องๆ เด็กดอยที่จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งชวนเธอแล้วเธอก็ไม่สะดวกไปด้วย ผมก็ไม่ว่าอะไร ระหว่างการขับรถไป ตลอดทางเราก็แชตคุยกัน โทรหากันเป็นช่วงๆ เพราะเรารู้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับงาน จึงไม่รบกวนเวลาบ่อย พอผมกลับจากมอบของ ในวันถัดมาเธอก็ปกติดี มีคุยเล่น หยอกเย้าเราตามปกติ (ปล.ผมกับแฟนอยู่กันคนละหอ) แต่ในวันที่สองหลังจากกลับมาแล้ว เธอก็เปลี่ยนไป แชทก็ไม่ตอบ เจอหน้ากันผมเข้าไปหยอกเธอก็ดูจะหงุดหงิดใส่ ตัวผมก็ไม่สะบาย คิดไปว่าแฟนงอนอะไรรึป่าว ก็เข้าไปถาม เธอก็ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร
จนเวลาผ่านไปอีก 2-3 วัน ที่เราแทบไม่เจอ ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้โทรหากัน ผมก็ถามเธอไปว่า "เธอเป็นอะไรรึป่าว ทำไมดูแปลกๆ ไป เราทำอะไรให้ไม่พอใจหรอ" เธอก็ตอบกลับมาว่าเธอรู้สึกเบื่อ เบื่อทุกอย่าง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากพูดกับใคร และขอให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกัน ผมตอนนั้นก็พยายามตั้งสติอยากจะประคับประคองรักครั้งนี้ เพราะกับคนนี้ผมรู้สึกว่าเธอคือคนที่ผมตามหาและอยากอยู่ด้วยตลอด
หลังจากนั้นอีก 2 วัน ผมก็ถามประโยคเดิม เธอก็ยืนยันคำเดิมว่าเบื่อ อยากอยู่คนเดียว คราวนี้ผมเลยจำใจยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่าย เราจึงเลิกและกลับมาสถานะเพื่อนตามเดิม
แต่ในใจลึกๆ ผมยังเชื่อว่าเขายังมีความรู้สึกดีดีอยู่เพียงแต่มันอาจจะไม่มากพอ ถึงขนาดที่จะเอาผมไปรวมกับภาระชีวิตเธอ
แฟนผมเธอเป็นคนประเภทโลกส่วนตัวสูงมาก ถ้าได้ทำงานก็จะสนใจแต่งานไม่สนใจอะไรเลย ซึ่งผมก็เป็นคนลักษณะคล้ายกับเธอ เพียงแต่ ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ผมเห็นเธอเหนื่อยกับงาน ผมก็เลยอยากให้เธอผ่อนคลายเวลาอยู่กับผม แต่ผมอาจจะทำตัวว่างเกินไป เธอก็เลยอาจจะมองว่าผมเป็นคนไม่ใส่อนาคตตัวเองหรือเปล่า
ร่ายยาวมาถึงตรงนี้ ผมเลยอยากถามสาวๆ ที่เป็นประเภทโลกส่วนสูงแบบนี้หน่อยว่า คำว่า "เบื่อ" เบื่อจริงไหม? และคำว่า "อยากอยู่คนเดียว" คือ อยากได้เวลาไปคิดทบทวนตัวเองหรือเปล่า?
