Balance ชีวิตไม่ได้

เนื่องด้วยสถานนะการโควิด และวิกฤตอื่นๆที่ผ่านมา ทำให้ภารกิจหลายๆอย่างของผู้คนในสังคมเปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์ แน่นอนว่ามันทำให้การใช้ชีวิตนั้นยากลำบากขึ้น ครอบครัวผมก็เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ต้องซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนใหม่ แต่สำหรับตัวผมนั้นมันก็มีดีอยู่บ้าง
ท้าวความไปในช่วงที่เป็นนิสิตชั้นปีที่1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ผมได้รับรู้ข่าวสารจากครอบครัวว่า พ่อแม่ต้องย้ายไปทำงานที่อื่น พ่อจำเป็นต้องไปดูแลย่า แม่อยู่กับยายอยู่แล้ว แต่ก็ต้องย้ายไปที่อื่นตามหน้าที่(ขับรถไปกลับ แค่ต้องตื่นเช้ากว่าเดิม และกลับช้ากว่าเดิม) พี่สาวต้องไปฝึกงานที่กรุงเทพ แล้วประเด็นคือบ้านของผมอยู่คนละที่จังหวัดกับมหาวิทยาลัย มันเหมือนเป็นการบีบผมในฐานะลูกชายคนเดียว ส่วนญาติก็...หวังยาก เป็นเรื่องปกติของครอบครัวที่ลูกคนเล็กต้องเลี้ยงดูพ่อแม่(แม่ผมเอง) แต่พอโควิดเริ่มระบาดหนักขึ้นในปีที่แล้วมันทำให้ผมได้เรียนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ ทำให้ผมสบายใจขึ้นอย่างมาก ที่สามารถมาดูแลยายแบ่งเบาภาระแม่ได้โดยไม่ต้องกังวลกับมหาวิทยาลัย (แน่นอนว่าก็เรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง และตอนนั้นแม่ก็ยังไม่ย้าย)
รวมถึงทำอาชีพเสริมที่ทำอยู่บ้านไปพร้อมกันได้ จนมาถึงตอนนี้เวลาแห่งความสบายใจก็เริ่มหมดลงเมื่อแม่ต้องย้ายและพี่สาวที่ต้องไปแล้ว(น่าจะเดือน4-5)
มหาวิทยาลัยก็อาจจะจะเป็นให้เรียนเป็นปกติ ผมไม่รู้กังวลว่าbalanceยังไง ครอบครัวก็ต้องดู ธุรกิจก็อาจจะเลิกได้ กิจกรรมหรือค่ายของมหาลัยก็ต้องทำถ้าไม่ทำจะเป็นเหมือนตราบาปไม่ได้รับการยอมรับทั้งสังคมมหาวิทยาลัยและสังคมของการทำงาน(มันก็มีไม่กี่คณะหรอกที่อยากให้นิสิตทำกิจกรรมและค่าย) ผมไม่รู้จะทำยังไงดี หรือว่าขับรถข้ามจังหวัดไปกลับทุกวันดี ประมาณ 20 - 40 กม.(จำระยะทางแน่นอนไม่ได้แต่น่าไม่เยอะหรือน้อยไปกว่านี้) แต่ถ้าทำอย่างนั้นกิจกรรมก็ไม่ได้ทำ ช่วยมาแลกเปลี่ยน เสนอความคิด ช่วยผมหน่อยครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่