คือเราทนไม่ไหวเเล้วค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา เราพึ่งซื้อบ้านใหม่ค่ะ เนื่องจากปัญหาภายในของบ้านหลังเก่า จึงจำเป็นต้องย้ายออกมา เเล้วเรามีลูกพี่ลูกน้องที่เมื่อก่อนสนิทกันมาก ๆ เล่นกันมาตั้งเเต่เด็ก ๆ ครอบครัวเขามีกันสี่คน พ่อเเม่เเละลูกสาวสองคน พี่สาวคนโตอายุมากกว่าเรา 1 ปีค่ะ ส่วนน้องสาวอายุน้อยกว่าเรา 6 ปี เราจะขอใช้นามสมมติกับพี่สาวคนนี้ว่าพี่บีนะคะ ครอบครัวของพี่บีเนี่ย เขาไม่มีบ้านอยู่เป็นหลักเป็นเเหล่งค่ะ เคยไปอยู่อาศัยคอนโดเพื่อนของเเม่เขาเเล้วมีปัญหาตอนย้ายออก คือตอนย้ายออกเพื่อนเขาโพสต์เเฉในเฟซหลังกลับมาจากต่างประเทศเลยน่ะค่ะ หลักฐานมีครบ เเต่ครอบครัวของพี่บีก็ยังปฏิเสธทุกอย่างเเบะทำเหมือนตัวเองไม่ผิด พอไม่มีที่ไปก็เลยมาอยู่บ้านของเพื่อนที่เเม่ของพี่บีสนิทมากๆอีกคน เพราะเพื่อนเขาคนนี้อาศัยอยู่ที่พัทยาเป็นหลัก เเต่ก็มีบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯด้วย เลยให้ครอบครัวพี่เข้ามาอยู่ได้ พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้ก่อนที่บ้านใหม่เราจะเสร็จประมาณเดือนสองเดือนค่ะ ครอบครัวนี้มีเเค่พ่อเขาที่ทำงานรับจ้างขนของ พี่บีเเละน้องสาวยังเรียนอยู่ เเละเเม่พี่บีไม่ได้ทำอะไรค่ะ อยู่บ้านเฉยๆ (เเต่นางหลุดปากบอกเองเลยว่าช่วงนี้ซื้อของออนไลน์เยอะมาก เเต่ไม่ได้ทำงาน มีเเค่พ่อพี่บีที่ทำคนเดียว ทุกคนคิดว่าไงคะ?) เเล้วพอเราได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ จนตอนนี้ก็ 4-5 เดือนเเล้ว เเต่ครอบครัวนี้เขามาบ้านเราทุกอาทิตย์เลยค่ะ เเบบทุกอาทิตย์จริง ๆ มีอาทิตย์ที่ไม่ได้มาเเบบนับครั้งได้เลยค่ะ เเล้วเเม่เขาจะชอบให้พี่บีมานอนห้องเรา ด้วยความที่เราเป็นชาว INFP-T เรื่องพื้นที่ส่วนตัวจะเป็นอะไรที่ Sensitive มาก เราไม่ชอบนอนกับใคร หรือให้ใครมายุ่งกับห้องนอนของเราเลยค่ะ เพราะสำหรับเรามันคือพื้นที่ส่วนตัวของเรา ต่อให้จะสนิทกันมากเเค่ไหนเราก็ไม่ค่อยโอเค เราอึดอัดมาก ๆ เเถมเราเองก็รู้สึกไม่ดีกับพี่บีด้วย เพราะพี่เขาเป็นคนที่ทำลายความมั่นใจของเราไปค่ะ เรื่องนี้คือหยิบยกมาพูดทีไรก็จะร้องไห้ทุกที พี่เขาชอบพูดใส่เราเชิงบุลลี่น่ะค่ะ ทั้งหน้าอกใหญ่ ก้นใหญ่ นิ้วไม่สวย ต่าง ๆ นา ๆ ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนสวย ๆ จนเราไม่กล้าออกไปข้างนอก ไม่กล้าเเต่งตัวสวย ๆ เลยค่ะ เราเสียใจ เเล้วเราก็ตอบโต้อะไรไม่ได้ เพราะพี่เขาเป็นคนสวย นึกเเล้วก็น้อยใจมาก ๆ เลยค่ะ เราสูญเสียความเป็นตัวเองไปเพราะพี่เขาเลย