เพราะที่เราเลิกกันครั้งนี้ มันไม่ได้มีปัญหา หรือการทะเลาะใดๆ เลย
แฟนขอลดสถานะกลับไปเป็นเพื่อน แต่ใจยังเชื่อว่าเค้าก็ยังรักเราอยู่
แล้วพอคบกับเขามาทุกอย่างดูโอเคมีความสุขดี เราทั้งคู่แลกเปลี่ยนความสุข เสียงหัวเราะกัน ระหว่างนั้นก็มีเรื่องที่ต้องปรับตัวกันหน่อยตามประสาคู่รักใหม่ เช่น ผมเป็นคนชอบอัปคลิปแบบสาวๆ สวยๆ ลงสตอรี่ ซึ่งนางเองไม่ชอบ ก็คุยกันก็แก้ปัญหาไปได้
แต่อยู่ๆ วันนึง พอเราก้าวสู่เดือนที่สี่ ผมเดินทางไปมอบของบริจาคให้กับน้องๆ เด็กดอยที่จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งชวนเธอแล้วเธอก็ไม่สะดวกไปด้วย ผมก็ไม่ว่าอะไร ระหว่างการขับรถไป ตลอดทางเราก็แชตคุยกัน โทรหากันเป็นช่วงๆ เพราะเรารู้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับงาน จึงไม่รบกวนเวลาบ่อย พอผมกลับจากมอบของ ในวันถัดมาเธอก็ปกติดี มีคุยเล่น หยอกเย้าเราตามปกติ (ปล.ผมกับแฟนอยู่กันคนละหอ) แต่ในวันที่สองหลังจากกลับมาแล้ว เธอก็เปลี่ยนไป แชทก็ไม่ตอบ เจอหน้ากันผมเข้าไปหยอกเธอก็ดูจะหงุดหงิดใส่ ตัวผมก็ไม่สะบาย คิดไปว่าแฟนงอนอะไรรึป่าว ก็เข้าไปถาม เธอก็ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร
จนเวลาผ่านไปอีก 2-3 วัน ที่เราแทบไม่เจอ ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้โทรหากัน ผมก็ถามเธอไปว่า "เธอเป็นอะไรรึป่าว ทำไมดูแปลกๆ ไป เราทำอะไรให้ไม่พอใจหรอ" เธอก็ตอบกลับมาว่าเธอรู้สึกเบื่อ เบื่อทุกอย่าง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากพูดกับใคร และขอให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกัน ผมตอนนั้นก็พยายามตั้งสติอยากจะประคับประคองรักครั้งนี้ เพราะกับคนนี้ผมรู้สึกว่าเธอคือคนที่ผมตามหาและอยากอยู่ด้วยตลอด
หลังจากนั้นอีก 2 วัน ผมก็ถามประโยคเดิม เธอก็ยืนยันคำเดิมว่าเบื่อ อยากอยู่คนเดียว คราวนี้ผมเลยจำใจยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่าย เราจึงเลิกและกลับมาสถานะเพื่อนตามเดิม
แต่ในใจลึกๆ ผมยังเชื่อว่าเขายังมีความรู้สึกดีดีอยู่เพียงแต่มันอาจจะไม่มากพอ ถึงขนาดที่จะเอาผมไปรวมกับภาระชีวิตเธอ
แฟนผมเธอเป็นคนประเภทโลกส่วนตัวสูงมาก ถ้าได้ทำงานก็จะสนใจแต่งานไม่สนใจอะไรเลย ซึ่งผมก็เป็นคนลักษณะคล้ายกับเธอ เพียงแต่ ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ผมเห็นเธอเหนื่อยกับงาน ผมก็เลยอยากให้เธอผ่อนคลายเวลาอยู่กับผม แต่ผมอาจจะทำตัวว่างเกินไป เธอก็เลยอาจจะมองว่าผมเป็นคนไม่ใส่อนาคตตัวเองหรือเปล่า
ร่ายยาวมาถึงตรงนี้ ผมเลยอยากถามสาวๆ ที่เป็นประเภทโลกส่วนสูงแบบนี้หน่อยว่า คำว่า "เบื่อ" เบื่อจริงไหม? และคำว่า "อยากอยู่คนเดียว" คือ อยากได้เวลาไปคิดทบทวนตัวเองหรือเปล่า?
เพราะที่เราเลิกกันครั้งนี้ มันไม่ได้มีปัญหา หรือการทะเลาะใดๆ เลย