สวัสดีครับ
เอาจริงๆผมคิดมาหลายวันมากว่าจะตั้งกระทู้ทำนองนี้ดีไหม
แต่หลังจากคลุกคลีกับวงการโควิดมานาน
และได้เป็นผู้ติดเชื้อเอง ก็อยากมาแฉแชร์ประสบการณ์หลายๆอย่างให้ทุกคนทราบ
เพื่อนๆจะได้รับมือกับโควิดที่จะอยู่กับเราตลอดไปได้
เอาจริงๆ ถ้าทุกคนตามข่าวกัน ก็จะพอทราบว่ารัฐมีมาตรการเจอ แจก จบ
ซึ่งผมก็อ่านข่าวนี้ผ่านๆ ก็ได้แต่กรอกตา แล้วงงกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
ดังนั้นจะมีอะไรที่หลายๆคนยังไม่ทราบ
ผมก็ขอกล่าวไว้ที่นี่เลยละกันครับ
1. การตรวจ RT-PCR แทบจะเป็นสิ่งต้องห้ามในหลายๆจังหวัดไปแล้ว
ผมกล่าวแบบนี้คงจะไม่เกินจริงนัก ถ้าหากหลายๆคนได้ลองดูตัวเลขที่รัฐรายงาน ผล ATK จะมากกว่าผล RT-PCR เป็นเท่าตัวในทุกวันนี้ เอาจริงๆผมคิดว่ามันไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์จริงในโรงพยาบาลของประเทศไทย นอกจากงบเริ่มหมด ยังมีความกดดันจากเบื้องบน
พูดได้ไหมครับพี่จี้? เอาเป็นว่าในแต่ละจังหวัดจะมีคนคนหนึ่งที่ถูกกดดันไม่ให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูง ดังนั้นมาตรการของแต่ละจังหวัดก็จะแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะใช้การตรวจ ATK เป็นหลัก ซึ่งผมเห็นด้วย เพราะช่วยประหยัดงบได้จริงๆ แต่ในบางเคส หากผู้ป่วยไม่ได้มีอาการของปอดติดเชื้อ หรือที่เราๆเรียกกันว่าลงปอด การตรวจ RT-PCR จะไม่สามารถทำได้ หากจะทำก็ต้องจ่ายเงินเอง ทำให้ผู้ป่วยหลายๆคนหลุดตรงนี้ไป ก็ขนาดผมเองที่ตรวจ ATK ซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังไม่เป็น แต่สุดท้ายพอตรวจ RT-PCR ดันขึ้นซะงั้น
เอาเป็นว่าถ้าใครสงสัยตัวเอง และต้องอาศัยร่วมกับผู้อื่นอาจจะต้องระวังกันด้วยนะครับ เพราะการตรวจ ATK ไม่ขึ้น ไม่ได้แปลว่าคุณไม่ได้เป็น คุณอาจจะไม่ได้มีอาการ แต่คุณยังสามารถส่งต่อเชื้อไปให้คนในครอบครัวของคุณได้
นอกจากนี้การตรวจ ATK ปัจจุบัน สามารถให้ผู้ป่วยตรวจเองได้เลย ถ้าเป็นสามารถถ่ายรูปผลแล้วขอยาได้เลย โดยที่ไม่ต้องตรวจซ้ำกับทางโรงพยาบาล ซึ่งก็เป็นอะไรที่ถือว่ามีทั้งข้อดีที่เราได้ยาเร็ว แต่บางคนที่ผลบวกลวงก็ถือว่ารักษาๆไปเถอะนะ โถ่ววว
2. ในส่วนของยา หลายๆคนอาจจะไม่ได้ Favipiravir กันแล้ว
หากยังจำกันได้ ในช่วงหนึ่งที่ Delta ระบาดมากๆ หรือที่จริงก็ทุกสายพันธุ์ในช่วงแรกๆ บางแห่งจะแจก Favipiravir ให้ผู้ป่วยได้เลย โดยไม่สนใจว่าเชื้อจะลงปอดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการหนักภายหลัง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน บางโรงพยาบาลยาตัวนี้ได้หมดลง หรือขาดตลาดไปช่วงหนึ่ง ทำให้ผู้ป่วยหลายๆคนมักจะไม่ได้ยาตัวนี้ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ใช่ครับ ทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องได้ยาตัวนี้ แต่เราแน่ใจได้อย่างไรว่าเราไม่จำเป็นต้องได้ เพราะระบบคัดกรองบางอย่างบอกได้เลยว่าหลุดแน่ๆ เดี๋ยวผมจะกล่าวต่อไปครับ
