เราเป็นนักกายภาพบำบัดฟรีแลนซ์ และทำ part time ที่คลินิก 2 แห่ง
มีประสบการณ์ทางคลินิกมาประมาณ 12 ปี
และตอนนี้อยากเปิดคลินิก แต่คนรอบข้างไม่เห็นด้วย
เพราะเป็นห่วง กลัวเราไม่มีคนไข้และเจ๊งไปในที่สุด
และการเปิดคลินิกของเรา คือย้ายจากฝั่งธนมาอยู่แถวพระราม 9 หรือรามคำแหง และคิดว่าคงต้องเริ่มต้นใหม่จาก 0
เราเป็นคนตจว. ไม่มีบ้านในกรุงเทพ
แต่อยากหาเช่าบ้านไว้ทำคลินิก และได้บ้านหลังที่ถูกใจแล้ว เพียงแต่ระหว่างนี้รอมติที่ประชุมจากกระทรวง
เรื่องการอนุญาตให้ทำคลินิกในบ้านได้ไหม (เมื่อก่อนเคยทำได้ แต่ตั้งแต่เดือนกพ.มีปัญหาเกิดขึ้นกับคลินิกลักษณะนี้ เลยชะลอการอนุมัติไปก่อน)
สิ่งที่อยากรู้ก็คือ ในมุมมองของคนทั่วไป คิดเห็นยังไงกับการที่จะมีคลินิกกายภาพเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งในกรุงเทพมหานคร จะไปรอดไหม ยังเป็นที่ต้องการอยู่ไหม
เพราะเท่าที่ค้นใน google map ก็ขึ้นพรึ๊บเป็นดอกเห็ด
_______________________________
ทำไมถึงอยากเปิดคลินิก((ที่บ้าน))
>> แค่ได้ทำงานที่เรารัก ได้อยู่ที่บ้าน ไม่ต้องเดินทาง
ไม่ต้องเจอรถติด
>> แค่ได้ทำบุญ แค่ได้มีโอกาสแบ่งปันให้กับคนที่เขา
ไม่มี
>> แค่ได้อยู่บ้าน เปิดเตาทำขนม ทำในสิ่งที่เรารัก
ทำแจกคนไข้บ้าง รับออเดอร์บ้าง
>> แค่มีพื้นที่ให้ได้ทำสวน ปลูกผักไว้กินเองในบ้าน
เอาไว้แจกคนไข้ (ถ้าผักงาม)
>> แค่ได้ support คนในครอบครัว
แค่นี้ก็คงตอบคำถามและตอบโจทย์ได้ดีที่สุดแล้ว
_________________________________
ตื่นนนนน !!!!
หยุดโลกสวยได้แล้ว ชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
ออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ก่อน !!!!
มีคนหนึ่งตบหน้าเราให้ตื่นด้วยประโยคนี้
มีเงินทุนไหม นี่มันยุคโควิด
คนไม่ค่อยใช้เงิน ยุคที่อะไรๆก็แพง
แล้วถ้าคลินิกไม่มีคนไข้เลยจะทำยังไง
จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน
แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
สำรองไว้กี่เดือน ถ้ามีเงินสำรองฉุกเฉินไม่ครบ 12 เดือน
ก็อย่าเพิ่งเปิด
ประโยคนี้ทำให้ตื่นขึ้นมาจากการมโน
และอยากล้มเลิกความตั้งใจในทันที
บางทีมันก็รู้สึกใจเสียนะ
คนที่เราคิดว่าเขาจะคอย support
เป็นแรงหนุน เป็นกำลังใจให้กับเรา
กลับไม่ได้เชื่อมั่นในตัวเราสักนิด
ว่าเราจะทำตามความฝันได้สำเร็จ
จริงอยู่ว่าทุกอย่างมันมีพื้นฐานมาจากความห่วงใย
เป็นห่วงและกลัวว่าเราจะล้มแบบไม่เป็นท่า
แต่แค่คอยส่งแรงเชียร์ให้ไกลๆ
ยังไงมันก็คงดีกว่ามาตัดกำลังใจกันซึ่งๆหน้าแหละ
การออกมาจาก comfort zone นี่มันยากจังเลยเนอะ
ถึงคนที่เรารักจะไม่ support เรายังไง
อย่างน้อยก็ขอกำลังใจเล็กๆจากคนไข้ก็ยังดี
จะพยายามให้ถึงที่สุด
เพื่อให้มีคลินิกกายภาพที่ได้ช่วยเหลือคนไข้
ให้พ้นจากความไม่สบายกายและไม่สบายใจ
เท่าที่จะสามารถช่วยได้
คิดว่าถ้าทุกอย่างตั้งอยู่บนความตั้งใจดี
ผลที่ได้ก็จะออกมาดีแน่นอน
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
#คลินิกกายภาพบำบัดแห่งหนึ่ง
#กายภาพบำบัด #PhysicalTherapy
