ถูกตราหน้ามาเป็นปี! ศาลยกฟ้องปู่ คดีย่ำยีหลานสาวแท้ๆ จนท้อง ก่อนดับ ทนายเผยหลักฐาน
16 มี.ค. 2565
ถูกตราหน้ามาเป็นปี! ศาลยกฟ้องปู่ คดีย่ำยีหลานสาวแท้ๆ จนท้อง ก่อนดับ ทนายเผยหลักฐานไม่เพียงพอ ผลนิติเวชชัดไม่ถูกชำเรา ตายจากมะเร็งสมอง อโหสิให้ทุกคนที่ต่อว่า
จากกรณี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ชาว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตที่บ้านพัก โดยแม่และญาติระบุว่าลูกสาวถูกปู่แท้ๆ อายุ 66 ปี ข่มขืนช่วงกลางเดือน พ.ย.63 จนตั้งครรภ์นอกมดลูก ก่อนที่จะมีอาการแพ้ และอาเจียนทรุดหนักจนเสียชีวิต ตำรวจแจ้งข้อหาปู่เป็นผู้กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเหตุเกิดประมาณกลางเดือนธันวาคม 2563 ขณะที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธ อ้างรักและเอ็นดูมากไม่ได้ข่มขืน
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มี.ค.65 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นัดพิจาณาคดีดังกล่าว โดยศาลได้เปิดบัลลังก์ที่ 12 เป็นคดีดำที่ อ540/64 มีพนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์เป็นโจทก์ มี นายยูน (นามสมมติ) เป็นจำเลย ซึ่งเป็นการตัดสินในศาลชั้นต้น ทั้งนี้มีภรรยา ลูกหลาน และญาติพี่น้องของ นายยูน จำนวน 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ
โดย นายวิญญู ขันผง ทนายความฝ่ายจำเลยกล่าวว่า คดีนี้ใช้เวลา 1 ปีเศษ ก่อนที่ศาลกาฬสินธุ์ ได้นัดฟังคำพิพากษาในศาลชั้นต้นในวันนี้ ซึ่งผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาประมาณ 30 นาที โดยมีคำตัดสินยกฟ้อง นายยูน โดยพิจารณาแล้วว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ผลผ่านิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัดไม่ถูกชำเรา สาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิต เนื่องจากเป็นมะเร็งที่สมองทำให้เกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน และเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเรื่องทั้งหมดเกิดจากคำวินิจฉัยของพยาบาลเจ้าของไข้ ในส่วนขั้นตอนต่อไปจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับทางฝ่าย นายยูน ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว และทางญาติ ว่าจะดำเนินการอะไรต่อไปหรือไม่
ขณะที่ลูกชายของนายยูน และเป็นพ่อของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าพ่อ จะลงมือก่อเหตุตามข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งตนกับพ่อก็ได้เปิดอกคุยกันแบบลูกผู้ชายตั้งแต่แรก และพ่อก็ยืนยันไม่ได้กระทำกับหลาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ โดยเฉพาะศาลท่านได้เมตตาและพิพากษาตามพยานหลักฐานว่าพ่อเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนและครอบครัวก็ดีใจที่สุดแล้ว
ด้านลูกสาวของ นายยูน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าพ่อ แม่ ลูกหลานทุกคน รู้สึกเป็นทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก ไม่มีใครอยากเชื่อเลยว่าพ่อจะลงมือทำกับหลานอย่างนั้น ทำให้พ่อตกเป็นจำเลยทางสังคม และแม่ก็ถูกชาวบ้านมองแบบผิดๆ สิ่งที่ชาวบ้านและสังคมคิด เหมือนเป็นตราบาปให้กับครอบครัวเรามาตลอดปีเศษ จนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ศาลได้พิจาณาโดยตัดสินยกฟ้อง ทุกคนรู้สึกดีใจมาก ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ยอมรับแล้วว่าความยุติธรรมมีจริง หลังจากนี้ก็จะได้เตรียมสู่ขวัญบายศรี เพื่อเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมาให้พ่อ และขอฝากถึงบุคคลใดก็ตาม ที่เคยเข้าใจพ่อผิด หรือมีอคติกับครอบครัวเรา ทั้งมีการโพสต์ การคอมเมนต์ในสื่อโซเชียลต่างๆ นานา เราก็ยินดีจะอโหสิกรรมให้ และคงจะไม่ไปเรียกร้องอะไรกับใคร ถือเป็นการยุติกันไป และจะไม่ถือโทษโกรธเคืองใคร เพื่อที่หลานสาวจะได้ไปสู่สุคติ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6944599