อาจเป็นเพราะว่า Omicron สายพันธุ์ล่าสุดจะมีความรุนแรงไม่มาก เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ก่อนๆ และคนไทยส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนกันแล้ว ความรุนแรงของโรคจะลดลง เพราะสาเหตุนี้หรือไม่ ผมก็ไม่สามารถทราบได้ว่าทำไมการแจกยาเริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น เอาเป็นว่าใครจะเป็นโควิดก็รีบเป็นนะครับ เพราะมาตรการเปลี่ยนกันได้แทบทุกวินาที อีกไม่นานคุณอาจจะไม่ได้ยาอะไรเลยก็ได้
3. การ X-ray ปอดไม่จำเป็นแล้วมั้ง
อย่างที่ทราบกันว่าถ้าหากโควิดลงปอด หลายๆคนคงจะได้รับยาต้านไวรัสกันไปกิน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลงปอดล่ะ มันก็ต้อง X-ray นั่นแหละครับ แต่เอาจริงๆ ทุกวันนี้หากอาการไม่เยอะ ไม่เหนื่อยมาก ความเข้มข้นออกซิเจนไม่ต่ำ หลายๆที่แทบจะไม่ได้ x-ray กันแล้ว เพราะผู้ป่วยเยอะจนไม่ทัน ในบางคนที่ลงปอดน้อยแล้วหลุดก็โชคดีไป แต่อย่างน้อยวันหนึ่งๆก็จะมีสักคนที่ไม่ได้ x-ray แล้วผ่านไป 2-3 วันถึงจะกลับมา x-ray เพราะเหนื่อยขึ้น หรือบางคนที่อาการดูดีไม่มีอะไร แต่พอเผลอ x-ray ไป ก็เห็นว่าลงปอดไปซะแล้ว
เอาเป็นว่าใครไม่สบายใจ ขอ x-ray เถอะครับ ถึงแม้จะมีบางคนบอกว่าไม่จำเป็น แต่คนเหล่านั้นเวลาที่เขาเป็นโควิด เค้าก็ขอ x-ray ปอดนะ
อุ๊ย นอกจากนี้ถึงแม้ว่าผล x-ray ปอดจะปกติ มันก็ไม่ได้ยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์สักหน่อยว่าจะไม่ลงปอด ในช่วง wave แรกๆของโควิด ถ้าคุณอยู่ในโรงพยาบาลดีๆ แล้วอาการแย่มากๆ CT อาจจะได้ใช้ด้วยซ้ำ แต่อันนี้ผมก็พูดไว้เฉยๆครับ ในความเป็นจริงมันก็เว่อร์ไป และเสียเงินโดยใช่เหตุ เอาแค่ว่าให้เราได้ x-ray ปอดก่อน แค่นี้ก็บุญแล้วครับ
4. Home Isolation ไม่มีจริง
หลายๆคนคงได้ยินมาตรการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน แต่นั่นเป็นอะไรที่โลกสวยมากๆครับ ในสมัยก่อนช่วงพีคๆ เดือนตุลา-พฤศจิกาปีที่แล้ว การไปกักตัวที่บ้านนี่ต้องมีการประเมินความพร้อมบ้าน ประเมินอะไรหลายๆอย่างมาก ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน คือถ้าเราอยากไปกักตัวที่บ้าน ต่อให้บ้านไม่พร้อมก็กลับได้ครับ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่คนในครอบครัวที่อยู่บ้านเดียวกันจะค่อยๆทยอยกันติด เพราะครอบครัวคนไทย มันไม่ได้แยกบ้านกันขนาดนั้นอยู่แล้ว สังคมไทยคนที่จะมีเงินอยู่แยกห้องกันจริงๆมันไม่ได้มีเยอะหรอกครับ ทุกวันนี้ยอดเลยพุ่งขึ้นทุกวัน
แต่ แต่ แต่ จะพูดแค่นี้ ในเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ ผมจะพูดทำไม ถูกไหมครับ สิ่งที่จะพูดจริงๆก็คือ ทุกวันนี้เราอยู่ร่วมกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดแล้ว อย่าแปลกใจที่จะมีคนติดโควิด แบบที่ตรวจมาแล้วว่าเป็น แต่ไปเดินโลตัสอยู่
พูดชื่อห้างเค้าจะมาฟ้องปะวะ หรือไปเดินตลาดสด บางคนก็ไปทำงานได้ โดยบอกว่างานไม่ได้เจอกับใคร หืม? ยังไงเราก็ต้องอยู่ร่วมกันอยู่แล้ว ใส่แมสก์ไว้ก็ปลอดภัยระดับหนึ่งแหละเนอะ