ทุกวันนี้ทั้งไอจีหรือเฟซบุ๊กแทบไม่มีรูปของเราเลยค่ะ เพราะไม่กล้า ทุกคำพูดของเขาที่เขาพูดเเย่ ๆ ใส่เรา เราจำได้ทุกคำ จนเราทนไม่ไหวเอาไปบอกเเม่ เเต่เเม่ก็บอกเเค่ว่าให้เราอดทน เราอดทนจนไม่ไหวเเล้วค่ะ มันเเย่สำหรับเรามากจริง ๆ ย้อนกลับมาเรื่องที่มาที่บ้านเรานะคะ ช่วงอาทิตย์เเรก ๆ เขาเอาผ้ามาซักที่บ้านเราทุกอาทิตย์เลยค่ะ เอามาเยอะมาก ๆ เหมือนขนมาหมดบ้านเพื่อมาซัก ทุกคนคิดดูนะคะ ราวตากผ้าบ้านเราใหญ่มาก ๆ เเต่ไม่พอสำหรับผ้าของเขา เเล้วเครื่องซักผ้าบ้านเรามันมีเเจ้งเตือนในโทรศัพท์ค่ะ ว่าวันนี้ซักกี่รอบ อะไรประมาณนี้ เเล้วที่พ่อเราบอกมาคือครอบครัวเขาซักวันหนึ่งประมาณ 6-7 รอบเลยค่ะ คือตื่นมาเเต่เช้าก็ซัก เเถมที่ทำให้พ่อเราหัวร้อนสุด ๆ ก็คือไปเห็นว่าตอนรอบสุดท้าย มีเเค่เสื้อยืดตัวเดียวอยู่ในเครื่องซักผ้า พ่อเราโมโหจนต้องพูดเหน็บใส่เลยค่ะ เเล้วบอกว่าเครื่องซักผ้ามีเเจ้งเตือนที่โทรศัพท์ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้เอาผ้ามาซักอีกเลย เเล้วเขาไม่มีความเกรงใจกันเลยค่ะ ตอนเช้า ๆ ก็พูดกันเสียงดัง จนเราตื่น ปกติเราเป็นคนนอนดึกมากตอนช่วงที่ไม่ได้ไปเรียน เเต่เรานอนไม่ได้เลยค่ะ เเล้วเรื่องเเอร์อีก ปกติเราอยู่บ้านช่วงกลางวันจะไม่ได้เปิดเเอร์ที่ห้องรับเเขกค่ะ เเต่จะเปิดช่วงเย็น หลัง 17:30 เป็นต้นไปเพื่อประหยัดค่าไฟค่ะ เเต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ครอบครัวเขาก็มาค้างที่บ้านเราเหมือนเดิม เเล้วเราตื่นมาช่วงเที่ยง มานั่งตากพัดลมดูหนังอยู่ที่ห้องรับเเจกกับน้องชายเเล้วก็น้องสาวพี่บี เเต่พี่บีเขากลับปลีกตัวเเยกออกไปห้องนอนเเขกด้านบน เเล้วเปิดเเอร์ เปิดจนถึงเย็นเลยค่ะ คือถ้าเขาไม่ได้มาบ่อย ๆ ถี่ ๆ ก็ยังโอเค เเต่นี่เขามาเกือบทุกอาทิตย์ ค่าไฟค่าน้ำครอบครัวเขาก็ไม่ได้มาช่วยจ่าย เเถมเขาหยิบจับของในบ้านเราเหมือนเป็นบ้านคนอื่นเลย บางทีขนมในตู้เย็นที่เราซื้อมาจะกิน เขาก็เอาไปกินหน้าตาเฉย ไม่ถามอะไรเลย เรารู้สึกเเย่มาก ๆ ปกติเราจะคุยกับพี่บีเเละเล่นด้วยกัน บ้าบอ ๆ ตามประสาเรา เเต่พอมาวันนี้ เราเเทบไม่อยากเห็นหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ เรารู้สึกว่าเขา Toxic กับเรามาก ถ้าเป็นคนอื่นคงตัดออกไปจากชีวิตได้ไม่ยาก เเต่นี่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องเรา เราควรจะทำยังไงดีคะ เครียดมาก ๆ เราคิดว่าต่อให้จะสนิทกันมากเเค่ไหนก็ควรมีความเกรงใจกันบ้าง ไม่ใช่มาทำเเบบนี้
ทำยังไงดีคะ ครอบครัวของลูกพี่ลูกน้องไม่มีความเกรงใจกันเลย