[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



















รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520486282903034


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 11 มี.ค. 2565)
รวม 125,862,893 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 11 มีนาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 273,832 โดส

เข็มที่ 1 : 111,746 ราย
เข็มที่ 2 : 28,289 ราย
เข็มที่ 3 : 110,641 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 54,299,065 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 49,965,129 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 21,598,699 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520475456237450


คำถามที่พบบ่อย ผู้ป่วยโควิดรักษาตัวที่บ้าน Home Isolation เปิดแอร์ ได้หรือไม่ ?

ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520410276243968


ก.อุตฯ กำชับ 10 อุตสาหกรรม ใช้ Bubble & Seal คุมเข้มโควิด ลดเสี่ยงคลัสเตอร์โรงงาน

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากสายพันธุ์ Omicron ที่สามารถแพร่กระจายและติดต่อได้เร็วขึ้น โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวัง และขับเคลื่อนมาตรการทางสาธารณสุขโดยเฉพาะมาตรการ Bubble & Seal เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นการป้องกันการเกิดคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม จนเป็นเหตุให้ต้องปิดกิจการส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงานระลอกใหม่ (เดือนมกราคม–6 มีนาคม 2565) พบโรงงานที่มีการระบาดจำนวน 239 โรงงาน ผู้ติดเชื้อรวม 3,264 คน มีโรงงานที่ร่วมมาตรการ Bubble and Seal จำนวน 2,338 โรงงาน ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,500 โรงงาน โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสะสมรวมสูงสุด 5 จังหวัดแรกได้แก่ ชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง ภูเก็ต และนครราชสีมา ซึ่งอุตสาหกรรม 10 ประเภท

ที่พบการติดเชื้อสูงสุดในปี2564 ได้แก่ 1) อุตสาหกรรมอาหาร 2) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 3) อุตสาหกรรมโลหะ 4) อุตสาหกรรมพลาสติก 5) อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม 6) อุตสาหกรรมรถยนต์ 7) อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ 8) อุตสาหกรรมยาง 9) อุตสาหกรรมก่อสร้าง และ 10) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องมือทางการแพทย์

ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520359156249080


แนวทางการลดขยะติดเชื้อ  ในโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนด(Quarantine Facilities) และศูนย์พักคอยผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 (Community Isolation)

ที่มา  กรมอนามัย
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520416079576721


สปส.ยืนยัน รพ.ประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ พร้อมดูแลผู้ประกันตนติดโควิด-19 “เจอ แจก จบ”
ตามมาตรฐานสาธารณสุข  

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 6 และกด 7 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

ที่มา: กระทรวงแรงงาน
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520423042909358


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ขอเชิญเด็กและประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนเพื่อขอรั่บการฉีดวัคซีน COVID-19 ยี่ห้อ Pfizer ในงาน Thailand International Health Expo 2022 ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน กรุงเทพฯ จำนวน 2 ชนิด ดังนี้ เด็กอายุ 5-11 ปี (Pfizer) ประชาชนทั่วไปเข็มกระตุ้น (เข็ม 3 Pfizer) ให้บริการฉีดฟรีระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น. ณ จุดให้บริการวัคซีนฟรี โซนที่ 3 สยามพารากอน

ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน QueQ >> ศูนย์ฉีดวัคซีน กทม.>> เลือกศูนย์ Thailand International Health Expo 2022 >> ระบุเลขบัตรประชาชน/วันเวลา/วัคซีนที่ต้องการ >>กดยืนยันตามขั้นตอน
เปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 10 - 19 มีนาคม 2565 ตลอด 24 ชั่วโมง

คลิกเปิดแอปพลิเคชันตามลิงค์ด้านล่าง https://play.google.com/store/apps/details?id=com.jorlek.queqcustomer

ที่มา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520431492908513


รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565 จำนวน 68 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520487989569530


ผู้ประกันตนติดโควิดทำอย่างไร ?