5. กินฟ้าทะลายโจรแทบตาย ตับจะพังไหมนะ
แน่นอนว่าพอเราไม่ได้กิน Favipiravir ฟ้าทะลายโจรก็มามีบทบาทสำคัญมากๆในช่วงนี้ หลายๆโรงพยาบาลเริ่มแจกฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบ หรือบางคนก็เชื่อว่าสมุนไพรไทยมันดี แต่ฟ้าทะลายโจรกินมากๆก็มีผลทำให้ตับพังได้นะครับ ในสมัยก่อน ช่วงปีที่แล้วที่มีการแจกฟ้าทะลายโจรอยู่ช่วงหนึ่ง บางคนเจาะค่าตับแล้วค่าตับก็ขึ้นได้ แต่ในยุคปัจจุบันนี้ ก็เค้าบอกว่าเจอจ่ายจบ หากเราติดโควิด x-ray บางคนก็ไม่ได้ทำ เลือดก็ไม่ได้เจาะ ทุกอย่างเราทำด้วยความมินิมอล ดังนั้นถ้าใครกินแล้วค่าตับขึ้นก็ถือว่าซวยละกันเนอะ ว่าแต่จะรู้ได้ไงว่าค่าตับขึ้นล่ะ ก็เราไม่ได้เจาะอะ ก็ไม่เจาะเท่ากับไม่เป็นละกัน
เอาจริงๆการกินฟ้าทะลายโจร ถือว่าต้องกินเยอะมากๆ เพื่อให้ได้ปริมาณของ Andrographolide และบางคนยังกินเพื่อป้องกันโควิดอีกด้วย เรียกว่าถ้ากินเยอะขนาดนี้ ตับจะไม่พังจะยังไงไหว เอาเป็นว่าถ้าจำเป็นต้องกิน ผมว่าการกินป้องกันก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ ใช้แต่จำเป็นละกันครับ
สุดท้ายนี้ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้ต้องการจะบอกว่าประเทศเราจัดการโควิดได้ไม่ดีนะครับ
เพราะใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าการจัดการเป็นยังไง
ผมแค่อยากให้ทุกคนได้ทราบถึงความจริงหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้
ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องอยู่ร่วมกับโควิดตลอดไป
ในความเห็นผม Omicron มันก็ไม่ได้แรงน่ากลัวเท่าสายพันธุ์อื่น บวกกับเราก็ฉีดวัคซีนกันได้เยอะแล้ว
ถ้าหากมาตรการรักษาของประเทส หรือการตรวจโควิดของประเทศจะเป็นอย่างนี้
สู้เปิดประเทศหรือประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นไปเลยซะจะดีกว่า
แต่ก็ไม่รู้ทำไมเค้าต้องรออีกตั้งหลายเดือนค่อยประกาศ อุ๊ย
มาทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ไม่สุดแบบนี้ บางครั้งผมก็งงเหมือนกันนะ
ทำให้โรคดูน่ากลัว แต่การรักษาที่ได้คือแบบนี้
ก็ขอให้ทุกคนปลอดภัยรอดพ้นจากโควิดกันทุกคนครับ
ส่วนจังหวัดไหนที่มีมาตรการต่างออกไปก็มาแชร์กันได้นะฮะ
เรื่องจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID ในประเทศไทย ที่ทำให้ผมต้องหยุดโลกสวย
แฉแชร์ประสบการณ์หลายๆอย่างให้ทุกคนทราบผมกล่าวแบบนี้คงจะไม่เกินจริงนัก ถ้าหากหลายๆคนได้ลองดูตัวเลขที่รัฐรายงาน ผล ATK จะมากกว่าผล RT-PCR เป็นเท่าตัวในทุกวันนี้ เอาจริงๆผมคิดว่ามันไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะสถานการณ์จริงในโรงพยาบาลของประเทศไทย นอกจากงบเริ่มหมด ยังมีความกดดันจากเบื้องบน