ถูกตราหน้ามาเป็นปี! ศาลยกฟ้องปู่ คดีย่ำยีหลานสาวแท้ๆ จนท้อง ก่อนดับ ผลนิติเวชชัดไม่ถูกชำเรา ตายจากมะเร็งสมอง
16 มี.ค. 2565
ถูกตราหน้ามาเป็นปี! ศาลยกฟ้องปู่ คดีย่ำยีหลานสาวแท้ๆ จนท้อง ก่อนดับ ทนายเผยหลักฐานไม่เพียงพอ ผลนิติเวชชัดไม่ถูกชำเรา ตายจากมะเร็งสมอง อโหสิให้ทุกคนที่ต่อว่า
จากกรณี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ชาว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตที่บ้านพัก โดยแม่และญาติระบุว่าลูกสาวถูกปู่แท้ๆ อายุ 66 ปี ข่มขืนช่วงกลางเดือน พ.ย.63 จนตั้งครรภ์นอกมดลูก ก่อนที่จะมีอาการแพ้ และอาเจียนทรุดหนักจนเสียชีวิต ตำรวจแจ้งข้อหาปู่เป็นผู้กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเหตุเกิดประมาณกลางเดือนธันวาคม 2563 ขณะที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธ อ้างรักและเอ็นดูมากไม่ได้ข่มขืน
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มี.ค.65 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นัดพิจาณาคดีดังกล่าว โดยศาลได้เปิดบัลลังก์ที่ 12 เป็นคดีดำที่ อ540/64 มีพนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์เป็นโจทก์ มี นายยูน (นามสมมติ) เป็นจำเลย ซึ่งเป็นการตัดสินในศาลชั้นต้น ทั้งนี้มีภรรยา ลูกหลาน และญาติพี่น้องของ นายยูน จำนวน 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ
โดย นายวิญญู ขันผง ทนายความฝ่ายจำเลยกล่าวว่า คดีนี้ใช้เวลา 1 ปีเศษ ก่อนที่ศาลกาฬสินธุ์ ได้นัดฟังคำพิพากษาในศาลชั้นต้นในวันนี้ ซึ่งผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาประมาณ 30 นาที โดยมีคำตัดสินยกฟ้อง นายยูน โดยพิจารณาแล้วว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ผลผ่านิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัดไม่ถูกชำเรา สาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิต เนื่องจากเป็นมะเร็งที่สมองทำให้เกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน และเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเรื่องทั้งหมดเกิดจากคำวินิจฉัยของพยาบาลเจ้าของไข้ ในส่วนขั้นตอนต่อไปจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับทางฝ่าย นายยูน ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว และทางญาติ ว่าจะดำเนินการอะไรต่อไปหรือไม่
ขณะที่ลูกชายของนายยูน และเป็นพ่อของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าพ่อ จะลงมือก่อเหตุตามข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งตนกับพ่อก็ได้เปิดอกคุยกันแบบลูกผู้ชายตั้งแต่แรก และพ่อก็ยืนยันไม่ได้กระทำกับหลาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ โดยเฉพาะศาลท่านได้เมตตาและพิพากษาตามพยานหลักฐานว่าพ่อเป็นผู้บริสุทธิ์ ตนและครอบครัวก็ดีใจที่สุดแล้ว
ด้านลูกสาวของ นายยูน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าพ่อ แม่ ลูกหลานทุกคน รู้สึกเป็นทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก ไม่มีใครอยากเชื่อเลยว่าพ่อจะลงมือทำกับหลานอย่างนั้น ทำให้พ่อตกเป็นจำเลยทางสังคม และแม่ก็ถูกชาวบ้านมองแบบผิดๆ สิ่งที่ชาวบ้านและสังคมคิด เหมือนเป็นตราบาปให้กับครอบครัวเรามาตลอดปีเศษ จนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ศาลได้พิจาณาโดยตัดสินยกฟ้อง ทุกคนรู้สึกดีใจมาก ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ยอมรับแล้วว่าความยุติธรรมมีจริง หลังจากนี้ก็จะได้เตรียมสู่ขวัญบายศรี เพื่อเรียกขวัญกำลังใจกลับคืนมาให้พ่อ และขอฝากถึงบุคคลใดก็ตาม ที่เคยเข้าใจพ่อผิด หรือมีอคติกับครอบครัวเรา ทั้งมีการโพสต์ การคอมเมนต์ในสื่อโซเชียลต่างๆ นานา เราก็ยินดีจะอโหสิกรรมให้ และคงจะไม่ไปเรียกร้องอะไรกับใคร ถือเป็นการยุติกันไป และจะไม่ถือโทษโกรธเคืองใคร เพื่อที่หลานสาวจะได้ไปสู่สุคติ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6944599