• มีผลตรวจ ATK เป็นบวก ผู้ป่วยสีเขียว ไม่มีอาการหรือมีเล็กน้อย
ติดต่อรักษาตัวระบบ HI  สปสช. 3 ช่องทาง
1. โทร. 1330 กด 14
2. ไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
3. ลงทะเบียนและสแกน QR code บนเว็บไซต์ สปสช.
หรือ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI
* หรือโทร. สำนักงานประกันสังคม สายด่วน 1506 กด 6 และกด 7

• กรณีมีผลตรวจ ATK เป็นบวก ผู้ป่วยสีเหลืองเข้ม-สีแดง/มีอาการรุนแรง
- มีไข้/ไอ/หายใจเหนื่อย/มีโรคประจำตัว
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว
- กรณีที่มีโรคประจำตัวควบคุมไม่ได้
- ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ มากกว่า 12 สัปดาห์
- ติดต่อสถานพยาบาลตามสิทธิฯ เพื่อขอตรวจ RT-PCR ยืนยันและเข้าสู่กระบวนการรักษา

ที่มา : สำนักงานประกันสังคม
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/520368809581448


ผู้ป่วยโควิดเข้าเกณฑ์ UCEP Plus ต้องมีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR เป็นบวก ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

1. ภาวะหัวใจหยุดเต้น มีสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจ หายใจลำบากเฉียบพลัน มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า ซึมลง (เมื่อเทียบกับระดับความรู้สึกเดิม) หรือกำลังชักเมื่อแรกรับที่จุดคัดแยก

2. มีอาการไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง หรือหายใจเร็วมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่ หรือออกซิเจนในเลือดเมื่อแรกรับน้อยกว่า 94% หรือมีระดับออกซิเจนลดต่ำลงกว่าภาวะปกติ 3% เมื่อออกแรง หรือโรคประจำตัวเปลี่ยนแปลงรุนแรง หรือจำเป็นต้องรับการติดตามใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์ หรือในเด็กมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือกินอาหารน้อยลง หรือผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงตามดุลยพินิจของแพทย์

3. มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย คือ เหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรงหรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่คุมไม่ได้ ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ และเม็ดเลือดขาวน้อยกว่า 1,000 เซลล์ต่อไมโครลิตร หรืออื่น ๆ ตามดุลยพินิจของผู้คัดแยก
โดยการใช้สิทธิ สามารถโทรแจ้ง 1669 โรงพยาบาลจะประเมินอาการและรักษาเบื้องต้น และกรอกรายละเอียดอาการผ่านโปรแกรม PA ของ สพฉ. หากเข้าเกณฑ์ UCEP Plus จะสามารถใช้สิทธิได้ทันที ทั้งนี้ สพฉ.ได้เตรียมศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หมายเลข 02-872-1669 เพื่อให้คำปรึกษากรณีมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาในการใช้สิทธิ รวมถึงสถานพยาบาลเอกชนกว่า 300 แห่ง ก็ใช้ในการประสานงานกรณีมีข้อติดขัดการลงข้อมูลผ่านระบบเช่นกัน

การใช้สิทธิ UCEP Plus ผู้ติดเชื้อสิทธิบัตรทองกลุ่มอาการสีเหลืองหรือสีแดงยังเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลใดก็ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นค่าห้องพิเศษหรืออาหารพิเศษนอกเหนือสิทธิประโยชน์ ส่วนกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวไปรับบริการสถานพยาบาลปฐมภูมิในระบบบัตรทองได้ทุกที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือแดง สามารถส่งต่อไปโรงพยาบาลเอกชนเพื่อรับการรักษาจนหายได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเช่นกัน สำหรับปัญหาสายด่วน 1330 ได้ขยายคู่สายเพิ่มเป็น 3,200 คู่สาย มีสายโทรเข้าลดลงเหลือ 44,447 สาย สายหลุดหรือไม่ได้รับสาย ลดลงจาก 37% เหลือ 13% ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สปสช. หรือไลน์ @nhso จะจับคู่กับหน่วยบริการที่ให้บริการได้รวดเร็วขึ้น
สำหรับผู้ประกันตนที่ติดเชื้อโควิดกลุ่มสีเขียว สามารถเข้าโรงพยาบาลคู่สัญญาของประกันสังคมได้ทุกแห่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนสิ้นสุดการรักษา ส่วนกรณีกลุ่มสีเหลืองหรือสีแดง สามารถเข้าโรงพยาบาลได้ทั้งรัฐและเอกชน โดยประกันสังคมจะเข้าไปร่วมจ่ายทั้งหมด หากมีข้อสงสัยสามารถโทรสายด่วน 1506 กด 1

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=274932504785747&id=100068069971811


แจ้งข่าว ผู้ติดเชื้อโควิด-19 (กลุ่มสีเขียว) ใน กทม. หากต้องการรับยา “ฟ้าทะลายโจร” เพื่อบรรเทาอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ติดต่อขอรับยาได้ที่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ใน 69 ชุมชน ตรวจสอบจุดรับยาได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/195
https://web.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/331085002387571