พูดได้ไหมครับพี่จี้?เอาเป็นว่าในแต่ละจังหวัดจะมีคนคนหนึ่งที่ถูกกดดันไม่ให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูง ดังนั้นมาตรการของแต่ละจังหวัดก็จะแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะใช้การตรวจ ATK เป็นหลัก ซึ่งผมเห็นด้วย เพราะช่วยประหยัดงบได้จริงๆ แต่ในบางเคส หากผู้ป่วยไม่ได้มีอาการของปอดติดเชื้อ หรือที่เราๆเรียกกันว่าลงปอด การตรวจ RT-PCR จะไม่สามารถทำได้ หากจะทำก็ต้องจ่ายเงินเอง ทำให้ผู้ป่วยหลายๆคนหลุดตรงนี้ไป ก็ขนาดผมเองที่ตรวจ ATK ซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังไม่เป็น แต่สุดท้ายพอตรวจ RT-PCR ดันขึ้นซะงั้นเอาเป็นว่าถ้าใครสงสัยตัวเอง และต้องอาศัยร่วมกับผู้อื่นอาจจะต้องระวังกันด้วยนะครับ เพราะการตรวจ ATK ไม่ขึ้น ไม่ได้แปลว่าคุณไม่ได้เป็น คุณอาจจะไม่ได้มีอาการ แต่คุณยังสามารถส่งต่อเชื้อไปให้คนในครอบครัวของคุณได้
นอกจากนี้การตรวจ ATK ปัจจุบัน สามารถให้ผู้ป่วยตรวจเองได้เลย ถ้าเป็นสามารถถ่ายรูปผลแล้วขอยาได้เลย โดยที่ไม่ต้องตรวจซ้ำกับทางโรงพยาบาล ซึ่งก็เป็นอะไรที่ถือว่ามีทั้งข้อดีที่เราได้ยาเร็ว แต่บางคนที่ผลบวกลวงก็ถือว่ารักษาๆไปเถอะนะ โถ่ววว
2. ในส่วนของยา หลายๆคนอาจจะไม่ได้ Favipiravir กันแล้ว
หากยังจำกันได้ ในช่วงหนึ่งที่ Delta ระบาดมากๆ หรือที่จริงก็ทุกสายพันธุ์ในช่วงแรกๆ บางแห่งจะแจก Favipiravir ให้ผู้ป่วยได้เลย โดยไม่สนใจว่าเชื้อจะลงปอดหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการหนักภายหลัง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน บางโรงพยาบาลยาตัวนี้ได้หมดลง หรือขาดตลาดไปช่วงหนึ่ง ทำให้ผู้ป่วยหลายๆคนมักจะไม่ได้ยาตัวนี้ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ใช่ครับ ทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องได้ยาตัวนี้ แต่เราแน่ใจได้อย่างไรว่าเราไม่จำเป็นต้องได้ เพราะระบบคัดกรองบางอย่างบอกได้เลยว่าหลุดแน่ๆ เดี๋ยวผมจะกล่าวต่อไปครับ
อาจเป็นเพราะว่า Omicron สายพันธุ์ล่าสุดจะมีความรุนแรงไม่มาก เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ก่อนๆ และคนไทยส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนกันแล้ว ความรุนแรงของโรคจะลดลง เพราะสาเหตุนี้หรือไม่ ผมก็ไม่สามารถทราบได้ว่าทำไมการแจกยาเริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น เอาเป็นว่าใครจะเป็นโควิดก็รีบเป็นนะครับ เพราะมาตรการเปลี่ยนกันได้แทบทุกวินาที อีกไม่นานคุณอาจจะไม่ได้ยาอะไรเลยก็ได้
3. การ X-ray ปอดไม่จำเป็นแล้วมั้ง
อย่างที่ทราบกันว่าถ้าหากโควิดลงปอด หลายๆคนคงจะได้รับยาต้านไวรัสกันไปกิน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลงปอดล่ะ มันก็ต้อง X-ray นั่นแหละครับ แต่เอาจริงๆ ทุกวันนี้หากอาการไม่เยอะ ไม่เหนื่อยมาก ความเข้มข้นออกซิเจนไม่ต่ำ หลายๆที่แทบจะไม่ได้ x-ray กันแล้ว เพราะผู้ป่วยเยอะจนไม่ทัน ในบางคนที่ลงปอดน้อยแล้วหลุดก็โชคดีไป แต่อย่างน้อยวันหนึ่งๆก็จะมีสักคนที่ไม่ได้ x-ray แล้วผ่านไป 2-3 วันถึงจะกลับมา x-ray เพราะเหนื่อยขึ้น หรือบางคนที่อาการดูดีไม่มีอะไร แต่พอเผลอ x-ray ไป ก็เห็นว่าลงปอดไปซะแล้ว
เอาเป็นว่าใครไม่สบายใจ ขอ x-ray เถอะครับ ถึงแม้จะมีบางคนบอกว่าไม่จำเป็น แต่คนเหล่านั้นเวลาที่เขาเป็นโควิด เค้าก็ขอ x-ray ปอดนะ
