JJNY : พ่อแม่ชาวไทย รายได้ลดฮวบ!│เสียงสะท้อนธุรกิจท่องเที่ยว│‘ชลน่าน’ ปูดจ้องคว่ำกม.ลูก│รัสเซียยิงดับ“นักข่าวอเมริกัน”

พ่อแม่ชาวไทย ยุคโควิดรายได้ลดฮวบ!

https://www.matichon.co.th/lifestyle/social-women/news_3231903
 
 
พ่อแม่ชาวไทย ยุคโควิดรายได้ลดฮวบ!
 
จากสถานการณ์การปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ และยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าครองชีพของครอบครัวไทย ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19
 
theAsianparent จึงได้สำรวจความคิดเห็นของตัวแทนคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนผลกระทบที่ได้รับในครั้งนี้ โดยผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า

พ่อแม่รัดเข็มขัด ลดรายจ่าย
 
คุณพ่อคุณแม่กว่า 72% รู้สึกเครียดและกังวลกับการปรับขึ้นราคาของสินค้าต่างๆ และด้วยสาเหตุนี้ทำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกที่จะรับมือโดยการลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยของครอบครัวลงเป็นอันดับแรก
 
เผชิญปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง
 
จากการสำรวจยังพบอีกว่า 1 ในทุกๆ 20 คน ที่พบเจอตามท้องถนนโดยทั่วไป ปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหาค่าดูแลลูก (เช่น นมผง ผ้าอ้อม อาหาร อื่นๆ) ที่รวมแล้วพบว่ามากกว่ารายได้ทั้งหมดของครอบครัว และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต่างต้องนำเงินเก็บ หรือมีการหยิบยืม เพื่อมาจับจ่ายใช้สอยก่อน ซึ่งมีอยู่มากถึง 23%
  
เรียนออนไลน์ภาระเพิ่ม
 
ผู้ปกครองจำนวน 40% ต่างมีความคิดเห็นตรงกันว่า การเรียนออนไลน์ที่บ้าน มีค่าใช้จ่ายโดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องซื้ออุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และจ่ายค่าบริการอินเตอร์เน็ต แต่ก็มีผู้ปกครองอีก 24% ที่รู้สึกว่า มีค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลง เนื่องจากช่วยประหยัดค่าเดินทาง และทางโรงเรียนมีการลดค่าเทอม หรือค่าอาหาร ค่าบริการต่างๆ ให้ด้วย
 
สันทนาการนอกบ้านเป็นหมัน
 
มีครอบครัวถึง 50% ที่ไม่ได้ออกไปทานข้าวสังสรรค์นอกบ้านเลย และทำกับข้าวทานเองที่บ้าน และในทางกลับกันกลุ่มที่ออกไปทานข้าวนอกบ้านอีก 50% นั้น มีการใช้จ่ายค่าอาหารในแต่ละมื้อเกิน 500 บาท อยู่ถึง 48%
 
รู้หรือไม่? หากเทียบกันระหว่างเดือนมกราคม ปี 2564 กับ 2565 พบว่า 3 ใน 4 ของคุณพ่อคุณแม่ รู้สึกว่ามีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยลดลงกว่าเดิม โดยมากกว่าครึ่งของ 3 ใน 4 นี้ มีรายได้ลดลงกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก
 


เสียงสะท้อนธุรกิจท่องเที่ยว โควิดผสมโรงค่าครองชีพสูง

https://www.matichon.co.th/politics/politics-in-depth/news_3231275
 
หมายเหตุ – เป็นการสำรวจภาคธุรกิจเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวจากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และปัญหาค่าครองชีพเพิ่มสูง อาจส่งต่อการใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวของผู้บริโภค
 
พัลลภ แซ่จิว
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่
 
สถานการณ์ท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ จากการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะหมดเทศกาลหรือฤดูกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือไปแล้ว ดังนั้น ช่วงนี้จึงไม่ได้คาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่เท่าใดนัก ในส่วนของโรงแรมก็เริ่มนิ่ง หรือปิดกิจการไปเลยก็มี เรื่องการจะกระตุ้นการเดินทางอีกครั้งคงต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน
 