ถ้าเราเปิดคลินิกกายภาพในช่วงปีนี้ มีโอกาสไปได้รอดมากหรือน้อยแค่ไหนกันนะ
มีประสบการณ์ทางคลินิกมาประมาณ 12 ปี
และตอนนี้อยากเปิดคลินิก แต่คนรอบข้างไม่เห็นด้วย
เพราะเป็นห่วง กลัวเราไม่มีคนไข้และเจ๊งไปในที่สุด
และการเปิดคลินิกของเรา คือย้ายจากฝั่งธนมาอยู่แถวพระราม 9 หรือรามคำแหง และคิดว่าคงต้องเริ่มต้นใหม่จาก 0
เราเป็นคนตจว. ไม่มีบ้านในกรุงเทพ
แต่อยากหาเช่าบ้านไว้ทำคลินิก และได้บ้านหลังที่ถูกใจแล้ว เพียงแต่ระหว่างนี้รอมติที่ประชุมจากกระทรวง
เรื่องการอนุญาตให้ทำคลินิกในบ้านได้ไหม (เมื่อก่อนเคยทำได้ แต่ตั้งแต่เดือนกพ.มีปัญหาเกิดขึ้นกับคลินิกลักษณะนี้ เลยชะลอการอนุมัติไปก่อน)
สิ่งที่อยากรู้ก็คือ ในมุมมองของคนทั่วไป คิดเห็นยังไงกับการที่จะมีคลินิกกายภาพเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งในกรุงเทพมหานคร จะไปรอดไหม ยังเป็นที่ต้องการอยู่ไหม
เพราะเท่าที่ค้นใน google map ก็ขึ้นพรึ๊บเป็นดอกเห็ด
_______________________________
ทำไมถึงอยากเปิดคลินิก((ที่บ้าน))
>> แค่ได้ทำงานที่เรารัก ได้อยู่ที่บ้าน ไม่ต้องเดินทาง
ไม่ต้องเจอรถติด
>> แค่ได้ทำบุญ แค่ได้มีโอกาสแบ่งปันให้กับคนที่เขา
ไม่มี
>> แค่ได้อยู่บ้าน เปิดเตาทำขนม ทำในสิ่งที่เรารัก
ทำแจกคนไข้บ้าง รับออเดอร์บ้าง
>> แค่มีพื้นที่ให้ได้ทำสวน ปลูกผักไว้กินเองในบ้าน
เอาไว้แจกคนไข้ (ถ้าผักงาม)
>> แค่ได้ support คนในครอบครัว
แค่นี้ก็คงตอบคำถามและตอบโจทย์ได้ดีที่สุดแล้ว
_________________________________
ตื่นนนนน !!!!
หยุดโลกสวยได้แล้ว ชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
ออกมาจากทุ่งลาเวนเดอร์ก่อน !!!!
มีคนหนึ่งตบหน้าเราให้ตื่นด้วยประโยคนี้
มีเงินทุนไหม นี่มันยุคโควิด
คนไม่ค่อยใช้เงิน ยุคที่อะไรๆก็แพง
แล้วถ้าคลินิกไม่มีคนไข้เลยจะทำยังไง
จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน
แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
สำรองไว้กี่เดือน ถ้ามีเงินสำรองฉุกเฉินไม่ครบ 12 เดือน
ก็อย่าเพิ่งเปิด
ประโยคนี้ทำให้ตื่นขึ้นมาจากการมโน
และอยากล้มเลิกความตั้งใจในทันที
บางทีมันก็รู้สึกใจเสียนะ
คนที่เราคิดว่าเขาจะคอย support
เป็นแรงหนุน เป็นกำลังใจให้กับเรา
กลับไม่ได้เชื่อมั่นในตัวเราสักนิด
ว่าเราจะทำตามความฝันได้สำเร็จ
จริงอยู่ว่าทุกอย่างมันมีพื้นฐานมาจากความห่วงใย
เป็นห่วงและกลัวว่าเราจะล้มแบบไม่เป็นท่า
แต่แค่คอยส่งแรงเชียร์ให้ไกลๆ
ยังไงมันก็คงดีกว่ามาตัดกำลังใจกันซึ่งๆหน้าแหละ
การออกมาจาก comfort zone นี่มันยากจังเลยเนอะ
ถึงคนที่เรารักจะไม่ support เรายังไง
อย่างน้อยก็ขอกำลังใจเล็กๆจากคนไข้ก็ยังดี
จะพยายามให้ถึงที่สุด
เพื่อให้มีคลินิกกายภาพที่ได้ช่วยเหลือคนไข้
ให้พ้นจากความไม่สบายกายและไม่สบายใจ
เท่าที่จะสามารถช่วยได้
คิดว่าถ้าทุกอย่างตั้งอยู่บนความตั้งใจดี
ผลที่ได้ก็จะออกมาดีแน่นอน
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
#คลินิกกายภาพบำบัดแห่งหนึ่ง
#กายภาพบำบัด #PhysicalTherapy