อุ๊ยนอกจากนี้ถึงแม้ว่าผล x-ray ปอดจะปกติ มันก็ไม่ได้ยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์สักหน่อยว่าจะไม่ลงปอด ในช่วง wave แรกๆของโควิด ถ้าคุณอยู่ในโรงพยาบาลดีๆ แล้วอาการแย่มากๆ CT อาจจะได้ใช้ด้วยซ้ำ แต่อันนี้ผมก็พูดไว้เฉยๆครับ ในความเป็นจริงมันก็เว่อร์ไป และเสียเงินโดยใช่เหตุ เอาแค่ว่าให้เราได้ x-ray ปอดก่อน แค่นี้ก็บุญแล้วครับ4. Home Isolation ไม่มีจริง
หลายๆคนคงได้ยินมาตรการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน แต่นั่นเป็นอะไรที่โลกสวยมากๆครับ ในสมัยก่อนช่วงพีคๆ เดือนตุลา-พฤศจิกาปีที่แล้ว การไปกักตัวที่บ้านนี่ต้องมีการประเมินความพร้อมบ้าน ประเมินอะไรหลายๆอย่างมาก ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน คือถ้าเราอยากไปกักตัวที่บ้าน ต่อให้บ้านไม่พร้อมก็กลับได้ครับ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่คนในครอบครัวที่อยู่บ้านเดียวกันจะค่อยๆทยอยกันติด เพราะครอบครัวคนไทย มันไม่ได้แยกบ้านกันขนาดนั้นอยู่แล้ว สังคมไทยคนที่จะมีเงินอยู่แยกห้องกันจริงๆมันไม่ได้มีเยอะหรอกครับ ทุกวันนี้ยอดเลยพุ่งขึ้นทุกวัน
แต่ แต่ แต่ จะพูดแค่นี้ ในเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ ผมจะพูดทำไม ถูกไหมครับ สิ่งที่จะพูดจริงๆก็คือ ทุกวันนี้เราอยู่ร่วมกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดแล้ว อย่าแปลกใจที่จะมีคนติดโควิด แบบที่ตรวจมาแล้วว่าเป็น แต่ไปเดินโลตัสอยู่
พูดชื่อห้างเค้าจะมาฟ้องปะวะหรือไปเดินตลาดสด บางคนก็ไปทำงานได้ โดยบอกว่างานไม่ได้เจอกับใคร หืม? ยังไงเราก็ต้องอยู่ร่วมกันอยู่แล้ว ใส่แมสก์ไว้ก็ปลอดภัยระดับหนึ่งแหละเนอะ5. กินฟ้าทะลายโจรแทบตาย ตับจะพังไหมนะ
แน่นอนว่าพอเราไม่ได้กิน Favipiravir ฟ้าทะลายโจรก็มามีบทบาทสำคัญมากๆในช่วงนี้ หลายๆโรงพยาบาลเริ่มแจกฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบ หรือบางคนก็เชื่อว่าสมุนไพรไทยมันดี แต่ฟ้าทะลายโจรกินมากๆก็มีผลทำให้ตับพังได้นะครับ ในสมัยก่อน ช่วงปีที่แล้วที่มีการแจกฟ้าทะลายโจรอยู่ช่วงหนึ่ง บางคนเจาะค่าตับแล้วค่าตับก็ขึ้นได้ แต่ในยุคปัจจุบันนี้ ก็เค้าบอกว่าเจอจ่ายจบ หากเราติดโควิด x-ray บางคนก็ไม่ได้ทำ เลือดก็ไม่ได้เจาะ ทุกอย่างเราทำด้วยความมินิมอล ดังนั้นถ้าใครกินแล้วค่าตับขึ้นก็ถือว่าซวยละกันเนอะ ว่าแต่จะรู้ได้ไงว่าค่าตับขึ้นล่ะ ก็เราไม่ได้เจาะอะ ก็ไม่เจาะเท่ากับไม่เป็นละกัน
เอาจริงๆการกินฟ้าทะลายโจร ถือว่าต้องกินเยอะมากๆ เพื่อให้ได้ปริมาณของ Andrographolide และบางคนยังกินเพื่อป้องกันโควิดอีกด้วย เรียกว่าถ้ากินเยอะขนาดนี้ ตับจะไม่พังจะยังไงไหว เอาเป็นว่าถ้าจำเป็นต้องกิน ผมว่าการกินป้องกันก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ ใช้แต่จำเป็นละกันครับ
เพราะใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าการจัดการเป็นยังไงแต่ก็ไม่รู้ทำไมเค้าต้องรออีกตั้งหลายเดือนค่อยประกาศ อุ๊ย