ตอนนี้กิจกรรมหรืออีเวนต์ต่างๆ ไม่มีแล้วยิ่งช่วงสงกรานต์ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะไม่มีกิจกรรมใหม่ๆ อะไรมากระตุ้นการท่องเที่ยว ยิ่งค่าครองชีพสูงก็ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ยกเว้นว่าเริ่มมีตลาดต่างประเทศที่เริ่มจะคึกคัก เพราะผลจากการทำการตลาดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะมีเข้ามาอีก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซึ่งจะเข้ามาหลากหลายชาติ
 
ในส่วนของกลุ่มเป้าหมายมองไปที่ยุโรป ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ แต่น่าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมที่ท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะเริ่มมีเข้ามา แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีข่าวในเชิงบวกอะไร ยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยก็ถือว่าหมดฤดูกาล เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อเงินในกระเป๋า สินค้าหลายอย่างแพงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันที่มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
 
สำหรับการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ เป็นเรื่องที่เอกชนต้องลงเงินเพื่อกระตุ้นกันเองแต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนกิจกรรมใหญ่ๆ คงไม่มีใครทำ เพราะต้องทำภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เพราะหากลงทุนไปแล้ว รัฐไม่อนุญาตให้จัดก็จะเป็นปัญหาอีก ใครที่อยากเห็นบรรยากาศสาดน้ำรอบคูเมืองน่าจะยังไม่เกิดขึ้น ต้องอ่านใจภาครัฐว่าจะยอมให้ทำหรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าคงไม่ยอมให้ทำแน่
  
พงษ์เทพ มาลาชาสิงห์
รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา
เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา

จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรอบนี้จะส่งผลกระทบต่อการจัดงานในช่วงเทศการสงกรานต์ค่อนข้างสูง แม้จะมีกระแสข่าวว่าไม่รุนแรงเท่ากับช่วงที่ผ่านมา เพราะมีหลายกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มากของจังหวัดนครราชสีมา พบว่ามีการเลื่อนการจัดงานไปแล้วหลายงาน หรือมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นจนไม่คุ้มทุนที่จะจัดงาน ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 เข้าสู่ปีที่ 3 มีการตัดวงจรทำลายระบบของเศรษฐกิจหลายขั้นที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู ประกอบกับน้ำมันยังมีแนวโน้มราคาสูงเป็นปัจจัยสำคัญของต้นทุนสินค้าและบริการ การเดินทาง ประกอบกับปัจจัยภายนอกที่สงครามรัสเชียกับยูเครนยังไม่มีแนวโน้มที่จะจบเร็ว ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อทางจิตวิทยาที่จะทำให้คนจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง

สำหรับการโปรโมตการท่องเที่ยวในระยะสั้นหรือในปีนี้ มองว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณและไม่คุ้มค่า น่าจะมาทุ่มเทกับด้านสาธารณสุขให้ควบคุมสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ให้ได้ แล้วมองไปในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องยาวถึงปี 2566 ที่จะจัดกิจกรรมตามประเพณี หรือกิจกรรมท่องเที่ยวที่พิเศษๆ หรือกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวภายในจังหวัด จับคู่แบบอำเภอต่ออำเภอ ในการมาดูงาน หรือจับคู่เป็นรายจังหวัดมาเที่ยวข้ามจังหวัด น่าจะเป็นผลดีมากกว่า
 
พิสูจน์ แซ่คู
นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก
 
ขณะนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไร แม้จะมีสัญญาณแนวโน้มที่ดี แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็ยังไม่ฟื้นดี เป็นผลจากปัจจัยลบในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องของการแพร่ระบาดในพื้นที่ที่ยังมีอยู่สูง รวมไปถึงเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนแม้จะยังส่งผลไม่มาก แต่หากสถานการณ์บานปลายในระยะยาวอาจจะส่งผลในตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกได้
 
ขณะที่การท่องเที่ยวของคนไทยจากมาตรการเที่ยวด้วยกันเฟส 4 จากการตรวจสอบสิทธิลงทะเบียนโครงการดังกล่าว 2 ล้านสิทธิ ทราบว่ามีการใช้สิทธิไปแล้วกว่า 9 แสนสิทธิ ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดีและประชาชนส่วนใหญ่ก็มีความคุ้นเคย รู้จักวิธีการใช้สิทธิและขั้นตอนทุกอย่างแล้ว แต่ที่ยังมีการชะลอการใช้สิทธิในเฟส 4 เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาไม่มีวันหยุดยาว อีกทั้งส่วนใหญ่จะรอใช้สิทธิในช่วงสงกรานต์ และคงรอดูสถานการณ์ว่าในช่วงสงกรานต์ปีนี้จะมีการเปิดให้เล่นน้ำและมีการเดินทางท่องเที่ยวได้หรือไม่
 
รวมถึงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะเป็นอย่างไร
 
การใช้สิทธิดังกล่าวส่วนใหญ่จะถูกใช้ในพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นเมืองรอง โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ประชาชนส่วนใหญ่จะกลับภูมิลำเนาจึงมีการนำสิทธิไปใช้ในจังหวัดบ้านเกิด ส่วนพื้นที่เมืองพัทยาพบว่ามีการใช้สิทธิโครงการบ้างแต่ไม่มากเหมือนช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว หากในช่วงสงกรานต์ไม่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและเป็นวันหยุดยาวเหมือนปกติที่ผ่านมา ในพื้นที่ก็จะไม่นักท่องเที่ยวมากนัก โดยในเมืองพัทยาจะได้นักท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวระยะสั้นๆ 3-4 วัน เท่านั้น
 
กรด โรจนเสถียร
ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ จ.ประจวบคีรีขันธ์
 
แม้โควิด-19 จะมีผลบกระทบหลายด้านนานกว่า 2 ปี แต่โรคนี้กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในหลายประเทศทั่วโลกที่เปิดประเทศเพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว ดังนั้น นโยบายของรัฐบาลที่จะดูแลทั้งในและต่างประเทศก็ต้องตอบโจทย์ไปในแนวทางเดียวกับสถานการณ์ทั่วโลก เพื่อทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
 
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดพบว่า ประชาชนระมัดระวังในการเดินทางมากขึ้น เพราะเกรงว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพหากติดเชื้อหรือผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ ดังนั้น แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวจึงน่าจะลดลง แต่ไม่มาก จากการตัดสินใจเพื่อลดความเสี่ยง
 
ขณะที่ภาพรวมของหัวหินซึ่งพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ยังรักษาระดับเพื่อควบคุมการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลในการรักษาตัวที่บ้านหรือศูนย์พักคอยชุมชน ยังทำได้ดี ส่วนที่ยังบกพร่องคือควรเน้นย้ำด้านการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น รวมทั้งวิธีการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเพื่อนำเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาให้รวดเร็ว แต่รัฐบาลพยายามปรับรูปแบบมาโดยตลอด เพื่อจูงใจให้การเดินทางท่องเที่ยวมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญพบว่ามีประชาชนคนไทยเริ่มเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น
 
สำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่หัวหิน ประเมินว่าจะมีคนไทยเป็นตลาดท่องเที่ยวหลักเช่นเดียวกับหลายเทศกาลที่ผ่านมา หัวหินยังเน้นไทยเที่ยวไทยจากมาตรการจูงใจของภาครัฐ และจะต้องปรับรูปแบบใหม่ๆ ให้เข้ากับสถานการณ์โรคระบาด
 
เชื่อว่าทุกคนที่ไปเที่ยวหัวหินก็ต้องระมัดระวังทั้งตัวเอง คนใกล้ชิด หรือบุคคลในครอบครัว ส่วนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในธุรกิจบริการด้านต่างๆ ยิ่งจะต้องระวังมากกว่า และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของทางราชการในหลากหลายรูปแบบ เพื่อลดกระทบจากรายได้หากมีคลัสเตอร์เกิดขึ้นในสถานประกอบการนั้นๆ อีก
 
โดยภาพรวมเชื่อว่าช่วงสงกรานต์ หัวหินจะเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องการไปพักผ่อนตากอากาศชายทะเล แต่ไม่ต้องการเดินทางไกล ประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะที่ผู้ประกอบการจะต้องใส่ใจมาตรการความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และก่อนถึงช่วงสงกรานต์สิ่งที่รัฐบาลควงเร่งรีบดำเนินการในเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศ ก็ต้องเร่งดูแลผู้ป่วยติดเชื้ออย่าล่าช้า และควรป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเพื่อทำให้ประชาชนมีความมั่นใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่